Skip to main content
sharethis

                        
                                             ภาพจาก www.mod.go.th


 


ประชาไท - บอร์ดทะเลสาบฯ ขยับ ผ่านฉลุยแผนลอกคลอง 42 โครงการ ใช้งบฯ 31 ล้าน "วิษณุ" คุย เน้นการมีส่วนร่วม เตรียมตั้งอนุกรรมการกำกับฯ จากภาคประชาชนเพิ่มอีก 1 คน เร่งแก้ปัญหากัดเซาะชายฝั่งด่วน


 


เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 16 ธันวาคม 2548 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา มีผู้ร่วมประชุมประมาณ 100 คน


 


นายวิษณุ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแผนงานขุดลอกคลองธรรมชาติ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำทะเลสาบสงขลา ที่เสนอโดยกรมชลประธาน กองพลพัฒนาที่ 4 กองทัพภาคที่ 4 และกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชย์นาวีรวม 42 โครงการ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 31,116,579 บาท แยกเป็น งบประมาณจากส่วนท้องถิ่น ผ่านองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และงบประมาณภายใต้แผนงบประมาณในเชิงบูรณาการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ปี 2550


 


นายวิษณุ เปิดเผยว่า สำหรับแผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ขณะนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว จากนี้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะร่วมกับจังหวัดสงขลา จังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราช และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำแผนแม่บทฯ ฉบับนี้ ไปใช้เป็นกรอบในการจัดทำงบประมาณเชิงบูรณาการเป็นรายโครงการ ภายใต้ยุทธศาสตร์ของแผนแม่บทฯ ต่อไป


 


นายวิษณุ เปิดเผยต่อไปว่า แผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา ได้แบ่งการทำงานออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะเร่งด่วน มี 4 เรื่อง ประกอบด้วย ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ซึ่งเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบมาก ควรจะได้รับการดูแลและแก้ไขโดยเร็วที่สุด แต่ปัจจุบันปัญหายังไม่ได้รับความสำคัญ ปัญหาความเสื่อมโทรมของทะเล ปัญหาอุปกรณ์การทำประมงที่ต้องจัดการให้เป็นระบบ ปัญหาความตื้นเขินของทะเล ที่ต้องขุดลอกร่องน้ำ เพราะแต่ละปีน้ำพัดพาดินลงทะเลเป็นจำนวนมาก ส่วนระยะยาว เป็นเรื่องของวิถีชีวิต วัฒนธรรม การเกษตร เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขแบบเร่งด่วนได้ จะต้องค่อยเป็นค่อยไป


 


นายวิษณุ เปิดเผยอีกว่า  แผนแม่บทการพัฒนาลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลามียุทธศาสตร์ คือ การฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติ และความหลากหลายทางชีวภาพ การใช้ประโยชน์ทรัพยากรในลุ่มน้ำแบบบูรณาการและยั่งยืน การควบคุมและป้องกันมลพิษ การอนุรักษ์และฟื้นฟูบูรณะศิลปวัฒนธรรม แหล่งประวัติศาสตร์โบราณคดี ภูมิปัญญาท้องถิ่น แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา โดยเน้นกระบวนการการมีส่วนร่วมของประชาชน จึงจะแต่งตั้งอนุกรรมการกำกับติดตามและประเมินผลจากภาคประชาชนเพิ่มอีก 1 คน จากเดิมที่มีนายบุญช่วย ทองศรี เป็นอนุกรรมการฯ ชุดนี้ จากภาคประชาชนเพียงคนเดียว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net