Skip to main content
sharethis


 


สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุโทรทัศน์ สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ รวมทั้งบรรณาธิการและหัวหน้าข่าวจากองค์กรสื่อหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ สำนักพิมพ์ต่างๆ โดยมีผู้สื่อข่าวจากสำนักพิมพ์ต่างๆได้มาร่วมลงลงชื่อและพร้อมใจกันสวมเสื้อสีขาวที่มีสัญลักษณ์การต่อต้านการคุกคามสื่อ และข้อความว่า "หยุดคุกคามสื่อ คุกคามประชาชน"เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านการคุกคามสื่อกว่า 1,000 คน


 


โดยบรรยากาศในงานรวมใจครั้งนี้ มีการฉายภาพเหตุการณ์ม็อบคารานคนจนที่ปิดล้อมหนังสือพิมพ์คมชัดลึก ภาพถ่ายเหตุการณ์กลุ่มมอเตอร์ไซด์รับจ้างล้อมหนังสือพิมพ์แนวหน้าและผู้จัดการ และภาพแกนนำม็อบ ภาพถ่ายรถยนต์ต้องสงสัยว่าเป็นผู้มีอำนาจบงการม็อบ


 


หลังจากนั้นบรรณาธิการหัวหน้าข่าวและตัวแทนของสมาคมได้ร่วมหารือและวิเคราะห์ถึงสถานการณ์การคุกคามสื่อจากผู้มีอำนาจรัฐและแนวทางปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของสื่อ โดยใช้เวลาหารือกว่า 1 ชั่วโมง ต่อจากนั้นนายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรท์ ได้อ่านบทกวีให้กำลังใจสื่อมวลชน 2 บท คือ นกน้อยในไร่ส้มและหยุดคุกคามสื่อ


 


จากนั้นนายเกียรติชัย พงษ์พาณิชย์ ที่ปรึกษาสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้เป็นตัวแทนของสื่อประกาศเจตประกาศเจตนารมณ์ ต่อต้านการคุกคามสื่อ ว่า


 


1.เราสื่อมวลชนทั้งหลายขอต่อต้านการคุกคามสื่อในประเทศไทยทุกรูปแบบ เพื่อแสดงให้โลกรู้ว่า สื่อมวลชนไทย ทั้ง หนังสือพิมพ์ วิทยุโทรทัศน์ และสื่อแขนงอื่นๆ ไม่อาจยอมรับพฤติกรรมการคุกคามสื่อที่เกิดขึ้นได้ ในทุกกรณีทั้งในอดีตและที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน


 


เราเรียกร้องให้หยุดการคุกคามสื่อในทันที เราถือว่า การคุกคามสื่อมวลชนใดๆ ไม่ว่าหนังสือพิมพ์หรือวิทยุโทรทัศน์ แม้เพียงสื่อเดียวหรือเพียงคนเดียวก็ถือว่าเป็นการคุกคามสื่อมวลชนทั้งมวล


 


2.ในรอบปีที่ผ่านมา สื่อมวลชนนำเสนอข่าวการตรวจสอบผู้มีอำนาจแล้วถูกฟ้องร้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา บางคดีถูกเรียกค่าเสียหายนับหมื่นล้านบาท


 


มีการคุกคามสื่อมวลชนที่เลวร้ายกว่าด้วยการกระทำอย่าง "ป่าเถื่อน" ใช่แต่คุกคามเสรีภาพและความเป็นอิสระของสื่อมวลชนเท่านั้นไม่ หากแต่ยังกระทำการอันเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ทำงานสื่อราวกับเราอยู่ในยุคการใช้อำนาจอย่างป่าเถื่อนของเผด็จการครองเมือง


 


3.มีการปิดล้อมที่ทำการของหนังสือพิมพ์เครือเดอะเนชั่น และ คม ชัด ลึก เป็นเวลานานกว่า 7 ชั่วโมง โดยห้ามบุคคลไม่ว่า จะเป็นพนักงานบริษัทต่างๆ ผู้ป่วย หญิงตั้งครรภ์ เข้า-ออก มีพฤติกรรมก้าวร้าวข่มขู่คุกคาม และกักขังหน่วงเหนี่ยวอย่างผิดกฎหมาย แล้วกดดันให้กองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก ยอมรับเงื่อนไขการปิดตัวเองเพิ่มขึ้น ทั้งๆที่หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึกได้แสดงความสำนึกแห่งความรับผิดชอบต่อความบกพร่องด้วยการปิดตัวเอง 3 วันแล้วก็ตาม


 


4.มีหลักฐานบางประการบ่งชี้ว่า การกระทำของกลุ่มที่ปิดล้อมเครือเดอะเนชั่น มีบุคคลที่มีอำนาจทางการเมืองอยู่เบื้องหลัง การคุกคามที่ร้ายแรง ไม่ชอบด้วยกฎหมายและขัดต่อบทบัญญัติซึ่งมีกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ


 


