Skip to main content
sharethis

ประชาไท—28 ม.ค. 2549 เกิดเหตุระเบิดหน้าสวนหย่อมอาคารซอฟท์แวร์ปาร์ค ซึ่งเป็นที่ตั้งกระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลาประมาณ 12.15 น.วันที่ 27 ม.ค. 2549 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ขณะนี้ยังไม่สามารถจับมือวางระเบิดโดยสาเหตุของการลอบวางระเบิดครั้งนี้ พุ่งไปที่ปมขัดแย้งระหว่างแพทย์หญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


 


สำหรับระเบิดดังกล่าว เป็นระเบิดซีโฟร์ หนัก 1 ปอนด์ ซึ่งบรรจุใส่ในท่อโลหะนำมาวางไว้กับกำแพง โดยตั้งเวลาด้วยนาฬิกาปลุก เวลา 12.12 น.และแรงระเบิดส่งผลให้กำแพงอาคารบริเวณจุดที่เกิดระเบิดนั้นทะลุจนเหลือแต่โครงสร้างอาคาร และแผ่นกระเบื้องซึ่งเป็นพื้นอาคารบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดออกเป็นแนวยาวประมาณ 2-3 เมตร


 


เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ได้แก่ น.ส.นันทวรรณ สุขภาพ เจ้าหน้าที่ธุรการ ระดับ 2, น.ส.หทัยรัตน์ นาฏศิลป์ นักประชาสัมพันธ์ ระดับ 4, น.ส.เสาวลักษณ์ ตั้งจิตต์วัฒนา เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์, น.ส.นันท์นภัส ใจบุญ เจ้าหน้าที่โสตทัศนศึกษา 3 โดยทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีอาการหูอื้อ นำส่ง รพ.มงกุฎวัฒนะ และนายกิตติศักดิ์ หวังดี อายุ 31 ปี พนักงานส่งเอกสาร ซึ่งได้รับบาดเจ็บศีรษะแตกเย็บ 3 เข็ม นำส่ง รพ.กรุงไทย


 


พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่าไม่สามารถที่จะสรุปได้ในตอนนี้ว่าการวางระเบิดเกิดจากสาเหตุใด อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรี ตอบว่าขณะนี้ พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้ดูแลเรื่องดังกล่าว และตนได้วางแนวทางให้ไปแล้วจึงไม่น่ามีปัญหา


 


ด้าน พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผช.ผบ.ตร. กล่าวว่าหลังตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่พบเศษซากวัตถุระเบิด เชื่อว่าคนร้ายจงใจลอบวางระเบิด แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุของการวางระเบิด แต่คาดว่าเป็นการข่มขู่ให้กลัว เพราะจากหลักฐานพบว่า คนร้ายไม่ได้ใส่สะเก็ดระเบิด แต่ใช้ระเบิดซีโฟร์น้ำหนัก 1ปอนด์บรรจุท่อเหล็กแป๊ป นำมาวางซ่อนไว้ในซอกตึก จึงเชื่อว่าเป็นการตั้งเวลา เพื่อให้เกิดระเบิดเสียงดังเป็นการข่มขู่ เพราะถ้าตั้งใจจะให้มีคนเจ็บ คนร้ายคงนำระเบิดมาวางไว้ด้านนอก


 


ทั้งนี้ พล.ต.ท.ชัยยันต์ กล่าวว่า ได้กำชับให้ตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกตัวของอาคาร เพื่อตรวจหาบุคคลต้องสงสัย แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ใดให้เบาะแส เกี่ยวกับผู้ต้องสงสัย เพราะระเบิดเป็นระเบิดแสวงเครื่องแบบตั้งเวลา ที่คนร้ายจะนำมาวางไว้เมื่อไหร่ก็ได้ ดังนั้นจึงขอเวลาตรวจสอบ 2-3 วัน


 


ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวว่ายังไม่ทราบสาเหตุ และย้ำว่า ตึกซอฟต์แวร์ปาร์ค ไม่ใช่มีแต่เฉพาะกระทรวงยุติธรรมเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทเอกชนอื่นๆ เช่าอยู่หลายบริษัท ดังนั้น จึงยังไม่สามารถสรุปได้ว่าสาเหตุมาจากเรื่องใด


 


อย่างไรก็ตาม นายสมชาย กล่าวว่า ระเบิดในครั้งนี้ไม่ว่าจะมาจากสาเหตุใด ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้น พร้อมกับยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่กระทบกับการทำงานของกระทรวงยุติธรรมอย่างแน่นอน ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น เบื้องต้นได้สั่งเพิ่มการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น


 


ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้อนุญาตให้ข้าราชการกระทรวงยุติธรรม กลับบ้านได้ พร้อมกับได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการตรวจสอบบริเวณโดยรอบๆ ของตึกซอฟต์แวร์ปาร์ค เพื่อความปลอดภัย


 


ด้าน พล.ต.ท.ชัยยันต์ มะกล่ำทอง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยชิ้นส่วนระเบิดและพยานหลักฐาน ในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมไว้หมดแล้ว ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน น่าจะสามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้


 


ด้านนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรมกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่าจะไม่ขอโยงเหตุระเบิดกับงานดีเอสไอ กรณีระเบิดซอฟต์แวร์ ปาร์ค แต่ก็กล่าวด้วยว่า ปมขัดแย้งที่อาจจะนำมาสู่การวางระเบิดครั้งนี้ก็เป็นไปได้หลายทาง ซึ่งไม่อยากจะสันนิษฐานเช่นนั้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ที่เกี่ยวพันกับงานแก้ปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือความขัดแย้งในคดีฮั้วประมูล 16 โครงการของ กทม. ซึ่งดีเอสไอกำลังสอบสวนอยู่

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net