Skip to main content
sharethis

ศาลสั่งจำคุก 6 เดือน ปรับ 30,000 บาท 'วิชาญ' เหตุตะโกนชวนคนในตลาดพิบูลมังสาหาร จ.อุบลฯ ไม่ให้ออกไปลงประชามติ ผิด พ.ร.บ.ประชามติ ลดโทษเหลือโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้สองปี 

ภาพ วิชาญ ขณะถูกคุมตัวที่ สภ.พิบูลมังสาหาร เมื่อวันที่ 27 ก.ค.59 (แฟ้มภาพ)

10 พ.ย. 2560 ความคืบหน้าคดี วิชาญ ภูวิหาร อายุ 48 ซึ่งถูกดำเนินคดีในข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 มาตรา 61 วรรค 2 จากกรณี 26 ก.ค.59 เจ้าหน้าที่อ้างว่าเขายืนตะโกนเชิญชวนประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้าในตลาดสดเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ไม่ให้ออกไปลงประชามติ นั้น

ล่าสุด iLaw รายงานว่า เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดอุบลราชธานีนัดวิชาญฟังคำพิพากษาในคดีดังกล่าว โดยที่วิชาญและทนายจำเลยได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา นอกจากนี้ยังมีประชาชนทั่วไปสนใจมาฟังคดีราว 15 คน ต่อมาเวลา 10.20 น. ศาลขึ้นนั่งบัลลังก์และพิพากษาให้วิชาญมีความผิด ลงโทษจำคุกหกเดือน ปรับเป็นเงิน 30,000 บาทแต่วิชาญให้การเป็นประโยชน์ในชั้นศาล จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 20,000 บาท โทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้สองปี 

iLaw รายงานสรุปคำพิพากษาว่า วิชาญ เบิกความสอดคล้องกับที่อัยการโจทก์ได้ฟ้องมาว่า วิชาญกระทำความผิดจากการตะโกนชวนคนไม่ไปออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญฯ 7 สิงหาฯ ขณะที่พยานจำเลยที่นำสืบในศาลทั้งสามปากคือ ตัววิชาญเอง, ภิเศก อาจทวีกุล ทนายจำเลยและสมาน ศรีงาม เพื่อนของวิชาญ ก็ไม่ได้รู้เห็นเหตุการณ์จริงว่า ในวันเกิดเหตุวิชาญได้ไปแสดงออกอย่างไร ที่บริเวณหน้าตลาดสดพิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ดังนั้นข้อเท็จจริงจึงเป็นไปตามที่พยานโจทก์เบิกความว่า วิชาญได้ไปพูดที่ตลาดสดพิบูลมังสาหาร คำพูดของเขามีลักษณะชักจูง ปลุกระดม มุ่งหวังให้ประชาชนออกเสียงอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ออกเสียง ในระหว่างที่เขาพูดมีประชาชนเดินผ่านไปผ่านมาที่หน้าตลาดสด ขณะที่การที่วิชาญอ้างว่า เขาพูดให้คนไม่กี่คนฟังนั้นฟังไม่ขึ้น เพียงไม่กี่คนฟังก็ถือว่าวิชาญได้กระทำผิดแล้ว การกระทำของวิชาญจึงเข้าข่ายการยุยง หรือมุ่งหวังไม่ให้ประชาชนไปใช้สิทธิออกเสียงประชามติ มีความผิดตามมาตรา 61 วรรคสองของพ.ร.บ.ประชามติฯ

สำหรับเหตุของคดีนี้สืบเนื่องจากวันที่ 26 ก.ค. 59 เวลาประมาณ 7.30 น. วิชาญปั่นจักรยานมาที่ตลาดสดพิบูลมังสาหาร จากนั้นก็พูดกับประชาชนที่มาซื้อของว่าตนเองเป็นสมาชิกพรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ พร้อมกับชูเอกสารของพรรคและพูดจาปลุกระดมให้ประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นไม่ไปใช้สิทธิลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในวันที่ 7 ส.ค.59

ทั้งนี้ภายหลังจากที่ วิชาญ ถูกจับกุมเขาปฏิบัติการอดข้าวในทันที่ ก่อนที่จะถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำกลางอุบลราชธานี โดย อดมาประมาณ 12 วัน และถูกปล่อยตัวชั่วคราวในภายหลัง นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสงสัยพฤติกรรมของ วิชาญ คล้ายคนมีจิตบกพร่อง จึงส่งตัว วิชาญ ให้แพทย์โรงพยาบาลพระศรีมหาโพธิ์ อ.เมือง ตรวจสอบสภาพจิตใจ ซึ่งแพทย์ลงความเห็นมีสภาพจิตปกติ จึงแจ้งข้อกล่าวหา วิชาญ ดังกล่าว คุมตัวดำเนินคดี

สำหรับ วิชาญ เขาเป็น รองประธานคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา และสมาชิกพรรคการนำใหม่ประชาชนปฏิวัติสันติ เมื่อปี 56 ได้ร่วมกับกลุ่มธรรมยาตราปืนรั้วข้ามเข้าไปในเขตทหารกัมพูชาที่เข้าพระวิหาร เพื่ออดข้าวประท้วงกรณีศาลโลกตัดสินให้กัมพูชามีสิทธิเหนือพื้นที่ 4.6 ตร.กม.รอบตัวปราสาทเขาพระวิหารมาแล้วด้วย และเมื่อวันที่ 28 ก.ค.58 ผู้จัดการออนไลน์ เคยรายงานด้วยว่า วิชาญ ร่วมกลุ่มนี้ โดยมี สมาน ศรีงาม เป็นแกนนำกลุ่มธรรมยาตราและสภาประชาชน เดินเท้าจากเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษมุ่งหน้าเข้ากรุง เพื่อถวายฎีกาในหลวง ทวงคืนแผ่นดินไทยเขาพระวิหาร

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net