Skip to main content
sharethis

กกต.สั่งเอาผิดอาญา 'พัฒนา สัพโส' สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย โพสต์หาเสียงเกินเวลา เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนา ชี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ มั่นใจไม่มีผลต่อสถานะ สส. ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่


พัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2566 เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต. สั่งดำเนินคดีอาญาแก่นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 ประกอบมาตรา 156 (1) ระบุว่าสืบเนื่องจากก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่า นายพัฒนา(ผู้ถูกร้อง) ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สส.สกลนคร เขตเลือกตั้งที่ 4 พรรคเพื่อไทย (พท.) กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 คือ การหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการใดไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง นับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง

กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้ว ได้ความว่า ผู้ร้องกล่าวหาว่าวันเลือกตั้ง 14 พฤษภาคม 2566 เวลา 06.55 น. ผู้ถูกร้องใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พัฒนา สัพโส” เผยแพร่โพสต์ของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พรรคเพื่อไทย” ซึ่งโพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2566 ว่า” วินาทีประวัติศาสตร์การปราศรัยที่ทรงพลังที่สุดครั้งหนึ่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ชวนฟังอีกครั้งการปราศรัยครั้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งของแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย เพราะการพบกันครั้งหน้าจะเป็น การแถลงนโยบายที่รัฐสภา #ปราศรัยใหญ่เพื่อไทย #เลือกเพื่อไทยแลนด์สไลด์ประเทศไทยเปลี่ยนทันที #เพื่อไทย29” และโพสต์วิดีโอคลิปการปราศรัยของพรรค พท.ความยาวประมาณ 4 นาที 50 วินาที

การกระทำของผู้ถูกร้อง จึงเป็นการหาเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเองและพรรค พท. โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้งจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง และผู้ร้องได้ให้ถ้อยคำตามข้อเท็จจริงในคำร้อง

ทั้งนี้ จากการไต่สวนผู้ถูกร้องให้ถ้อยคำว่า การใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กของตนชื่อ “พัฒนา สัพโส” เผยแพร่โพสต์ของบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “พรรคเพื่อไทย” อาจเกิดจากความพลั้งเผลอ มิได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะกระทำการดังกล่าวและไม่ทราบว่ามีการเผยแพร่โพสต์ได้อย่างไร เพราะเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2566 เวลา 17.00 น. ใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กของตนชื่อ “พัฒนา สัพโส” โพสต์ข้อความว่า “ผม นายพัฒนา สัพโส ผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย สกลนคร เขต 4 ขอยุติการหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันเสาร์ที่ 13 พ.ค. 2566 เป็นต้นไป จนกว่าจะสิ้นสุดวันเลือกตั้ง ส.ส.” เป็นการแสดงเจตนาว่าไม่ประสงค์ที่จะหาเสียงเลือกตั้งโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ นับตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวันก่อนเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง และจากการไต่สวนพยานผู้ถูกร้องซึ่งเป็นผู้ดูแลบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “พัฒนา สัพโส” ร่วมกับผู้ถูกร้อง ให้ถ้อยคำสอดคล้องกับผู้ถูกร้อง

อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงการไต่สวนรับฟังได้ว่า ข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกร้องที่ให้ถ้อยคำว่าการเผยแพร่ข้อความและวิดีโอคลิปดังกล่าวอาจเกิดจากความพลั้งเผลอ และมิทราบว่ามีการเผยแพร่ได้อย่างไร เป็นการให้ถ้อยคำปฏิเสธที่ง่ายต่อการกล่าวอ้างและไม่มีพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้น่าเชื่อว่าการกระทำของผู้ถูกร้องเกิดจากความพลั้งเผลอ ข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกร้องไม่อาจรับฟังได้  กรณีจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าผู้ถูกร้อง กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ. 2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 ตามคำร้อง

เจ้าตัวยืนยันไม่มีเจตนา ชี้ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ มั่นใจไม่มีผลต่อสถานะ สส. ไม่ต้องเลือกตั้งใหม่

เว็บไซต์ข่าวสด รายงานว่านายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งดำเนินคดีอาญา กรณีโพสต์หาเสียงเกินเวลาที่กำหนดว่า ไม่ได้ตัดสินเกี่ยวกับใบเหลือง ใบแดง แต่ดำเนินคดีอาญา ฐานทำผิดกฎหมาย ซึ่งโทษสูงสุดจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท ซึ่งจริงๆ ก็มีหลักฐานที่ควรจะยก เบื้องต้นจะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เพราะมั่นใจว่าไม่มีอะไร

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่จะมีผลต่อสถานะสส. นายพัฒนา กล่าวว่า “ไม่มี เรามั่นใจ เพราะไม่ได้มีเจตนาอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังไม่ได้มีการโพสต์หาเสียง ไม่ได้โพสต์ชื่อหรือเบอร์ตัวเองด้วย เป็นการโพสต์เกี่ยวกับพรรค เพราะมือมันไปโดน ไม่มีอะไร”

เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับทางพรรคบ้างแล้วหรือไม่ นายพัฒนา กล่าวว่า เขารู้นานแล้ว เพราะเรื่องนี้มีมติออกมา 2-3 เดือนแล้ว แค่เพิ่งปล่อยออกมาวันนี้เท่านั้น ทั้งนี้ ตนไม่กังวลและพร้อมชี้แจง ก็เป็นไปตามกระบวนการ เพราะเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก และมั่นใจว่าจะไม่มีผลต่อสถานะของสส.ด้วย

ด้าน นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เชื่อว่าโทษจะไม่รุนแรงจนถึงขั้นต้องมีการเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายพัฒนา

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net