5.เหตุการณ์ทำนองเดียวกันได้เกิดขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง เมื่อผู้สื่อข่าวได้ถูกทำร้ายร่างกายที่จังหวัดเชียงใหม่และสระบุรี กลุ่มจักรยานยนตร์รับจ้างได้ยกพวกหลายร้อยคนไปที่หน้าที่ทำการหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสำนักพิมพ์แนวหน้า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2549 แสดงอาการข่มขู่ คุกคามและยังได้ขว้างปาสิ่งของเข้าไปในสำนักงานของหนังสือพิมพ์แห่งนี้ หรือกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองกระทำการรุนแรงต่อผู้สื่อข่าวที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ต่างๆ เช่นที่สนามหลวง หน้าทำเนียบรัฐบาลและหน้าสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง


 


6.หากนับปรากฏการณ์คุกคามสื่อที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เราอาจกล่าวได้ว่า เสรีภาพของสื่อมวลชนในยุคปัจจุบัน ถูกคุกคามอย่างรุนแรงในหลายรูปแบบ ทั้งในรูปแบบที่แยบยล เช่น การแทรกแซงการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร การแทรกแซงของฝ่ายการเมืองเข้ามายังกองบรรณาธิการ หรือ การแทรกซื้อสื่ออย่างเปิดเผย หรือเป็นการคุกคามอย่างโจ่งแจ้งซึ่งหน้าโดยมีสัญญาณการให้ท้ายจากผู้มีอำนาจ


 


7.แม้สวัสดิภาพและสิทธิเสรีภาพจะเป็นปัญหาแต่เราสื่อมวลชน จะยืนหยัดทำหน้าที่อย่างเต็มกำลังต่อไปและจะไม่ย่อท้อ จะต่อต้านการคุกคามสื่อหรือการครองงำสื่อให้หมดไป


 


8. สื่อมวลชนเป็นสถาบันหนึ่งทำหน้าที่ในการสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนและทำหน้าที่แทนประชาชน ตรวจสอบปรากฏการณ์ของสังคม ควรได้รับหลักประกันและการคุ้มครองตามมาตรา 39 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย


 


9.จักต้องให้ผู้มีอำนาจได้แสดงออกถึง การแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่ในการรักษากฎหมายบ้านเมืองอย่างที่ควรจะเป็นเพื่อมิให้เกิดการคุกคามสื่อดังปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ปัจจุบัน


 


10.เราจะรวมพลังกันต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพอย่างเข้มแข็งบนพื้นฐานหลักการแห่งจริยธรรมและความถูกต้อง เราเชื่อมั่นว่า เสรีภาพของสื่อ คือ เสรีภาพของประชาชน และการคุกคามสื่อ คือ การคุกคามประชาชน คุกคามประชาธิปไตย และเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์สังคมประชาธรรม


 


11.เราขอให้ทุกฝ่ายเคารพและร่วมกันแปรเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญมาตรา 39. 40 41 และ 42 ให้เป็นจริงทั้งทางอุดมการณ์และทางปฏิบัติ


 


12.เราขอประกาศเจตนารมณ์ในการทำหน้าที่แสวงหาข้อเท็จจริง เพื่อนำเสนอต่อสาธารณชนอย่างตรงไปตรงมา และทำหน้าที่ในการติดตามตรวจสอบพัฒนาการทางการเมืองจากคำมั่นสัญญาของผู้มีอำนาจทางการเมือง ในการที่จะปฏิรูปการเมืองภายหลังการเลือกตั้งว่า ให้มีความจริงใจในการดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ เป็นสำคัญ


 


13.เราจะธำรงไว้ซึ่งอิสรภาพและเสรีภาพของสื่อมวลชนในการนำเสนอข่าวสารโดยตระหนักถึงความรับผิดชอบ ยืนยันหลักการของการควบคุมและตรวจสอบสื่อมวลชนด้วยกันเองและจะปฏิรูปสื่อมวลชนให้ทำงานโดยตระหนักถึงจริยธรรมแห่งวิชาชีพสื่อมวลชนอย่างเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไป จึงประกาศเจตนารมณ์ดังกล่าวข้างต้นนี้ให้ทราบทั่วกัน


 


ต่อมา นายภัทระ คำพิทักษ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยได้แถลงถึงผลการประชุมร่วมกันว่า ที่ประชุมขอประณามการครอบงำสื่อมวลชนทุกรูปแบบ โดยเฉพาะสื่อที่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐที่ต้องได้รับการคุ้มคอรงตามรัฐธรรมนูญธรรมนูญบับปัจจุบัน โดยหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะร่วมกันนำเสนอบทบรรณาธิการร่วม เพื่อแสดงจุดยื่นของสื่อมวลชนทุกแขนงในหน้าหนังสือพิมพ์ฉบับประจำวันอังคารที่ 11 เม.ย.นี้ พร้อมทั้งจะมีการนำเสนอบทบรรณิการดังกล่าวในสื่อวิทยุและโทรทัศน์ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย


 


