Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-26 ต.ค.47 นางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ มีมติเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนสังคม และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางและกิจการขนาดย่อม เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่จะเสริมสร้างศักยภาพและความเข้มแข็งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ

มาตรการนี้จะมีส่วนช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัว และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางและกิจการขนาดย่อม ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของระบบเศรษฐกิจ ตลอดจนเป็นการเพิ่มความเป็นธรรมในสังคมให้มากยิ่งขึ้น

โดยมีสาระสำคัญดังนี้ 1. ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้สุทธิซึ่งหมายถึงเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและค่าลดหย่อนแล้ว จากเดิมที่ยกเว้นในวงเงิน 80,000 บาทแรก ให้เพิ่มขึ้นเป็น 100,000 บาทแรก ทั้งนี้ให้มีผลใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับในปี พ.ศ. 2547 เป็นต้นไป

2. ปรับปรุงอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการขนาดย่อมที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกิน 5 ล้านบาท จากเดิมที่จัดเก็บในอัตราก้าวหน้า โดยกำไรสุทธิในส่วน 1 ล้านบาทแรก จัดเก็บในอัตราร้อยละ 20

กำไรสุทธิในส่วนที่เกิน 1 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 3 ล้านบาท จัดเก็บในอัตราร้อยละ 25 และกำไรสุทธิในส่วนที่เกิน 3 ล้านบาท จัดเก็บในอัตราร้อยละ 30 โดยปรับลดอัตราภาษีของกำไรสุทธิในส่วน 1 ล้านบาทแรก เป็นจัดเก็บในอัตราร้อยละ 15

สำหรับกำไรสุทธิในส่วนที่เหลือให้คงจัดเก็บในอัตราเดิม ทั้งนี้ให้มีผลใช้บังคับสำหรับกำไรสุทธิของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีซึ่งเริ่มในหรือหลังวันที่ 1 ม.ค. 2547 เป็นต้นไป

3. ขยายระดับรายได้ของผู้ประกอบกิจการขนาดย่อมที่ไม่ต้องจดทะเบียนเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี ให้เพิ่มขึ้นเป็นไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี ทั้งนี้ ให้มีผลใช้บังคับสำหรับรายได้ที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป

4. ปรับปรุงการหักค่าลดหย่อนการอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดา จากเดิมที่เคยนำเสนอ ให้หักได้ 15,000 บาทต่อบิดามารดา 1 คน โดยในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการออกกฎหมาย ให้เพิ่มขึ้นเป็น 30,000 บาทต่อบิดามารดา 1 คน

มาตรการที่นำเสนอทั้งหมดข้างต้น คาดว่าจะมีผลกระทบต่อรายได้ภาษีอากร ประมาณปีละ 8,200 ล้านบาท อย่างไรก็ดีกระทรวงการคลังเชื่อมั่นว่า มาตรการภาษีข้างต้นจะมีส่วนช่วยส่งเสริมและสนับสนุนการอุปการะเลี้ยงดูบิดามารดาซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดบุตร รวมทั้งช่วยบรรเทาภาระภาษีให้กับผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง และผู้ประกอบกิจการขนาดย่อมโดยทั่วไป

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net