กรรมาธิการสิทธิมนุษยชนแห่งเอเชีย  (เอเอชอาร์ซี :

"ทนายสมชายเป็นนักสิทธิมนุษยชน   และนักต่อสู้เพื่อสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษยชาติ   งานของเขาส่วนมากเป็นการว่าความให้แก่ลูกความที่ถูกรังแกโดยเจ้าหน้าที่รัฐ   เขาเผชิญหน้ากับรัฐโดยปราศจากความกลัว  และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างสูง และไม่ลังเลที่จะพยายามทุกวิถีทางในการนำเจ้าหน้าที่รัฐมารับผิดในการกระทำอันมิชอบ

"ก่อนที่จะถูกลักพาตัวในวันที่  12  มีนาคม  2547  ทนายสมชายได้ว่าความให้แก่ผู้เสียหายจากการถูกทรมานโดยตำรวจ  และถูกกักขังโดยปราศจากการตั้งข้อกล่าวหา เขาได้ร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงถึงการทรมานและประกาศต่อสาธารณะว่าเป็นการกระทำของตำรวจ  นอกจากนี้ยังได้เป็นผู้นำในการล่ารายชื่อ  50,000 รายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยกเลิกกฎอัยการศึกที่ใช้อยู่ในภาคใต้ในขณะนั้น" คำประกาศ ระบุ

สำหรับการมอบรางวัลจะมีขึ้นในวันที่  10 มี.ค. โดยนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยานายสมชาย ยินดีที่จะรับรางวัลนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนของเอเอชอาร์ซีครั้งนี้แทนสามี  เพื่อเป็นการระลึกถึงวาระสองปีของการหายตัวไปของเขาด้วย

ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานข่าวการมอบรางวัลให้กับนายสมชายเช่นกันว่า  คณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนเอเชียได้ยกย่องนายสมชาย  นีละไพจิตร ทนายความชาวไทย ให้ได้รับรางวัลนักปกป้องสิทธิมนุษยชนเพื่อแสดงการ  "ยอมรับในความพยายามอันไม่เห็นแก่ความเหนื่อยยากที่จะนำความยุติธรรมไปสู่บรรดาผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยซึ่งเขาได้สละชีวิตให้"

นางอังคณาเผยว่า  สามีวัย 53 ปีของนางได้หายตัวไป 23 เดือนแล้ว ขณะรับเป็นทนายให้แก่ผู้ต้องสงสัยชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย   ตอนนั้นเขารู้ตัวว่าตกอยู่ในอันตรายและได้รับคำเตือนว่าการรณรงค์ต่อต้านกฎอัยการศึกใน  3  จังหวัดชายแดนภาคใต้จะคุกคามชีวิตเขา ทั้งนี้ เขาได้หายตัวไปหลังจากกล่าวหาตำรวจว่าบังคับผู้ต้องสงสัย 5 คนให้กินน้ำปัสสาวะเพื่อให้เปิดเผยถึงแผนการโจมตีในภาคใต้

"ผู้ลงมือลักพาและสังหารต้องถูกเปิดโปง   ดำเนินคดี   และลงโทษ   ไม่เพียงเพื่อนายสมชาย ครอบครัว  และบรรดามิตรของเขาเท่านั้น  แต่เพื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งมวลที่ได้ถูกอุ้มหายไปด้วย" กลุ่มดังกล่าวระบุในแถลงการณ์

.....................................................................

ที่มา : ไทยโพสต์ 21 ก.พ.49