Skip to main content
sharethis

ประชาไท -9 ธ.ค. 2549 "มหาดไทย" เดินหน้า แก้ปัญหาคนไทยไร้สัญชาติ ส่งคนกรมการปกครองลงพื้นที่ นัดประชุมไทยพลัดถิ่นระนอง หาหนทางเร่งให้สัญชาติไทย "รองผู้ว่าฯ ระนอง" ฉุนขาดมหาดไทยจุ้น ส่งคนส่วนกลางข้ามหัวเข้ามาแก้ปัญหาในพื้นที่ โวยถ้าไม่ไว้ใจส่วนภูมิภาค เชิญส่วนกลางมาแก้ปัญหาเอาเอง "ผู้ว่าฯ ระนอง" ผสมโรงประกาศจะทำรายงานสอบถามกระทรวง ทั้งที่ได้รับแต่งตั้งจาก "มท.1" เป็นกรรมการฯ แก้ปัญหาชุดนี้ แถมยังเข้าประชุมร่วมกำหนดนโยบายคลี่ปมคนไทยไร้สัญชาติมาหยกๆ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ที่ผ่านมา

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 มกราคม 2549 ที่วัดอุปนันทาราม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง นายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย หัวหน้ากลุ่มชนกลุ่มน้อยและสัญชาติ กรมการปกครอง พร้อมคณะ ได้รับมอบหมายจากอธิบดีกรมการปกครอง ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ ได้เดินทางมาประชุมกับคนไทยไร้สัญชาติจังหวัดระนอง โดยมีคนไทยไร้สัญชาติจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เข้าร่วมสังเกตการณ์ด้วย มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 2,000 คน



นายอุดมเขต ชี้แจงว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ มี พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธาน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2548 มีหน้าที่ดำเนินการให้สัญชาติแก่คนไทยไร้สัญชาติ ซึ่งตามกฎหมายการให้สัญชาติกับคนไร้สัญชาติ ต้องใช้วิธีการแปลงสัญชาติเท่านั้น เพราะวิธีการคืนสัญชาติให้กับคนไร้สัญชาติ ยังไม่มีกฎหมายรองรับ สำหรับกรณีนี้จะให้คนไร้สัญชาติไปขึ้นทะเบียน เป็นคนเข้าเมืองตามกฎหมาย จากนั้น กระทรวงมหาดไทยจะแปลงสัญชาติให้สัญชาติไทยเป็นกรณีพิเศษ ในทันทีที่การสำรวจข้อมูลแล้วเสร็จ ซึ่งทำให้คนไทยไร้สัญชาติกลุ่มนี้ ได้สัญชาติไทยเร็วกว่าคนไร้สัญชาติกลุ่มอื่น ที่ต้องให้เวลาดำเนินการนานเป็น 10 ปี


นายอุดมเขต ชี้แจงต่อไปว่า สำหรับเด็กที่เกิดในประเทศไทย โดยพ่อแม่เป็นคนไร้สัญชาติ ลูกจะไม่ได้สัญชาติโดยถิ่นฐานการเกิดทันที แต่ต้องพิสูจน์ก่อนว่า พ่อแม่มีสัญชาติไทยหรือไม่ ถ้าหากพ่อแม่มีสัญชาติไทย ลูกจะได้สัญชาติไทยโดยไม่ต้องแปลงสัญชาติ สำหรับลูกที่เกิดต่างประเทศแล้วย้ายมาอยู่ในประเทศไทย เมื่อพ่อแม่ยื่นคำร้องขอแปลงสัญชาติ สามารถเขียนชื่อลูกลงไปพร้อมกันได้เลย ส่วนคนไร้สัญชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทยเกิน 10 ปี หรือคนไร้สัญชาติที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในประเทศไทย จะได้สัญชาติไทยตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น


