Skip to main content
sharethis

จากบทบรรณาธิการ www.ftawatch.org : แด่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์


 


 


เมื่อเช้านี้ ยังไม่ทันได้ออกจากบ้าน ก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าวว่าคนไทยทำชื่อเสียงให้กับประเทศอีกแล้ว


เชื่อว่าภายในไม่กี่วัน เรื่องน่าดีใจนี้คงจะไปพาดหัวอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็ได้รับการบอกกล่าวใน


รายการวิทยุและโทรทัศน์ เพราะเป็นผลงานที่คนไทยควรจะดีใจและชื่นชมร่วมกันไม่แพ้ครั้งไหนๆ


แม้ตอนที่กำลังเขียนอยู่นี่ ก็ยังได้ยินเสียงปรบมือและโห่ร้องไชโยแว่วมาไม่หยุดหย่อน จากเมืองโตรอนโต้


ประเทศแคนาดา ที่ซึ่งงานประชุมเอดส์โลกกำลังจะจบลงในวันนี้


 


คนไทยกลุ่มนี้ไม่ใช่คุณหมอหรือคุณพยาบาล ไม่ใช่รัฐมนตรีหรือนายกฯ ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ ดารานักร้อง นางงามหรือเชียร์ลีดเดอร์ และก็ไม่ใช่นักเรียนนักศึกษาที่แข่งขันชนะเลิศในการประกวดสิ่งประดิษฐ์หรือแผนธุรกิจ


 


แต่พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์จากทุกภาคในประเทศไทยซึ่งรวมตัวกันในนาม "เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ประเทศไทย" ที่ร่วมกันฝ่าฟันเรียกร้องสิทธิในการมีส่วนร่วมกำหนดนโยบายและปฏิบัติการด้านการรักษาจนมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง สามารถหยัดยืนและมีชีวิตอยู่ในสังคมไทยได้อย่างมีศักดิ์ศรี


 


เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ประเทศไทยได้รับเลือกโดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากทั่วโลก


จากบรรดาองค์กรที่ทำงานด้านเอชไอวีเอดส์ที่เข้าร่วมกว่า 500 องค์กร ให้เป็น 1 ใน 5 องค์กรที่ได้รับรางวัลริบบิ้นแดง (Red Ribbon Award)


 


รางวัลนี้จะมอบเป็นเกียรติให้กับองค์กรที่ทำงานกับชุมชนในการผลักดัน รณรงค์ ช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์ทุก 2 ปี โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของสหประชาชาติ คณะกรรมการจัดงานประชุม รัฐบาลแคนาดา นอร์เวย์ ออสเตรีย ฟินแลนด์ และไอร์แลนด์ และองค์กรแคร์นานาชาติ


 


ในบทความหนึ่งของหนังสือพิมพ์ The Nation ฉบับวันนี้ เรื่อง "กรณีศึกษาในการต่อสู้กับเอดส์" (A case study in combating Aids) ซึ่งกล่าวถึงกรณีประเทศไทยที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับเชื้อเอชไอวีเอดส์ โดยเฉพาะการใช้นโยบายที่รับประกันการเข้าถึงยาต้านไวรัสในราคาที่ไม่แพงให้กับผู้ติดเชื้อกว่า 90% ทำให้ผู้ติดเชื้อสามารถที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้โดยปกติสุข และธนาคารโลกถึงกับยกประสบการณ์ประเทศไทยว่า "พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแม้แต่ประเทศที่มีทรัพยากรจำกัดยังสามารถทำให้มียาต้านไวรัส(ARV) พอในราคาถูกสำหรับทุกคนที่ต้องการมันจริงๆ" นั้นผู้เขียนได้กล่าวถึงตัวละคร 2 กลุ่มว่า "กระทรวงสาธารณสุขของไทยและหุ้นส่วนที่มิใช่รัฐบาล (non-governmental partners)ควรจะภูมิใจว่างานที่พวกเขาได้ทำเพื่อต่อสู้กับเอชไอวี/เอดส์ในประเทศนี้ได้รับการพูดถึงอีกครั้งหนึ่งถึงเรื่องราวความสำเร็จที่โดดเด่นซึ่งประเทศกำลังพัฒนาควรเอาอย่าง"


 


แม้ว่าผู้เขียนจะไม่ได้บรรยายเพิ่มเติมถึงฉากหลังของความสำเร็จหรือสาธยายตัวละครโดยเฉพาะ "หุ้นส่วนที่ไม่ใช่รัฐบาล" ต่อ ว่าหมายถึงใครบ้าง และมีบทบาทอย่างไร แต่การประกาศรางวัลริบบิ้นสีแดงในครั้งนี้เป็นเหมือนกระจกสะท้อนเรื่องราวส่วนสำคัญที่อยู่นอกบทความชิ้นนี้ให้เข้าสู่การรับรู้ของสังคมไทยได้อย่างพอดิบพอดีว่าหนึ่งในหุ้นส่วนที่ไม่ใช่รัฐบาลนั้น คือ เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ นั่นเอง


 


ในปี 2542 การประชุมของเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ พบว่าการสำรวจการได้รับยาป้องกันโรคปอดอักเสบพีซีพี


(ซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆของผู้ติดเชื้อ) ของแกนนำที่มาร่วมประชุมนั้นมีผู้ที่เข้าเกณฑ์การรับยาป้องกันแต่ได้รับยาไม่ถึง 50% "ทั้งๆที่ยาป้องกันหาได้ราคาไม่แพง แต่ระดับแกนนำผู้ติดเชื้อ ไม่สามารถเข้าถึงได้และนั่นยังไม่รวมถึงสถานการณ์การเข้าถึงยาต้านไวรัส ที่แทบไม่ต้องนึกถึงในสถานการณ์ขณะนั้น"


