ประชาไท - 6 ก.ค.48 เมื่อเช้าตรู่วันนี้ เจ้าหน้าที่สายตำรวจในอ.รามัน จ.ยะลา ได้ออกเก็บใบปลิวโจมตีรัฐไทย และข่มขู่ชาวมุสลิมที่ทำงานกับภาครัฐ ที่กระจายอยู่ตามเส้นทางสายโกตาบารู-กาลอ, สายรามัน-อาซ่อง, สายยะต๊ะ-โกตาบารู และสายกอตอตือระ-วังพญา เพื่อใช้เป็นหลักฐานสำหรับสืบหาแหล่งที่มา

ใบปลิวขนาดเอ 4 พิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์หน้าหลัง มีคำเตือนสำหรับมุสลิมในพื้นที่ด้วยว่า "สำหรับชาวมุสลิมผู้กระหาย 4,500/เดือน รวมทั้ง อสม.หน่วยข่าวต่างๆ ตำรวจหมู่บ้าน หรือสุนัขรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ต่อกาฟีร์ทั้งปวง โปรดจงรับรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านก็มีเชื้อสายมลายู สัญชาติมลายู ศาสนาอิสลาม เช่นเดียวกับเราทุกประการ"

"ท่านไม่ใช่ศัตรูของเหล่านักรบมูจาฮิดีนปัตตานีแต่ประการใด หากแต่ท่านถ้าหากท่านให้ความร่วมมือและให้การสนับสนุนกาฟีร์สยามผู้รุกรานอธิปไตยแห่งรัฐปัตตานี ก็เปรียบเสมือนท่านจงใจประกาศสงครามกับเหล่านักรบแห่งรัฐปัตตานีเช่นกัน อย่างนี้ท่านจะเลือกในแนวทางไหน เพื่อที่จะให้ส่งผลให้ท่านมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งในดุนยาและอาคีเราะห์ ลงชื่อ อามีน ด้วยรักและห่วงใย" ใบปลิวระบุ

ขณะที่ด้านหน้ามีการแจกแจง 9 ข้อของ "นโยบายโสมมแห่งจักรวรรดินิยมสยาม" ข้อแรกระบุว่า รัฐปัตตานีถูกยึดครองโดยจักรวรรดินิยมสยาม ซึ่งได้เข่นฆ่าชาวมาลายูนับหมื่นคน เผาบ้านเรือนราษฎร ตั้งบ้านกรือเซะตลอดแนวจนถึงที่ตั้งของพระราชวัง 3 แยก

ข้อที่2 ชาวปัตตานีตกเป็นเชลยนับพันคน ถูกทารุณกรรมอย่างเหี้ยมโหดเยี่ยงสัตว์ โดยเจาะข้อเท้าด้วยไม้หวาย เดินด้วยเท้าเปล่านับพันกิโลเพื่อนำไปเป็นทาสที่กรุงเทพฯ ข้อที่ 3 มีการบังคับให้เชลยปัตตานีขุดคลองด้วยมือเปล่านับ 10 กิโลเมตรรอบเมืองหลวง จนเป็นตำนานคลองแสนแสบในปัจจุบัน ข้อ 4 ชาวปัตตานีถูกฆ่าในเหตุการณ์เข่นฆ่าประชาชนที่ดุซงญอและบ้านบลูกาสาเมาะ

ข้อ 5 ปี 2538 ประชาชนถูกฆ่าอัดถังแดงเผาทั้งเป็น ข้อ 6 มีการฆ่าประชาชนที่มัสยิดกรือเซะเมื่อวันที่ 28 เม.ย. 2547 ข้อ 7 ระบุถึงการฆ่าประชาชนที่อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เมื่อ 25 ต.ค.47 ข้อ 8 มีการขว้างระเบิดร้านค้าสหกรณ์ จนประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ข้อ 9 ยิงนักเรียนปอเนาะผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 3 ราย ที่บ้านเลขที่ 29/23 บ้านกูบังอีเต๊ะ ปัตตานี ซึ่งทั้งหมดเป็นการกระทำของคนนอกศาสนาที่ยึดครองที่ต้องการล้างเผ่าพันธุ์ชาวมลายูผู้บริสุทธิ์

ขณะที่หน้าหลังมีข้อความว่า "นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้นที่เปิดเผยให้สาธารณชนได้รับรู้และรับทราบถึงความป่าเถื่อนของกาฟีร์สยามผู้บ้าอำนาจ จึงขอวิงวอนให้ชาวปัตตานีที่รักยิ่งพึ่งสังวรณ์และจงสำนึกเถิดว่ากาฟีร์สยามผู้ยึดครองนั้นแท้จริงแล้วกลับกลอก ปลิ้นปล้อน หลอกลวง หน้าไว้หลังหลอก ตีสองหน้าตลอด 24 ชม.เพื่อล่อลวงให้ชาวมลายูติดกับ ลืมตัวลืมตน ทั้งยังหาหนทางเพื่อที่จะได้ฆ่าชาวมลายูปัตตานีให้หมดไป"