Skip to main content
sharethis

ประชาไท—28 ม.ค. 2549 ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ทิ้งทวนก่อนจากสภาหินอ่อน แฉ 10 ประเด็น "ชินวัตร" กินรวบประเทศไทย บริหารประเทศ 5 ปี รวยขึ้น 1.3 แสนล้านบาท


        


โดยนายชูวิทย์ กล่าวว่า ก่อนเข้าบริหารประเทศตระกูลชินวัตร มีมูลค่าหุ้น 32,000 ล้านบาท ผ่านไป 5 ปี มีเงินเพิ่มขึ้น 134,000 ล้านบาท เพราะได้กระทำการต่อไปนี้


 


1.แปรสภาพคู่สัญญาและคู่แข่งของบริษัท เอไอเอส คือ องค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) เป็น ทศท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้ ทศท อ่อนแอลง ขณะเดียวกัน เอไอเอสเข้มแข็งขึ้น


         


2.รัฐบาลสั่งการให้การสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) แปรสภาพเป็นบริษัท กสท โทรคมนาคม ยกเลิกการประมูลสัมปทานเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือ ซีดีเอ็มเอ เฟสที่ 2 ที่นายลีกาชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกง เจ้าของบริษัท ฮัทชิสัน ชนะประมูลแล้วกลับให้ กสท ลงทุนเอง และเมื่อรัฐเป็นผู้กำกับดูแลก็ทำให้ กสท อ่อนแอลง ผลประโยชน์ก็ตกอยู่กับบริษัท เอไอเอส


 


3.ปี 2546 รัฐบาลตรา พ.ร.ก.ให้กระทรวงการคลังจัดเก็บภาษีสรรพสามิตกิจการโทรคมนาคม โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ โดยไม่กระทบรายได้สัมปทานของผู้ประกอบการรายเดิม กีดกันผู้ประกอบการรายใหม่จนไม่มีผู้เข้ามาแข่งขัน


        


4.บริษัท เอไอเอส แก้สัญญาร่วมงานกับบริษัท ทศท ในการจ่ายเงินชดเชยของโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบพรีเพด วันทูคอล ให้ลดลงจาก 25 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 20 เปอร์เซ็นต์ ทำให้รัฐเสียรายได้ 1,600 ล้านบาทต่อปี เอไอเอสได้ประโยชน์


 


5.กระทรวงการคลังยกเลิกภาษีนำเข้าโทรศัพท์มือถือจาก 10 เปอร์เซ็นต์ เหลือ 0 เปอร์เซ็นต์ ทำให้บริษัท เอไอเอส มีกำไรเพิ่มขึ้น


 


6.มีการลดค่าสัมปทานไอทีวีเหลือเพียง 150 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งเปลี่ยนเงื่อนให้มีรายการบันเทิงเข้ามา ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้นอีก รวมแล้วไอทีวีจะได้กำไร 57,000 ล้านบาท ภายใน 20 ปี


         


7.บริษัท ชินคอร์ป ลงทุนในสายการบินแอร์เอเซีย ซึ่งถือเป็นคู่แข่งของสายการบินไทย ทำให้การบินไทยอ่อนแอ ปัจจุบันแอร์เอเซียมีเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 120 เที่ยวต่อเดือน ทับซ้อนเส้นทางของสายการบินไทย


         


8.ในปี 2547 พัฒนาสนามบินเชียงใหม่เป็นฮับ (ศูนย์รวม) เพื่อประโยชน์ของแอร์เอเชีย และยกเลิกเส้นทางการบินไทยหลายเส้น เพื่อหลีกทางให้แอร์เอเชีย


 


9.ดาวเทียมไอพีสตาร์จะได้รับการสนับสนุนจากประเทศนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย จีน และอินเดีย ซึ่งเชื่อมโยงกับการเจรจาเอฟทีเอทั้งสิ้น ทำให้ผลประโยชน์เพิ่ม แต่รายได้ของประเทศลดลง


 


10.ออก พ.ร.บ.ให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในกิจการโทรคมนาคม จาก 25 เปอร์เซ็นต์ เป็น 49 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้กลุ่มทุนเทมาเส็กกล้าเข้ามาลงทุน ซึ่งนายกฯก็ปฏิเสธว่าไม่เกี่ยว แต่คิดว่าถ้าไม่มีการวางแผนเป็นกระบวนการคงทำไม่ได้ เพราะเทมาเส็กเป็นแขนขาของรัฐบาลสิงคโปร์ ปัจจุบันถนนสุขุมวิทกว่าครึ่งถูกกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ซื้อแล้ว รวมทั้งโรงแรมต่างๆ ที่เป็นระดับ 5 ดาวใน กทม.ด้วย


 


ข้อมูลที่นายชูวิทย์เปิดเผยวานนี้ นายชูวิทย์ระบุว่าเตรียมจะนำไปเปิดโปงในสภาแต่เมื่อตนพ้นจากตำแหน่งจึงต้องนำมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน อย่างไรก็ตามนายชูวิทย์จะนำข้อมูลที่มีให้กับพรรคชาติไทยต่อไป


 


สำหรับอนาคตทางการเมืองของนายชูวิทย์นั้นเขายืนยันว่าจะยังไม่หันหลังให้กับเส้นทางสายนี้ โดยกล่าวทิ้งท้ายสุดเก๋ว่า "I shall return"

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net