เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 กันยายน 2549 ที่กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พล.ท.องค์กร ทองประสม แม่ทัพภาค 4 ในฐานะอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีระเบิดธนาคารในจังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2549 และคดีระเบิด 6 จุด กลางเมืองหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา

พล.ต.ท.อดุลย์ แถลงว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนคดีลอบวางระเบิดธนาคารในจังหวัดยะลา ได้สอบพยานไปแล้ว 128 ปาก จับกุมผู้ต้องหาแล้ว 24 คน จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์ต่อคดี 5 คน พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อหามีความผิดร่วมกันฆ่า พยายามฆ่า ร่วมกันผลิตระเบิดและมีวัตถุระเบิดก่อให้เกิดระเบิด ร่วมกันก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร มีโทษประหารชีวิต

พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวว่า ตนขอให้ประชาชนที่รู้เบาะแสคนร้าย หรือกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเป็นก่อเหตุลอบวางระเบิด ให้แจ้งข้อมูลได้ที่ส่วนสืบสวนศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า จังหวัดยะลา มีรางวัลตอบแทน 20,000 บาท โดยทางการจะปิดชื่อผู้แจ้งเป็นความลับ

"สำหรับคดีลอบวางระเบิด 6 จุด กลางเมืองหาดใหญ่ การสืบสวนคืบหน้าไปมากแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการสรุปผล ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้" พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าว

พล.ท.องค์กร แถลงว่า ตามที่คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขทั่วประเทศ ประกาศใช้กฎอัยการศึก ส่งผลให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ที่ใช้พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่ก่อนแล้ว ต้องใช้ประกาศกฎอัยการศึกควบคู่ไปด้วย จึงอาจจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่สะดวกไปบ้าง ตนขอให้เข้าใจถึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้กฎหมายทั้ง 2 ฉบับ ในพื้นที่นี้ว่า เป็นเพราะต้องการให้เกิดความสงบสุขในพื้นที่