เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2548 ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) พล.ต.ต.ชนบดี สันติชนาธิปัต ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 1 (ผบก.ส.1) แถลงข่าวการจับกุมนายสุลกิปลี ยะมิง อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่บ้านเลขที่ 175 หมูที่ 2 ตำบลบาเจาะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา ตามหมายจับของศาลจังหวัดยะลา เลขที่ จส.271/2548 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, กระทำการให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินของผู้อื่นในที่จอดรถสาธารณะ เหตุเกิดที่ลานจอดรถหลังที่ว่าการอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา เมื่อ วันที่ 23 มิถุนายน 2548

พล.ต.ต.ชนบดี แถลงว่า สืบเนื่องจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดที่ว่าการอำเภอในจังหวัดยะลา 4 แห่ง พร้อมกัน ประกอบด้วยที่ว่าการอำเภอรามัน, บันนังสตา, ยะหา และกรงปินัง เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2548 โดยคนร้ายได้นำระเบิดแสวงเครื่องซุกซ่อนอยู่ในรถจักรยานยนต์และนำมาจอดทิ้งไว้ที่ลานจอดรถบริเวณจุดเกิดเหตุ ก่อนจุดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานในกรุงเทพฯ ทางศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า (ศปก.ตร.สน.) จังหวัดยะลา จึงประสานมายังกองบัญชาการตำรวจสันติบาลให้ทำการสืบสวน จนทราบว่านายสุลกิปลี ซึ่งเป็นผู้วางระเบิดที่บริเวณลานจอดรถหลังที่ว่าการอำเภอบันนังสตา หลังจากก่อเหตุได้หลบมาพักอาศัยกับเพื่อนที่หอพักพื้นที่ สถานีตำรวจนครบาลอุดมสุข (ย่านรามคำแหง 2) จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้เมื่อเวลา 11.00 น.วันเดี่ยวกัน จะส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ไปสอบสวนขยายผลต่อไปที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้าต่อไป

พล.ต.ต.ชนบดี แถลงอีกว่า ขณะนี้ยังยืนยันไม่ได้ว่าผู้ต้องหารายนี้เกี่ยวโยงกับขบวนการใด หรือเป็นสมาชิกของกลุ่มใด แต่เชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับคดีอื่นอีก แม้ผู้ต้องหารายนี้เป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่จากการสืบสวนเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีนักศึกษารายอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องกับการก่อความไม่สงบในภาคใต้

ทั้งนี้จะสืบสวนขยายผลว่าเพื่อนที่พักอาศัยอยู่ด้วยกันเป็นแนวร่วมขบวนการเดียวกันด้วยหรือไม่ ซึ่งพฤติการณ์ของคนร้ายที่ก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อก่อเหตุแล้วมักจะหลบหนีไปกบดานนอกพื้นที่ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่นๆ แต่ไม่พบพฤติการณ์ที่ผู้ต้องหารายนี้หรือรายอื่นๆ เตรียมก่อเหตุในกรุงเทพฯ จึงขอให้วางใจในความปลอดภัย ซึ่งขณะนี้ทั้งตำรวจสันติบาล นครบาล สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีการหาข่าวและเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา