ประชาไท-14 ก.ค. 48 กรรมาธิการร่วม ถกแก้ร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนอีกครั้ง อนุญาตให้ชาวบ้านใช้ไม้ได้ แต่ไม่ใช่เพื่อการค้า และอยู่ใต้กฎคณะกรรมการป่าชุมชนแต่ละแห่ง

นายผ่อง เล่งอี้ ประธานคณะกรรมาธิการร่วมระหว่างสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)ป่าชุมชน กล่าวว่า แนวทางที่สรุปในที่ประชุมวันนี้เป็นการพบกันครึ่งทางในเรื่องการใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน ซึ่งเดิมเป็นข้อขัดแย้งกันระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) และสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.)

ทั้งนี้ มาตรที่ 31 ในร่างเดิมของฝ่าย ส.ส . เห็นว่าการที่จะใช้ประโยชน์จากป่าชุมชน โดยเฉพาะการนำไม้ออกจากพื้นที่ป่า สามารถทำได้ โดยได้รับการยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยป่าไม้และการแปรรูป แต่ในฝ่าย ส.ว.แย้งว่าไม่ควรได้รับการยกเว้น

ด้านนายบัณฑูร เศรษฐศิโรตม์ กรรมาธิการฯ ได้นำเสนอ ร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชน มาตรา 31 ที่แก้ไขต่อที่ประชุม โดยมีเนื้อความว่า การที่จะนำไม้ออกนอกเขตป่าชุมชนจะได้รับการยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ฯ ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบที่คณะกรรมการนโยบายป่าชุมชนกำหนดขึ้น แต่หากนำออกไปไกลจากป่าชุมชนจนกระทั่งเกินขอบเขตการผ่านด่านป่าไม้จะไม่ได้รับการยกเว้นจากกฎหมายว่าด้วยป่าไม้ฯ

โดยนายบัณฑูรได้ให้คำอธิบายว่า มาตราที่แก้นั้นจะทำให้ผู้เป็นสมาชิกป่าชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากป่าชุมชนมาใช้สอยในครัวเรือนได้โดยไม่ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับเหมือนในอดีต แต่สามารถป้องกันการใช้ประโยชน์เชิงธุรกิจได้ เพราะไม่สามารถนำไม้ออกนอกเขตด่านป่าไม้ได้อย่างเสรี

อย่างไรก็ตาม นายสงวน พงษ์มณี และนางพรหมจารี รัตนเศรษฐ์ กรรมาธิการร่วม ได้แย้งในประเด็น การเคลื่อนย้ายไม้ออกจากป่าชุมว่า ไม้เมื่อนำออกจากป่าแล้วนั้น ไม่สามารถรู้ได้ว่ามาจากในเขตป่าชุมชนที่ตัดไม้ใช้สอยได้ หรือเขตป่าอนุรักษ์ที่ห้ามตัดไม้ เพราะพอออกมาก็เป็นไม้เถื่อนเหมือนกัน ข้อกฎหมายที่เสนอมาดังกล่าวจึงยังไม่ครอบคลุม เพราะชาวบ้านก็ยังเสี่ยงโดนเจ้าหน้าที่ป่าไม้จับเหมือนเดิม

หลังจากนั้นที่ประชุมได้ถกในประเด็นดังกล่าวเป็นเวลานานจนได้ข้อยุติว่า จะยังคงลักษณะมาตราที่ 31 ตามร่างที่นายบัณฑูรเสนอ แต่จะต้องขอความร่วมมือจากกรมป่าไม้ หรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในการหามาตรการควบคุม เพื่อทำให้รู้ว่าไม้ที่นำออกมาเป็นไม้จากป่าชุมชน เช่นการทำค้อนตราสัญลักษณ์เฉพาะชุมชนที่จะไว้ประทับไม้ที่คณะกรรมการป่าชุมชนอนุญาตให้เคลื่อนย้ายออกจากป่าได้

จากนั้นที่ประชุมได้มอบหมายให้นายบัณฑูร และตัวแทนจากกฤษฎีกาที่เข้าร่วมประชุม นำแนวคิดดังกล่าวไปหารือ เพื่อเขียนนำเสนอร่างแก้ พ.ร.บ.ป่าชุมชน มาตราดังกล่าวในการประชุมคราวต่อไป

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการร่วมเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนมาทุกสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังรัฐบาลร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาต่อเมื่อวันที่ 22 เม.ย.48 ซึ่งการตั้งคณะกรรมาธิการร่วมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่2 แล้ว หลังจากไม่สามารถหาข้อสรุปได้ทันในสมัยของรัฐบาลทักษิณ1


อ่านข่าวย้อนหลัง
http://www.prachatai.com/news/show.php?Category=nm&No=4642
http://www.prachatai.com/news/show.php?Category=nm&No=4824
http://www.prachatai.com/news/show.php?Category=nm&No=5136