ด้านนางสาววิมล ตัน นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ กล่าวว่า ได้มีการหารือถึงเรื่องการให้ความร่วมมือในปัญหาที่สื่อมวลชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งในที่ประชุมคาดการณ์ว่าในอนาคตจะมีการฟ้องร้องกันมากขึ้น จึงได้ตกลงกันร่วมกันว่า จะมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือโดยการประสานข้อมูลแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน รวมทั้งประสานไปยังองค์กรเกี่ยวกับกฎหมาย เพื่อให้ช่วยเหลือในการว่าความและต่อสู่คดี


 


นายสมชาย แสวงการ นายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวว่าการนำเสนอข่าววิทยุและโทรทัศน์หากมีส่วนไหนตกหล่นไม่ได้มีการนำเสนอ ทางสมาคมมีศูนย์ข่าวอิศรารองรับไว้อยู่แล้ว ซึ่งผู้สื่อข่าวทุกสำนักสามารถนำข่าวที่ไม่ได้มีการนำเสนอส่งให้ศูนย์ข่าวอิศราเพื่อคัดกรองแล้วนำเสนอต่อสาธารณชนต่อไป โดยศูนย์ข่าวนี้จะเป็นเวทีสำหรับเปิดเผยเล่ห์กลของนักการเมือง ผู้มีอิทธิพลที่คุกคามการทำงานของสื่อมวลชนและประชาชน


 


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างแถลงข่าวได้มีผู้ดำเนินรายการเกี่ยวกับกฎหมาย จากช่องยูบีซี ได้ขอความเป็นธรรมจากสมาคมกรณีที่รายการถูกงดออกอากาศ เพราะเคยสัมภาษณ์นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลที่ค่อนข้างรุนแรง รวมถึงรายการ "สินเจริญเชิญแขก" ก็โดนงดออกอากาศด้วยเนื่องจากเชิญนายจรัส สุรัสวดี "ตู้"ซึ่งออกมาวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลรุนแรงเช่นกัน ซึ่งทางสมาคมรับจะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อหามาตรการช่วยเหลือต่อไป


 


0 0 0


 


บทกวีรวมพลังต้านคุกคามสื่อ 5 เมษายน 2549

โดย...เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์

บทที่ 1 นกน้อยในไร่ส้ม
นกน้อยในไร่ส้ม อันสมมติสมัญญา
ยังกระพืออยู่กลางพา- ยุกระหน่ำอย่างทรนง

คือคนแห่งข่าวสาร อันตระหง่านอยู่ยรรยง
ทะมัดชูคันธง สะพัดพลิ้วทิวสัจจธรรม

เป็นแสงแห่งคบไฟ ที่ขับไล่ความมืดดำ
เป็นธนูที่พุ่งนำ ไปสู่เป้าไม่ลังเล

ลมเกรี้ยวยิ่งเกรียวกรู ยิ่งเรียนรู้ไม่รวนเห
คลื่นคลั่งประดั่งประเด ยิ่งรู้ทิศยิ่งรู้ทาง

โลกลัดชั่วลัดนิ้ว ยิ่งลิ่วไร้อันใดขวาง
เท็จจริงกระจ่างวาง ประจักษ์ถ้วนมวลประชา

เป็นหูให้แก่หู อยู่เป็นตาให้แก่ตา
เป็นปากเป็นวาจา เป็นกระจกสะท้อนจริง

นกน้อยในไร่ส้ม เจ็บสุขสมฤาโศกสิง
แหล่งพักเหล่าหลักพิง แลค่ำนี้จะนอนไหน

///////////
กวีบทที่ 2
หยุดคุกคามสื่อ

สังคมตอนนี้มีคนสองชั้น
คือหนึ่งนั้นผู้ได้เปรียบกดขี่ข่ม
สองคือผู้เสียเปรียบถูกเหยียบจม
เราอยู่ในสังคมแห่งชนชั้น

ชนชั้นผู้ได้เปรียบกับเสียเปรียบ
ฝ่ายหนึ่งเหยียบอีกฝ่ายเป็นไปขั้น
จนเห็นเป็นธรรมดาเป็นสามัญ
ต่างแย่งชิงแข่งขันเหยียบกันไป

สื่อต้องเป็นตาที่สามของสังคม
เห็นสามานย์โสมมแห่งยุคสมัย
สื่อต้องเป็นปากเสียงอันเกรียงไกร
ร่วมขับไล่คัดค้านพาลภารา

เมื่อโลกเงียบด้วยอธรรมคุกคามเข่น
สื่อต้องเป็นปากเสียงตะโกนกล้า
เมื่อโลกมืดมัวมนด้วยมายา
สื่อต้องเป็นดวงตาของประชาชน

กันดารแดนก็จะดั้นกันดารแดน
ระส่ำแสนฝนห่าจะฝ่าหน
ที่เถื่อนถ่อยจะท้าทับทุกมณฑล
จะไม่ยอมจำนนความต่ำทราม

เสรีสื่อคือเสรีแห่งประชา
อันใดฤาจักกล้ามาหยาบหยาม
ทั้งฟ้าดินจะจารึกผนึกประณาม
คุกคามสื่อคือคุกคามประชาชน


............................................................


เรียบเรียงจาก : เว็บไซต์ คมชัดลึก

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net