Skip to main content
sharethis

แถลงการณ์สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.)


คัดค้าน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน


อย่าเอาประชาชนไปจองจำ เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาด


           


สืบเนื่องจากการประกาศใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม 2548 ที่ผ่านมานั้น ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ได้ศึกษาและพิจารณากฎหมายดังกล่าวอย่างรอบคอบแล้ว และเห็นว่า พระราชกำหนดดังกล่าว มีลักษณะของการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างชัดเจน แม้ว่า ทางรัฐบาลจะกล่าวอ้างความชอบธรรมจากช่องว่างของรัฐธรรมนูญทำให้สามารถออกกฎหมายมาบังคับใช้ได้ก็ตาม แต่การกระทำดังกล่าว ก็เปรียบเสมือนการปล้นประชาชน ด้วยการอาศัยเหตุผลของการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐ โดยที่ยังไม่ได้ทบทวนหน้าที่ของรัฐอย่างจริงจัง ล่องลอยไปตามกระแสความรุนแรง คิดเพียงต้องการกำจัดและยุติความรุนแรงไม่ทราบฝ่ายให้หมดสิ้นไป ไม่มีกระบวนความคิดในการเคารพประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย ไม่มีการรายงานผลการปฏิบัติงานภายใต้กฎอัยการศึกที่ล้มเหลวว่าเป็นไปอย่างไรอย่างตรงไปตรงมา โดยคิดเพียงต้องการลบล้างความผิดพลาดของตนจากผลงานที่ดีขึ้น ด้วยกระบวนการและวิธีการเช่นเดิม


 


ทางสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จึงมีความเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังต่อไปนี้


1.        สนนท.ขอคัดค้านแนวทางการแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยการใช้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เนื่องด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ


1.        การแก้ปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่สามารถทำได้ด้วยการจับประชาชนมาขังคุก การละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ดังกล่าว ยิ่งจะส่งผลให้ความรุนแรงขยายตัวขึ้น การแก้ปัญหาความรุนแรงด้วยความรุนแรงไม่เคยมีที่ใดที่ประสบความสำเร็จ


2.        กระบวนการแก้ปัญหาแบบรวมอำนาจ ที่พ.ร.ก.ฉบับนี้สถาปนาขึ้น ไม่สามารถแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ได้ การกระจายอำนาจเท่านั้นที่เป็นทางออก เพราะจะสามารถแก้ไขปัญหาด้วยวิถีทางที่เหมาะสมกับสภาวการณ์ของพื้นที่ได้ดีที่สุด จากสภาพการณ์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า คนนอกพื้นที่ที่ลงไปแก้ปัญหานั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย มีแต่จะก่อปัญหาให้มากขึ้น


2.        สนนท.ขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้ออกมาแถลงความจริงเกี่ยวกับพ.ร.ก.ฉบับนี้ทุกประการ โดยเฉพาะเนื้อหาของพ.ร.ก.ดังกล่าวที่ยังมีความเคลือบแคลงสงสัย สามารถตีความได้ตามแต่ดุลพินิจของผู้บังคับใช้กฎหมาย เพื่อให้ประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้รับรู้ว่าตนจะได้รับผลกระทบอย่างไรจากพ.ร.ก.นี้บ้าง เนื่องจากประชาชนทุกคนเป็นเจ้าของประเทศนี้ ทุกคนเป็นเจ้าของชีวิต สิทธิ และเสรีภาพของตนเอง การลิดรอนหรือละเมิดสิ่งเหล่านี้สมควรต้องได้รับความยินยอมจากเจ้าของด้วย ไม่ใช่เพียงแต่คิดว่า วัตถุประสงค์ชัดเจนว่าทำเพื่อประโยชน์ประชาชนอยู่แล้ว และออกมาตอบโต้กลุ่มผู้คัดค้านท้วงติงด้วยการพูดความจริงไม่หมดซึ่งทำให้ประชาชนส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจผิด


 


3.        รัฐบาลต้องรายงานผลการปฏิบัติการการแก้ปัญหาภาคใต้ภายใต้กฎอัยการศึกที่ผ่านมาให้ประชาชนทราบอย่างเป็นทางการ เพื่อนำไปสู่การทบทวนและสรุปบทเรียนเกี่ยวกับแนวทางการแก้ปัญหาในลักษณะการใช้อำนาจควบคุม ทั้งนี้ การทบทวนและสรุปบทเรียนดังกล่าวต้องให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมระดมความคิดเห็นด้วย ไม่ใช่เพียงแต่ฝ่ายการเมือง ฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหารเท่านั้น เพื่อทำให้การทบทวนและสรุปบทเรียนดังกล่าวมีความรอบคอบ รอบด้าน และยืนยันข้อเท็จจริงได้ไม่ใช่เพียงสันนิษฐานเอาจากการประเมินในแง่มุมของบุคคลเพียงไม่กี่หน่วยงาน


4.         รัฐบาลต้องเปลี่ยนมุมมองต่อประชาชน ต้องให้ความเคารพและไว้วางใจว่า ทุกฝ่ายล้วนแต่มีความปรารถนาดีต่อชาติบ้านเมือง ต้องการให้เกิดสันติสุขขึ้นในประเทศเฉกเช่นเดียวกับคนในรัฐบาล โดยต้องศึกษาบทเรียนจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งมีสาเหตุหนึ่งมาจากการขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน อย่าพยายามเปลี่ยนมิตรให้เป็นศัตรูด้วยการมองเพียงแค่ว่าเขาเหล่านั้นคิดต่างกับตนในวิธีการ


5.        ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดให้มีการประชุมเพื่อระดมความคิดเห็น และทำความเข้าใจกันระหว่างกลุ่มผู้คัดค้านและกลุ่มผู้สนับสนุนพ.ร.ก.ดังกล่าวภายในสัปดาห์หน้า เพื่อหยุดสภาวะการสื่อสารทางเดียวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งไม่ก่อให้เกิดผลดีต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล


6.        รัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีอย่าได้แสดงความเชื่อมั่นว่าการใช้อำนาจจะเป็นไปโดยถูกต้องและเหมาะสมโดยไม่มีกระบวนการป้องกันอย่างชัดเจน เนื่องจากบทเรียนจากนโยบายประกาศสงครามกับยาเสพติดโดยรัฐบาลของพ.ต.ท.ทักษิณ   ชินวัตรเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ได้ก่อให้เกิดบรรยากาศของความหวาดระแวงไปทั่วประเทศ เนื่องจากมีการให้อำนาจเจ้าหน้าที่รัฐในการปราบปรามอย่างเด็ดขาด การดำเนินการให้เป็นไปตามทางกระบวนการยุติธรรมก็หละหลวมจนกระทั่งไม่สามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ผู้บริสุทธิ์ซึ่งเป็นเหยื่อแห่งความสงสัยของเจ้าหน้าที่รัฐได้


 


ความเห็นและข้อเรียกร้องทั้งหมดนี้เป็นไปด้วยความหวังว่า จะก่อให้เกิดความสันติสุขขึ้นบนผืนแผ่นดินแห่งนี้โดยเร็ววันและยั่งยืน


                                               


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย ( สนนท.)


24 กรกฎาคม 2548


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net