ชาวชุมชนวัดท่าวังหิน เบญจะมะ 3 ปากมูลน้อย รวมถึงชุมชนอื่นๆ ที่เดือดร้อนจากโครงการสร้างถนน เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมสิทธิฯ หวังให้ทางการชี้แจงรายละเอียดโครงการ ด้านทางหลวงชนบทแจงหากราษฎรไม่เห็นด้วยก็ยกเลิก
ความคืบหน้าของการคัดค้านการก่อสร้างถนนในเขตเทศบาลนครอุบลฯ ซึ่งต้องมีการเวนคืนที่ดินและทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนนั้น วานนี้ (22 พ.ย. 48) นาง
โดยในวันที่ 21 พฤศจิกายน 48 ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมกับชาวชุมชนทั้งหมด 22 คนได้เดินทางไปที่รัฐสภาฯ เพื่อยื่นหนังสือพร้อมกับภาพถ่ายทางอากาศของทหารซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแออัดของประชาชนในชุมชนของตนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เรียกร้องขอความเป็นธรรม ซึ่งมีเนื้อหาว่า ต้องการให้รัฐโดยเฉพาะกรมทางหลวงชนบทชี้แจงรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะจากที่ทราบข่าวมาถึงวันนี้ยังไม่มีความชัดเจนแต่อย่างไร
"ถึงวันนี้เรายังไม่ทราบแน่ชัด ทั้งพื้นที่ที่จะเวนคืน ความเป็นมาของโครงการ การกำหนดผังเมืองทำไมพึ่งโผล่มาให้ชาวบ้านรู้ อยากรู้ว่าประชาชนที่ถูกเวนคืนจะได้อะไร แล้วจะให้เขาไปอยู่ที่ไหน ทั้งที่ที่ตรงนี้เราอยู่มาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย หรือท่านจะกวาดต้อนวิถีชีวิตของชุมชนเราลงสู่แม่น้ำมูล"
"เท่าที่ผ่านมามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่เข้ามาชี้แจงรายละเอียดกับชาวบ้าน ซึ่งรายละเอียดก็ยังไม่ชัดเจน รวมทั้งประเด็นค่าตอบแทนท่านก็บอกว่า จะให้ค่าเวนคืนทั้งที่ท่านก็รู้ว่า ที่ดินของราชพัสดุ ไม่สามารถให้ค่าเวนคืนได้ ให้ได้เฉพาะค่ารื้อถอนเท่านั้น"
ทั้งนี้คณะกรรมการสิทธิได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวไว้ และจะส่งเจ้าหน้าที่มาลงพื้นที่เพื่อสำรวจข้อเท็จจริงอีกครั้งภายในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ รวมทั้งตนอยากให้ทุกคนที่เดือดร้อนไปฟังการชี้แจงจากทางการในวันที่ 25 พฤศจิกายน 48 ที่ศาลาประชาคม เวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อรักษาสิทธิความเป็นคนไทย ซึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมในสังคม
ด้านนายเชษฐพงษ์ ใจสมบุญ หัวหน้าทางหลวงชนบทจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า โครงการก่อสร้างถนนซึ่งต้องเวนคืนที่ดินของราษฎรในชุมชนของเทศบาลนั้น เป็นโครงการที่อยู่ในผังเมืองรวมซึ่งมีการกำหนดมาตั้งนานแล้ว โดยผลดีที่จะเกิดขึ้นคือจะช่วยการจราจรในเทศบาลนครอุบลฯ ให้มีความคล่องตัว ซึ่งถนนสายดังกล่าวจะระบายรถ ออกสู่ถนนเลี่ยงเมืองได้ง่ายมากขึ้น โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการสำรวจทรัพย์สินที่จะต้องเวนคืน แต่ก็เกิดปัญหาขึ้นก่อน เนื่องจากราษฎรบางส่วนไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจทำให้การสำรวจล่าช้า ซึ่งตนถือว่าเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นกับทุกพื้นที่ไม่เฉพาะอุบลฯ สำหรับการสำรวจทรัพย์สินการเวนคืนพื้นที่ดังกล่าวคาดว่าจะทำเสร็จสิ้นได้ภายใน 6 เดือน และเริ่มทำการก่อสร้างได้ในปีหน้า
"ราษฎรในพื้นที่มีการเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อนบางคนก็เข้าใจว่าจะเวนคืน
อนึ่งถนนดังกล่าวมีความยาว 7.299 กม.ประกอบด้วยถนนสาย ข 5 ใช้งบประมาณก่อสร้าง 105.52 ล้านบาท ถนนสาย ง ใช้งบประมาณ 210 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งโครงการ 315,520,000 บาท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)