ผศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์ประจำหัวหน้าโครงการประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า หากเอา พ.ต.ท.ทักษิณ ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ถามว่า ระบอบทักษิณจะหมดไปหรือไม่ ซึ่งบอกได้เลยว่า ไม่มีทาง เนื่องจากว่ามันยังมีปัญหาที่ยังคงอยู่ 2-3 เรื่องใหญ่ๆ คือ หนึ่ง เราต้องเข้าใจว่า ตัวทักษิณอ้างว่ามีความชอบธรรม เพราะมาจากการเลือกตั้ง ซึ่งไม่เหมือนกับรัฐบาลเผด็จการในอดีตที่ผ่านมา ที่มีการนำรถถังออกมา แต่นี่มันเอาระบอบทุนออกมา

สอง ระบอบทักษิณ มีลักษณะการใช้อำนาจ แบบระบอบอำนาจนิยม นั่นคือ เบ็ดเสร็จ เด็ดขาด ไม่สามารถตรวจสอบได้ มันจึงเกิดขึ้นกับนโยบายหลายๆ เรื่อง เช่น เอฟทีเอ ไทย-จีน ซึ่งคนที่เจ๊ง คือกลุ่มเกษตรกรคนปลูกหอม กระเทียม แต่คนที่ได้ผลประโยชน์ คือคน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มทุนโทรคมนาคม ทุนธุรกิจการเกษตร กับกลุ่มทุนธุรกิจรถยนต์ ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มทุนที่อยู่ในระบอบทักษิณทั้งสิ้น

และสาม ระบอบทักษิณ นั้นมุ่งแต่การพัฒนาไปสู่ทุนนิยมอย่างสุดลิ่มสุดประตู โดยพยายามจะเปลี่ยนสังคมไทยจากการเกษตรไปเป็นพ่อค้า อยากจะให้ทุกคนรวยกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเรื่องของโอทอป หรือเขตเศรษฐกิจพิเศษ แต่ถามว่า มันจะไปได้แค่ไหนกัน

"ถึงแม้ว่าตัวทักษิณจะออกไป แต่เราก็จะเห็นว่า ระบอบทักษิณหรือกลุ่มทุนเหล่านี้มันยังคงอยู่ แล้วมันจะแก้ปัญหาวงจรอุบาทว์เหล่านี้ได้อย่างไร และยกตัวอย่างกรณีนโยบายฆ่าตัดตอน 2,500 ศพ ที่รัฐบาลทักษิณทำให้คนตายมากขนาดนี้ หรือกรณีการฆ่าพี่น้อง 3 ชายแดนจังหวัดภาคใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ที่ผ่านมา สังคมไทยไม่เห็นมีใครออกมาโวยวายกันเลย เพราะอะไร ก็เพราะว่ามันเกิดขึ้น ในขณะที่สังคมไทยยังอ่อนแอ"

ผศ.สมชาย กล่าวอีกว่า ดังนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัว เห็นว่าบางครั้ง ตนอยากให้ทักษิณอยู่ต่อด้วยซ้ำ เพราะว่ายิ่งอยู่นาน ก็ยิ่งจะทำให้สังคมได้ตรวจสอบ ขุดคุ้ย และเอาผิดกับกลุ่มที่มันโกงกินคอรัปชั่นอีกมากมาย โดยเฉพาะการแปรรูปที่มันมีผลประโยชน์ทับซ้อน เช่น แอบไปเจรจากับอินเดียเรื่องผลประโยชน์ดาวเทียม โดยอ้างเปิดสายการบินกับอินเดีย หรือกรณีการเปิดสายการบินเชียงใหม่-จิตตากอง กับประเทศพม่า ซึ่งมีคนกล่าวหาว่า ตัวทักษิณมีการไปลงทุนด้านโทรคมนาคมกับพม่า ถามว่า ประชาชนทั่วไปมีส่วนรับรู้เรื่องเหล่านี้หรือไม่

