สว.เรียกร้องรัฐ ออกนโยบายลดการนำเข้ารองเท้ามือสองอย่างจริงจัง หวั่นไทยเป็นประเทศรองรับขยะรองเท้าจากต่างประเทศ พร้อมขอหน่วยงาน เร่งจัดการปัญหาสุสานรองเท้ามือสองที่ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว เชื่อหากทำได้ จะเป็นต้นแบบให้อีกหลายจังหวัดที่พบปัญหา นำวิธีไปแก้ไข

ที่มาภาพประกอบ: Joe Shlabotnik (CC BY 2.0)

เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2567 ว่านายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) หารือเรื่องสุสานรองเท้าที่ต้องจำกัดการนำเข้า ผ่านผ่านประธานวุฒิสภา ไปยังรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยกล่าวว่า สุสานรองเท้าที่ตนกล่าวถึงอยู่ที่ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นแหล่งที่จะกระจายรองเท้ามือสองไปยังตลาดทั่วประเทศ โดยมีรองเท้ามือสองที่ถูกทิ้งอยู่ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคู่ ทั้งนี้ พบว่ารองเท้ามือสองเหล่านี้มีที่มาจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากกัมพูชา ตามที่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาได้ยกเลิกการนำเข้ารองเท้ามือสอง รองเท้าเหล่านี้จึงได้หันเหนำเข้ามายังประเทศไทย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ก่อนจะขนส่งมายังตลาดโรงเกลือ อย่างไรก็ตาม รองเท้าเหล่านี้ที่นำเข้ามานั้นใน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ จะถูกทิ้งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่ง ทำให้มีรองเท้ามือสองสะสมอยู่เป็นจำนวนมากจนเป็นสุสานรองเท้า ซึ่งได้ส่งผลให้เกิดปัญหาเน่าส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง และเต็มไปด้วยเชื้อโรค รวมถึงเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้ สร้างมลภาวะไปทั่วบริเวณ ด้วย

เพราะฉะนั้น ตนจึงขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ว่าควรจะมีนโยบายลดการนำเข้ารองเท้ามือสองอย่างจริงจัง มิเช่นนั้นไทยอาจเป็นประเทศที่รองรับขยะรองเท้ามือสองที่ใช้การไม่ได้ รวมถึงขอให้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษ ต้องเร่งเข้าไปดูแล ตามที่ชาวบ้านในพื้นที่ได้ร้องเรียนถึงกลิ่นเหม็นและเชื้อโรคจำนวนมาก ตลอดจน ขอให้เทศบาลเมืองอรัญประเทศ เร่งควบคุมจัดการดูแลปัญหานี้ มิเช่นนั้นอาจทำให้รองเท้ามือสองที่ถูกทิ้งอยู่ที่ตลาดโรงเกลือ กลายเป็นสุสานขนาดใหญ่ อย่างไรก็ดี เชื่อว่า หากสุสานรองเท้าที่ตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สามารถเป็นตัวอย่างของการถูกจัดการได้ดี จะทำให้ในหลายจังหวัดของไทยที่ประสบปัญหานี้ สามารถแก้ไขปัญหาไปได้ด้วยเช่นกัน