ประชาไท--20 ก.ค. 2549 พล.ต.ต.พีรพันธุ์ เปรมภูติ รักษาราชการปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีสัญญาสัมปทานไอทีวี แถลงผลการประชุมนัดแรกว่า ที่ประชุมหารือใน 2 เรื่อง คือ 1.กรอบอำนาจของคณะกรรมการฯ ซึ่งในคำสั่งกำหนดให้ตรวจสอบข้อสัญญาที่มีการเปลี่ยนแปลง ที่มีการเพิ่มข้อ 5 วรรค 4 เข้าไปในคู่สัญญา 2.ให้หาตัวผู้รับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นทางแพ่ง อาญา หรือทางวินัย จะต้องมีผู้รับผิดชอบในกรณีที่ก่อให้เกิดความเสียหาย

รักษาราชการปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมยังหารือประเด็นการสอบสวนว่า เหตุใดคู่สัญญาจึงผิดสัญญา และมีมาตรการดำเนินการอย่างไร โดยยึดหลักกฎหมายประกาศ ระเบียบทั้งหมด รวมทั้งเกณฑ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง และข้อสัญญาที่มีข้อเถียงกันอยู่ว่าข้อ 5 วรรค 4 ใช้ได้หรือไม่ กรรมการฯ จึงมีมติให้สอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเชิญผู้เกี่ยวข้องจำนวน 4 คนเข้าพบกรรมการฯ เพื่อซักถามและสอบปากคำ ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

พล.ต.ต.พีรพันธุ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุมมีมติตั้งคณะทำงานเพิ่ม เนื่องจากจะต้องมีคณะทำงานเกี่ยวกับเอกสารด้วย เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งที่ประชุมยังมีมติขอขยายกรอบเวลาการทำงาน เนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้คณะกรรมการฯ ทำงานและรายงานผลการดำเนินงานให้คณะรัฐมนตรีรับทราบภายใน 30 วัน จึงต้องขอขยายเพิ่มอีก 30 วัน เพราะต้องมีเวลาสอบถามเจ้าหน้าที่และขอเอกสารเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม เรื่องค่าสัมปทาน รัฐบาลต้องได้รับแน่นอน และหากสถานีโทรทัศน์ไอทีวีผิดสัญญาจะต้องชำระค่าปรับตามสัญญา