Skip to main content
sharethis

 



ภาพจากศูนย์ข่าวอิศรา(www.tjanews.org)


 


 


ประชาไท - ภาคใต้ช้ำอีก ฝนตกหนักชาวบ้านผวาไม่กล้าเข้าบ้าน เตือนดินยุบ-ดินถล่มบริเวณเชิงเขา คลื่นแรงซัดเรือสินค้าเกยหาดสมิหลา บรรดารัฐมนตรีดาหน้าลงช่วยใต้


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุน้ำท่วมอีกระลอกในหลายพื้นที่ของภาคใต้หลังจากเกิดฝนตกหนัก ขณะที่ชาวบ้านในหลายจังหวัดที่เคยถูกน้ำท่วมมาแล้ว เกิดความหวาดผวา เกรงว่าจะเกิดน้ำท่วมระลอกใหม่ จึงต้องอพยพมาอยู่ที่ปลอดภัยอีกครั้ง ขณะที่จังหวัดปัตตานี ได้ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยชั่วคราวในที่ปลอดภัยแล้วมิให้กลับเข้าไปยังบ้านพักในช่วงนี้ เนื่องจากระดับน้ำอาจสูงขึ้นอีกครั้ง หลังจากเกิดฝนตกหนัก


 


ที่จังหวัดพัทลุง น้ำป่าจากเขาบรรทัดไหลเข้าท่วมใน 3 อำเภอและ 1 กิ่งอำเภอ เป็นระลอกที่ 4  นอกจากนี้ยังเกิดเหตุดินยุบที่บ้านในวัง หมู่ที่ 3 ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา และมีรอยแยกห่างจากชุมชนประมาณ 800 เมตรโดยก่อนหน้านี้ เกิดเหตุดินยุบมาแล้วที่ตำบลตะแพน อำเภอศรีบรรพต และที่บ้านโคกไทร ตำบลคลองเฉลิม อำเภอกงหรา เหตุดินไหลที่บ้านน้ำตกนกรำ อำเภอกงหรา หลังจากฝนตกต่อเนื่อง


 


ขณะที่นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ได้เตือนประชาชนที่อยู่บริเวณเทือกเขาบรรทัด ให้ระวังน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม หลังจากเกิดฝนตกหนัก


 


สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพัทลุง รายงานความเสียหายจากน้ำท่วมว่า มีน้ำท่วมในพื้นที่ 10 อำเภอ 1 กิ่งอำเภอ มีผู้เสียชีวิต 6 คน บ้านเรือนเสียหายจำนวน 317 หลัง นาข้าวเสียหายสิ้นเชิง 116,559 ไร่ พืชผักพืชไร่เสียหายสิ้นเชิง 5,458 ไร่ ต้นยางพาราเสียหาย 9,614 ไร่ บ่อเลี้ยงปลาจมน้ำเสียหายจำนวน 4,312 บ่อ กระชังปลา 1,623 กระชัง บ่อเลี้ยงกุ้งเสียหาย 520 บ่อ สัตว์เลี้ยงตายและสูญหาย 302,210 ตัว ถนนถูกน้ำตัดขาด 99 สาย สะพานคอสะพานเสียหาย 89 แห่ง ฝายกั้นน้ำ 2 แห่ง มูลค่าความเสียหายด้านเกษตรและปศุสัตว์ 340 ล้านบาท


 


คลื่นแรงเรือใหญ่เกยตื้น


ขณะที่ในอ่าวไทยเกิดคลื่นลมแรง จนส่งผลให้เรือลำเลียงบรรทุกสินค้าขนาดตึก 2 ชั้น สัญชาติสิงคโปร์ถูกคลื่นลมซัดจนมาเกยตื้นที่ชายหาดสมิหลา ในเขตเทศบาลนครสงขลา เนื่องจากโซ่ที่ต่อพ่วงกับเรือลากจูงขาด หลังจากขนถ่ายสินค้าจากท่าเรือน้ำลึกสงขลา เพื่อจะนำไปขึ้นเรือสินค้าลำใหญ่ที่จอดรับบริเวณเกาะหนู เกาะแมว


 


ขณะที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา พบศพชายไม่ทราบชื่อ 2 คนที่ชายหาดบริเวณตำบลนาทับ คาดว่าเป็นศพลูกเรือประมงที่เรือเกิดอับปางกลางทะเลระหว่างเกิดคลื่นลมแรง


 


คลื่นลมแรงยังส่งผลกระทบต่อแพขนานยนต์ข้ามฟากระหว่างสงขลา - หัวเขาแดง บริเวณปากทะเลสาบสงขลา ต้องหยุดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากคลื่นลมแรงและกระแสน้ำไหลเชี่ยว เกรงจะเป็นอันตรายต่อผู้โดยสารและรถยนต์ที่มาใช้บริการ


 


ที่อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช เรือประมงอับปางกลางทะเล หลังจากถูกคลื่นขนาดใหญ่ม้วนครอบลำเรือ ส่วนลูกเรือ 7 คน ได้รับการช่วยเหลือนำขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย ส่วนที่อำเภอเมืองนครศรีธรรมราชเรือประมงอวนลอยอังปาง แต่ลูกเรือ 2 คนว่ายเข้าฝั่งได้อย่างปลอดภัย        


 


กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศฉบับที่ 9 เรื่อง ภาคใต้ฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในอ่าวไทย และประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวถึงหนาวจัด หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันมีกำลังแรงในช่วงวันที่ 22 - 24 ธันวาคม 2548 ทำให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล มีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในระยะ 1 - 2 วันนี้ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ลงไปและทะเลอันดามันมีกำลังแรงขึ้น โดยจะมีคลื่นสูง 2 - 4 เมตร ขอให้ระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง


 


รัฐมนตรีดาหน้าลงใต้


ขณะที่บรรดารัฐมนตรีได้แบ่งพื้นที่ลงตรวจสอบสถานการณ์น้ำท่วมและช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยที่ พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ไปเยี่ยมราษฎรที่ศูนย์อพยพผู้ประสบอุทกภัยที่บ้านปากพล ตำบลนาปะขอ อำเภอบางแก้ว จังหวัดพัทลุง พร้อมเรียกประชุมนายอำเภอและหัวหน้าส่วนราชการเพื่อมอบนโยบายช่วยเหลือผู้ประสบภัยและแนวทางการฟื้นฟูสภาพความเสียหาย


 


ส่วนนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานี โดยทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือแต่ละอำเภอ และได้จัดส่งหญ้าแห้งสำหรับสัตว์เลี้ยงจากจังหวัดอุดรธานีให้เกษตรกรในเบื้องต้นแล้ว


 


ขณะที่นายสมชาย สุนทรวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดสงขลา และช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย โดยดำเนินการตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ให้นำเครื่องผลักดันน้ำมาติดตั้งริมทะเลสาบสงขลาเพื่อผลักดันน้ำที่ท่วมขัง


 


ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมใน 4 อำเภอของจังหวัด รอบทะเลสาบสงขลา พร้อมสั่งจัดส่งอาหารสัตว์กว่า 6 ล้านกิโลกรัม ไปช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยทางภาคใต้ด้วย


 


ส่วนที่สำนักจุฬาราชมนตรีได้มีการตั้งคณะทำงานประสานคณะกรรมการอิสลาม 36 จังหวัดเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคใต้


 กลับหน้าแรกประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net