โดย นิตยสารรายสัปดาห์ "พลเมืองเหนือ"
กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี เร่งเดินหน้าแผนงานโครงการฟื้นฟูและพัฒนาแม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม กำหนดแผนระยะ 5 ปี 2549 - 2553 เผยต้องใช้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ขยายแม่น้ำปิงให้กว้าง 80 -
นายก
โดยในปีงบประมาณ 2549 ตั้งเป้าที่จะขุดลอกแม่น้ำปิงในเขตอำเภอเชียงดาวถึงอำเภอแม่แตง ซึ่งจะดำเนินการใน 2 ลักษณะคือ กรมฯดำเนินการเองและอีกส่วนหนึ่งจะจ้างเหมาเอกชนดำเนินการ คิดเป็นปริมาณดินขุด 6.13 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งในปี 2549 กรมฯ ได้รับงบประมาณในการจ้างเหมาเอกชนขุดลอกแล้ว คิดเป็นปริมาณดิน 0.50 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวงเงิน 18 ล้านบาท และยังคงเหลือปริมาณดินที่ต้องขุดอีกประมาณ 5.63 ล้านลูกบาศก์เมตร วงเงิน 202.68 ล้านบาท นอกจากนี้ กรมฯ จะทำการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำจำนวน 2,420 หลัก ในวงเงินงบประมาณ 1.20 ล้านบาท
จากนั้นในปี 2550 กรมฯ ได้ตั้งเป้าขุดลอกแม่น้ำปิงต่อจากปีงบประมาณ 2549 ลงไปจนถึงอำเภอดอยเต่า คิดเป็นปริมาณดินขุด 8.23 ล้านลูกบาศก์เมตร ในวงเงิน 296.28 ล้านบาท พร้อมกับการปักหลักเขตควบคุมทางน้ำอีกจำนวน 2,420 หลัก ในวงเงินงบประมาณ 1.21 ล้านบาท โดยคาดว่าเมื่อสิ้นปีงบประมาณ 2550 แม่น้ำปิงจะมีความกว้างอย่างน้อย
ส่วนในปีงบประมาณ 2551 การดำเนินการจะเน้นการปรับแต่งภูมิทัศน์ริมตลิ่งทั้ง 2 ฝั่ง ตั้งแต่อำเภอเชียงดาวถึงอำเภอดอยเต่า ในส่วนที่แม่น้ำปิงมีความกว้างเพียงพอแล้วไม่น้อยกว่า
นายกฤช กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการขุดลอกแม่น้ำปิงในปีงบประมาณ 2548 ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ กรมฯ ได้ว่าจ้างเอกชนดำเนินการคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด กรุงไทยสถาปัตย์ โดยเริ่มสัญญาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2548 และจะสิ้นสุดในเดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งการขุดลอกในส่วนนี้จะเริ่มขุดตั้งแต่อำเภอแม่แตง - อำเภอสันทราย - อำเภอแม่ริม อำเภอหางดง - อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทางประมาณ
ทั้งนี้ การดำเนินการขุดลอกในปี 2548 นั้น กรมฯ ได้ทำการสำรวจแนวลำน้ำตลอดแนวจากอำเภอแม่แตง - อำเภอแม่ริม พบว่าพื้นที่สองฝั่งแม่น้ำที่จะทำการขุดลอกนั้นเป็นพื้นที่การเกษตรที่ชาวบ้านทำกิจการอยู่ ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิ์ครอบครอง ในส่วนนี้สามารถดำเนินการได้ แต่ยังไม่พบกรณีการบุกรุกหรือถือครองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งการดำเนินการในระยะปี 2549 - 2553 กรมฯ ก็ต้องสำรวจแนวลำน้ำ 2 ฝั่งด้วยเช่นกัน หากมีการบุกรุกก็จะต้องดำเนินตามขั้นตอนคือการเจรจาให้มีการรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง หรือหากประชาชนยังไม่ให้ความร่วมมือก็ต้องใช้มาตรการทางกฎหมาย
สำหรับการแก้ไขปัญหาเรื่องการบุกรุกล่วงล้ำแม่น้ำปิง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แม่น้ำปิงแคบลงจนน้ำไหลไม่สะดวก กรมฯ ได้ดำเนินการ 2 รูปแบบคือ 1.เจรจาขอความร่วมมือกับประชาชนที่บุกรุกล่วงล้ำลำน้ำให้ทำการรื้อถอนสิ่งก่อสร้าง ซึ่งมีประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ส่วนในรายที่ไม่ยอมรื้อถอน กรมฯ ได้ดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้บุกรุกตามมาตรา 117 แห่ง พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2546 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการจำนวน 16 คดี คือ รอขึ้นศาลช่วงเดือนพฤศจิกายน 2548 จำนวน 8 คดี และอยู่ในขั้นตอนของอัยการอีกจำนวน 12 คดี
******************
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)