กรุงเทพฯ-27 ธ.ค.47 "ในเบื้องต้น คาดว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงและความเสียหายต่อแนวปะการังไทยมากพอสมควร เพราะเมื่อเทียบกับครั้งที่แล้วที่เกิดพายุเกย์ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางอากาศ ยังสร้างความเสียหายให้กับแนวปะการัง แต่ครั้งนี้คลื่นซึนามิเป็นคลื่นใต้น้ำย่อมสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อแนวปะการังมากกว่า นอกจากนั้นแนวชายฝั่งทะเลจะมีความแห้งแล้งมากยิ่งขึ้นเพราะปริมาณต้นไม้ริมฝั่งลดลงจากการพัดถล่มของคลื่นยักษ์ซึนามิ" ผศ. วิโรจน์ดาวฤกษ์ หัวหน้าภาคธรณีวิทยา คณะวิทยา ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าว

ผศ. วิโรจน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นยังไม่สามารถประเมินความเสียหายทั้งหมดได้ เนื่องจากต้องเข้าไปสำรวจและลงพื้นที่จริงเสียก่อน แต่เบื้องต้นนั้นคาดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางระบบนิเวศ โดย เฉพาะกับแนวปะการังใต้ทะเล

นายไมตรี ดวงสวัสดิ์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่า คลื่นยักษ์จะทำลายทรัพยากรสัตว์น้ำ ปะการังที่อยู่ในบริเวณน้ำตื้น ชายฝั่งเป็นส่วนใหญ่

โดยเฉพาะหญ้าทะเลที่เสียหายไป อาจจะกระทบกับพะยูนซึ่งเป็นสัตว์ที่มีจำนวนน้อยด้วย อย่างไรก็ดีสำหรับทรัพยากรทางทะเลและสัตว์น้ำที่อยู่ในน้ำลึกลงไปไม่น่าจะมีปัญหา ไม่เหมือนกับการเกิดพายุที่จะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า ส่วนการฟื้นฟูของปะการังนั้นตามหลักจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 ปีถึงจะฟื้น

"ที่กังวลคือ บริเวณชายฝั่ง คลื่นจะนำเอาทรายและขี้โคลนขึ้นมาทับถม ซึ่งจะต้องหาวิธีกำจัด อีกทั้งคลื่นดังกล่าวยังจะทำให้ปากแม่น้ำเปลี่ยนรูป การไหลของน้ำในแม่น้ำลงสู่ทะเลเปลี่ยนไป ทั้งยังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของร่องน้ำในทะเลที่จะมีผลต่อการเดินเรือได้" นายไมตรี กล่าว

ประชาไทรายงาน