 


หากใครเข้าไปในเว็บไซด์ของเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ {HYPERLINK"http://www.thaiplus.net"}0000,0000,FF00www.thaiplus.net0100,0100,0100


 


จะเห็นว่าสถานการณ์การเข้าถึงยาต้านไวรัสที่พัฒนาขึ้นในวันนี้ไม่ได้จู่ๆก็หล่นลงมาจากฟ้า หากได้มาด้วยการผลักดันและการทำงานอย่างต่อเนื่องและกระตือรือร้นของเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯร่วมกับองค์กรอื่นๆเท่านั้น จนทำให้ตัวเลขการเข้าถึงยาต้านไวรัสเพิ่มสูงขึ้นเป็นกว่า 90% ตามที่ธนาคารโลกระบุ ทั้งนี้ ต้องยกคุณความดีส่วนหนึ่งให้กับองค์การเภสัชกรรมที่สามารถผลิตยาต้านไวรัสในราคาต่ำได้เอง จึงทำให้งบประมาณอันจำกัดนั้นสามารถเฉลี่ยให้ผู้ติดเชื้อฯได้มากคนขึ้น


 


ในวันนี้ เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯมีศักยภาพเพียงพอที่จะไปมีส่วนร่วมในการจัดการระบบประกันสุขภาพด้วย


โดยทำงานร่วมกับโรงพยาบาลในการให้คำปรึกษาและข้อมูลที่ถูกต้องเรื่องการดูแลรักษาและการทานยาของผู้ติดเชื้อฯ ไม่เพียงเท่านั้น เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯยังมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบมาตรฐานของการให้สิทธิบัตรยาของไทย เช่น ในกรณีการตรวจสอบและคัดค้านการให้สิทธิบัตรยาคอมบิดกับบริษัทแกล็กโซ สมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด รวมถึงการตั้งคำถามกับนโยบายเศรษฐกิจของประเทศ อย่างเช่น การจัดทำข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และคัดค้านข้อตกลงด้านสิทธิบัตรยาซึ่งมุ่งไปที่การตอบสนองต่อผลประโยชน์ของบริษัทยาข้ามชาติเป็นสำคัญ


 


เมื่อวานได้มีโอกาสไปชมหนังเรื่องหนึ่ง ชื่อ "Tiger Brigades" หรือชื่อภาษาไทยว่าพลพยัคฆ์เหลี่ยมเพชร


ฉากของเรื่องเกิดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง โดยปมของเรื่องเกิดจากการที่เงินกู้ที่ฝรั่งเศสให้กับรัสเซียนั้นถูกยักยอกและคอรัปชั่นโดยเจ้าชายแห่งรัสเซียองค์หนึ่งและกลุ่มผู้มีอำนาจและข้าราชการบางส่วนในฝรั่งเศส


 


 


แม้ว่าทั้งชื่อเรื่องและโปสเตอร์ของหนังเรื่องนี้จะเน้นไปที่กลุ่มข้าราชการตำรวจพิเศษ ที่เรียกว่า Tiger Brigades ที่พยายามสางความอลหม่านต่างๆ แต่เรื่องนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่มีพระชายา Constance


ของเจ้าชายแห่งรัสเซียและกลุ่มของเธอ ซึ่งมุ่งทำทุกทางเพื่อจะหาหลักฐานเปิดโปงและจัดการกับความเลวร้ายของทั้งเจ้าชายและพวกพ้อง นั่นรวมถึงการขโมยสมุดจดรหัสลับอันเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ การขู่ขวัญทางจิตวิทยาด้วยหัวสุนัข การปลอมตัวการตีพิมพ์ความหมายของรหัสลับลงหนังสือพิมพ์ จนถึงการพยายามฆาตกรรมเจ้าชายด้วยระเบิด


 


ที่น่าสนใจก็คือแม้ว่าเรื่องราวของการมุ่งเอาประโยชน์ใส่ตัวโดยไม่แยแสกับคนอื่นนั้นเกิดมาทุกยุคทุกสมัย (ซึ่งก็น่าแปลกที่คนยิ่งมีมักจะยิ่งอยากได้และเอาจากคนอื่นเรื่อยไป) แต่เรื่องราวของคนที่ต่อสู้กับความโลภและความไม่ชอบธรรมก็มีอยู่ในทุกยุคทุกสมัยด้วยเช่นกัน


 


ต้องขอบคุณกลุ่มผู้ติดเชื้อฯที่ทำตัวเป็นกลุ่มของพระชายา Constance ยุคโลกาภิวัฒน์ ซึ่งในขณะที่ต่อสู้เพื่อสิทธิในการเข้าถึงยาและการรักษาของตนก็ได้ถากถางทางเปิดเผยให้สังคมไทยรับรู้ความเป็นจริงอีกด้านที่ไม่สวยงามของเอฟทีเอและระบบสิทธิบัตรยา


 


และในวันนี้..แม้แต่โลกก็ยังต้องยกย่องคนตัวเล็ก (แต่ใจใหญ่) กลุ่มนี้ว่าเป็นตัวอย่างของกลุ่มคนที่สร้างประโยชน์ให้กับมวลมนุษยชาติ ไม่ใช่เพื่อ "เงิน" แต่เพื่อ "หัวใจ"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net