Skip to main content
sharethis

นายฉลองภพ สุสังกร์กาญจน์ ประธานมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ ระบุว่า รัฐบาลควรทบทวนโครงการในเมกกะโปรเจคท์โดยการตัดให้เหลือครึ่งหนึ่ง คือ 8.5 แสนล้านบาท หรือชะลอโครงการที่ไม่จำเป็นออกไปก่อนเพื่อลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

"ควรหยุดการชดเชยราคาน้ำมันทันที ควรจะเริ่มอาทิตย์หน้า จะทำให้เหลือเงินที่ไม่ต้องไปชดเชยต่อ เนื่องทั้งปีถึง 2 หมื่นล้านบาท นำไปลงทุนโครงการอื่นๆของรัฐได้อีก" นายฉลองภพกล่าว

ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวนอกจากจะไม่ทำลายบรรยากาศการลงทุนอย่างแน่นอนแล้ว ยังจะทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในเสถียรภาพระยะยาวของเศรษฐกิจไทย เพราะหากรัฐบาลเร่งใช้เงินจำนวนมากในสภาวะที่ประเทศประสบปัญหาเรื่องดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ จะยิ่งทำให้เศรษฐกิจในอนาคตมีปัญหามากขึ้นจนไม่สามารถแก้ไขได้

"การเลิกอุดหนุนราคาน้ำมัน และการลดวงเงินลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์ จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น และทำให้รัฐบาลนำเงินไปช่วยเหลือในด้านอื่นๆ ได้ เช่น การแก้ไขปัญหาความยากจน" นายฉลองภพ กล่าว

โครงการในเมกะโปรเจคท์ ที่ประธานTDRI ระบุ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีต่างๆ ซึ่งไม่จำเป็น
ต้องเร่งสร้างเครือข่ายให้ครอบคลุมภายในระยะเวลาเพียง 5 ปี เพราะแม้แต่ประเทศที่พัฒนาแล้วยังต้องใช้เวลาถึง 20-30 ปี กว่าจะสร้างได้ครอบคลุมทั้งหมด

สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปี 48 นั้น ทีดีอาร์ไอเห็นว่า มีแนวโน้มที่จะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ได้รับความกระทบกระเทือนจากซึนามิ, การท่องเที่ยวที่หดตัว, การนำเข้าสูง, ราคาน้ำมันแพง และปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดยคาดว่าทั้งปี 48 และปี 49 อัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) อยู่ที่ 4.5% และ 5.6% ตามลำดับ

ส่วนตัวเลขการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 48 จะอยู่ที่ระดับ 1.7% ของจีดีพี เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมัน และคาดว่า เงินเฟ้อทั้งปี 48 จะอยู่ที่ 4.1%

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net