"สำหรับคนไทยไร้สัญชาติ จังหวัดระนอง ที่มีการสำรวจและมีฐานข้อมูลอยู่ในเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย จังหวัดระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์แล้ว 1,990 คน ทางกระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ ดำเนินการให้สัญชาตินำร่อง ส่วนคนไร้สัญชาติที่เคยขึ้นทะเบียนไว้ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ให้ไปค้นหาชื่อที่สถานีตำรวจภูธรของอำเภอที่ตัวเองอาศัยอยู่ เพื่อที่จะสามารถดำเนินการต่อไป


ทั้งนี้ บรรดาคนไทยไร้สัญชาติ ได้ขึ้นมาบอกเล่าเกี่ยวกับอุปสรรคในการขอสัญชาติไทย ต่อนายอุดมเดช เช่น ดำเนินการตามกระบวนการกฎหมายทุกขั้นตอน แต่เมื่อถึงขั้นตอนจะได้สัญชาติไทย กลับไม่มีรายชื่อในกลุ่มผู้ได้สัญชาติไทย ทั้งที่บิดา มารดา และพี่น้อง ได้รับสัญชาติไทยทั้งหมด, กรณีบิดา มารดามีสัญชาติไทย แต่ไปคลอดลูกที่ฝั่งพม่า ทำให้ลูกไม่ได้สัญชาติไทย ซึ่งกรณีนี้นายอุดมเดช ชี้แจงว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องการได้สัญชาติ เพราะเด็กจะได้สัญชาติไทยตามสายเลือดอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่บิดา มารดาของเด็กไม่ได้แจ้งเกิดให้กับบุตร เป็นต้น


นางพิชญา แก้วขาว ในฐานะตัวแทนเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย ระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เสนอว่า ในการสำรวจข้อมูลคนไทยไร้สัญชาติ ให้คณะกรรมการปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ของรัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน และคนไทยไร้สัญชาติ เพราะถ้ามีแต่เจ้าหน้าที่ของรัฐลงสำรวจข้อมูล คนไทยไร้สัญชาติอาจจะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ และถูกเรียกเก็บเงิน


นายอุดมเขต รับว่า จะเสนอให้คณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ ให้แต่งตั้งคณะทำงานโดยมีองค์ประกอบตามข้อเสนอของนางพิชญา



หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ระหว่างที่นายอุดมเขตและคณะได้อกมารับประทานอาหารเที่ยง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานโครงการปฏิบัติการชุมชนและเมืองน่าอยู่จังหวัดระนอง และเครือข่ายการแก้ปัญหาคืนสัญชาติคนไทย จังหวัดระนอง ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ ก่อนเดินทางลงพื้นที่บ้านบางเบน ตำบลม่วงกลาง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ปรากฏว่า นายไพบูลย์ เกียรติสุขเกษม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง และปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอเมืองระนอง เดินทางมายังวัดอุปนันทาราม อ้างว่าได้รับแจ้งข่าวมีการชุมนุมของคนไทยไร้สัญชาติ ที่วัดอุปนันทาราม เพื่อขอสัญชาติไทย ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานโครงการปฏิบัติการชุมชนและเมืองน่าอยู่จังหวัดระนอง จึงแจ้งไปยังนายอุดมเขต นางพิชญาจึงได้นัดหมายไปพบกันที่ ศูนย์ประสานงานโครงการปฏิบัติการชุมชนและเมืองน่าอยู่จังหวัดระนอง ที่ตำบลบางริ้น อำเภอเมืองระนอง



นายไพบูลย์ กล่าวกับนายอุดมเขตและคณะว่า การจัดประชุมคนไทยไร้สัญชาติครั้งนี้ สร้างความชุลมุนวุ่นวายไปทั้งอำเภอ มีคนแจ้งว่า ทางจังหวัดระนองเรียกเก็บเงินคนละ 500 บาท เพื่อทำบัตรประชาชนให้กับคนไทยไร้สัญชาติ พร้อมกับตำหนิเจ้าหน้าที่กรมการปกครองว่า เข้ามาทำงานโดยไม่แจ้งให้จังหวัดทราบ หรือเห็นว่าส่วนภูมิภาคไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ถ้าเป็นเช่นนั้น ต่อไปก็ให้ส่วนกลางเข้ามาแก้ปัญหาเอง