ด้านนายชัชวาล บุญปัน อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน กล่าวว่า การที่เราออกมาชุมนุมขับไล่ไม่เอา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น ตนก็เห็นด้วย แต่เราต้องมองถึงตัวระบอบทักษิณด้วยว่า มันจะยังคงอยู่ และระบอบทักษิณนั้น เป็นตัวทำลายความเป็นมนุษย์ของเราลงไป ซึ่งกระทบกับเราโดยตรง

"ยกตัวอย่างที่เชียงใหม่ ที่มีการพยายามจะขยายสนามบินเชียงใหม่ออกไปทางด้านทิศเหนืออีก 300 เมตร ซึ่งเริ่มในรัฐบาลทักษิณตั้งแต่ปี 2544 โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ รัตพงษ์ไพศาล รมว.กระทรวงคมนาคมเป็นผู้เสนอโครงการอย่างเร่งรัด เพื่อจะให้เป็นสนามบินนานาชาติ โดยที่ไม่ได้มีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ว่าจะส่งผลเสียทางด้านมลพิษและเสียงแก่คนเชียงใหม่มากเพียงใด แต่มีเพียงการออกสำรวจความคิดเห็นคนเพียงจำนวน 500 คน แล้วก็รีบเสนอให้ ครม.อนุมัติทันที โดยที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้รับรู้ใดๆ เลย ว่านี่คือบางตัวอย่างของระบอบทักษิณ"

นายชัชวาล กล่าวทิ้งท้ายว่า ฉะนั้น ต่อไปตัวระบอบทักษิณนั้นจะเข้ามาครอบงำชีวิตคนเราทั้งหมด โดยจะเอาเงินมาเป็นคำตอบ สิ่งที่เราจะต้องระวังกันให้มากว่า ถึงแม้ตัวทักษิณจะออกไป แต่ระบอบทักษิณยังคงอยู่ ซึ่งเราจะต้องช่วยกันคิดกันต่อ

ในขณะที่ รศ.สมเกียรติ ตั้งนโม อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืนอีกคนหนึ่ง ก็ออกมากล่าวย้ำว่า ไม่เห็นด้วยกับการใช้ ม.7 เพื่อขอนายกรัฐมนตรีพระราชทาน เพราะถึงอย่างไร ระบอบทักษิณก็ยังอยู่ โดยยังคงยึดแนวคิดทุนนิยมเสรีใหม่เข้ามา เพื่อให้ประเทศตกเป็นอาณานิคมแบบใหม่ โดยไม่ต้องใช้กำลังทหารเหมือนกับในอดีต การแปรรูป การไหลมาของทุน เข้ามาเทคโอเวอร์ประเทศไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก "ดังนั้น เหมือนกับที่ตนเคยเสนอไปแล้ว คือ "ไตรลักษณ์แห่งการปฏิรูปโครงสร้างสังคมไทย" นั่นคือ หนึ่ง ต้องมีการปฏิรูปการเมือง โดยต้องมีรัฐบาลที่ไม่ฆ่าคน ไม่โกหก ไม่ลักทรัพย์ของแผ่นดิน และรักษากระบวนการยุติธรรมไว้อย่างมั่นคงโดยไม่เข้าไปแทรกแซง สอง การปฏิรูปเศรษฐกิจ เพราะตราบใดที่เรายังดำเนินรอยตามแนวคิดเศรษฐกิจเสรีนิยมใหม่ หรือที่เรียกว่า washington consensus(ฉันทามติวอชิงตัน) มันจะนำไปสู่จุดวิกฤติ ที่แยกระหว่างคนจนคนรวยให้มีช่องว่างถ่างขึ้นไปอีก ฉะนั้น สิ่งที่จะต้องปฏิรูปเศรษฐกิจ ก็คือ เศรษฐกิจพอเพียง และสาม ต้องปฏิรูปสังคม วัฒนธรรม และจริยธรรม ให้ประชาชนได้มีเสรีภาพ มีความเสมอภาค ให้ประชาชนสามารถเรียนรู้และเข้าใจความจริงให้มากกว่านี้" รศ.สมเกียรติ กล่าวย้ำ