22 ก.ค.49 ผู้จัดการออนไลน์ รายงานคำสัมภาษณ์ของนาย
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ถึงแม้ พ.ต.ท.ทักษิณ จะมีสิทธิลงสมัครเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญก็ตาม แต่ต้องไม่ลืมว่าคนเป็นผู้นำจะต้องคำนึงถึงหน้าที่มากกว่าสิทธิ โดยเฉพาะหน้าที่ในการสร้างสันติสุขและความสมานฉันท์ในสังคมไทย วันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินมาถึงทางแพร่งทางการเมืองที่ต้องเลือกระหว่างอำนาจกับความสงบสุข หากเลือกรักษาอำนาจของตนต่อไปก็จะทำให้การเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.49 ไม่บรรลุตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยเพราะต้องการให้เกิดความสงบสุขในสังคม และไม่มีใครประกันได้ว่าการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.49 จะคลี่คลายสถานการณ์การเมืองได้ เพราะอาจเลวร้ายกว่าการเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา
"ที่สำคัญ พ.ต.ท.ทักษิณก็เคยประกาศเว้นวรรคทางการเมือง เมื่อวันที่ 4 เมษายนที่ผ่านมา ก็ต้องรักษาสัญญาประชาคม เพราะเงื่อนไขความขัดแย้งทางการเมืองยังไม่เปลี่ยนจึงไม่มีเหตุให้ต้องกลับคำพูดหรือฉีกสัตยาบันที่ประกาศไว้"นายสุริยะใส ระบุ
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการสมานฉันท์นั้นจุดยืนของพันธมิตรฯยังเหมือนเดิมคือ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องวางมือทางการเมืองก่อน และไม่เห็นด้วยกับวิธีการสมานฉันท์ที่เดินเรื่องโดยนาย
"ดังนั้น กระบวนการสมานฉันท์ต้องเริ่มต้นด้วยความโปร่งใส และสังคมมีส่วนร่วมอย่างเป็นรูปธรรม ถ้าแอบทำหรือแอบคุยกัน สองต่อสองก็จะทำให้สังคมหวาดระแวงและไม่เชื่อถือจนอาจทำให้กระบวนการสมานฉันท์เป็นเพียงการแบ่งปันผลประโยชน์ในหมู่นักการเมืองเท่านั้น"
ด้านกรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รายงานคำกล่าวของนาย
"ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในวันที่ 15 ต.ค.จะออกมาเป็นอย่างไร เราจะไม่เรียกร้องอะไรอีกแล้ว คุณ
เมื่อถามว่า จะประท้วงการเลือกตั้งด้วยการฉีกบัตรหรือไม่ นายไชยยันต์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในการวินิจฉัยของศาลว่าจะคลี่คลายปัญหาที่ค้างคาอยู่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโยกย้ายผู้บังคับกองพันทำให้กองทัพมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น จะส่งผลให้ศาลมีความมั่นใจในการตัดสินเพราะถือว่ามีแบ็กอัพคอยสนับสนุน
"ถ้าศาลเป็นที่พึ่งสามารถผ่าทางตันวิกฤตการณ์ได้ ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ แต่ถ้าศาลไม่อาจจะทำได้ ผมก็จำเป็นต้องแสดงออกเพื่อรักษาสิทธิของผมในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นการฉีกบัตรเลือกตั้ง หรือวิธีอื่นที่ต้องคิดกันต่อไป" อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ กล่าว
............................................................................
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์ และ กรุงเทพธุรกิจ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)