ทั้งนี้นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนได้ตำแหน่งมาด้วยความสามารถ ไม่ได้มาด้วยเส้นสาย จึงไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปกลัวใคร ในวันที่ 9 มกราคม 2549 นี้ ตนจะรายงานเรื่องนี้ไปยังกระทรวงมหาดไทย และนายกรัฐมนตรี พร้อมกับขอชื่อข้าราชการกรมการปกครองที่ได้รับมอบหมายให้มาปฏิบัติราชการครั้งนี้ทุกคน พร้อมกับขอหนังสือคำสั่งให้ข้าราชการกรมการปกครองชุดนี้ลงมาทำงานในพื้นที่นี้ด้วย
จากนั้น นายไพบูลย์ กล่าวกับคนไทยไร้สัญชาติที่อยู่เหตุการณ์ว่า ถ้าหากมีใครเรียกเก็บเงิน โดยอ้างว่าจะทำบัตรประชาชนให้ ขออย่าได้หลงเชื่อ เพราะเรื่องนี้รัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการ มีปัญหาอะไรให้ปรึกษาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพราะคนอื่นไม่สามารถช่วยคนไทยไร้สัญชาติให้ได้รับสัญชาติไทยได้ ส่วนคนไทยไร้สัญชาติ ที่มาจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้กลับไปดำเนินการที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไม่ต้องมาที่จังหวัดระนอง


ด้านนายไชยพร เมธาวิกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตนไม่ทราบว่าอธิบดีกรมการปกครองได้มอบหมายให้ข้าราชการกรมการปกครองลงมาดำเนินการเรื่องนี้ เพราะเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2549 ที่ประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติ ไม่ได้มีการนัดหมายเรื่องการลงพื้นที่ ตนเพิ่งทราบเรื่องนี้จากนายไพบูลย์ว่า มีข้าราชการกรมการปกครองมาดำเนินการเรื่องการให้สัญชาติคนไทยไร้สัญชาติ โดยจังหวัดไม่ได้รับแจ้งจากกระทรวงมหาดไทยมาก่อน นายไพบูลย์บอกตนว่า มีคนไทยไร้สัญชาติจากจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาลงทะเบียนขอสัญชาติไทยที่จังหวัดระนองด้วย ทั้งที่ควรไปดำเนินการที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำหรับจังหวัดระนองไม่มีคนไทยพลัดถิ่นแล้ว เพราะทางจังหวัดได้สำรวจขึ้นทะเบียนและให้สัญชาติไทยไปหมดแล้ว


ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมในที่ประชุมครั้งนี้ จึงมีคนไทยไร้สัญชาติยังไม่ได้รับสัญชาติไทยอีกเป็นจำนวนมาก นายไชยพร ตอบว่า คนไทยไร้สัญชาติที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน อาจจะเป็นพวกตกสำรวจ ทางจังหวัดจะสำรวจขึ้นทะเบียนและให้สัญชาติไทยอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อมีคำสั่งจากรัฐบาล สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ทางจังหวัดจะรายงานและสอบถามไปยังกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 9 มกราคม 2549

เป็นที่น่าสังเกตว่า พล.อ.อ.คงศักดิ์ วันทนา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่ดินและสัญชาติในพื้นที่ประสบภัยธรณีพิบัติด้วย และในการประชุมคณะกรรมการฯ ชุดนี้ เพื่อกำหนดนโยบายในการแก้ปัญหาที่ดินและคนไร้สัญชาติ เมื่อวันที่ 5 มกราคม 2549 ซึ่งพล.อ.อ.คงศักดิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการฯ ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครองลงพื้นที่ดำเนินการให้สัญชาติไทยกับคนไทยไร้สัญชาติ ที่จังหวัดระนอง ในวันที่ 8 มกราคม 2549 โดยระหว่างการมอบหมายเรื่องนี้ให้อธิบดีกรมการปกครอง ผู้ว่าราชการจังหวัดระนองอยู่ในที่ประชุมตลอด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net