Skip to main content
sharethis

กรุงเทพฯ-3 ก.พ.48 ศ.ดร. ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ กล่าวถึงผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง "โครงการวิจัยเพื่อประมาณการจำนวนเงินในการซื้อสิทธิขายเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วไป ปี พ.ศ. 2548 รอบที่ 2" โดยระบุว่า ผลการสำรวจแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงระดับความรุนแรงของการซื้อเสียงโดยภาพรวมทั่วประเทศ ซึ่งมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงไปจากการสำรวจในรอบที่ 1 อย่างเห็นได้ชัด

ทั้งนี้ผลการสำรวจในครั้งที่ 2 พบว่า 23.7% อยู่ในระดับปานกลาง (วงเงินซื้อเสียง 10-20 ล้านบาท) ในขณะที่ 76.3 %อยู่ในระดับรุนแรง (วงเงินในการซื้อเสียงมากกว่า 20 ล้านบาท)

ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งก็คือ เมื่อคณะผู้วิจัยได้ทำการประมาณการวงเงินทั้งหมดที่ใช้จ่ายในการหาเสียงเลือกตั้งพบว่า ผลการสำรวจในรอบที่ 2 มีผลประมาณการวงเงินเท่ากับ 2.32หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในรอบที่ 1 กว่า 6 พันล้านบาท นอกจากนี้ยังพบว่าค่าเฉลี่ยวงเงินในการซื้อเสียงต่อหัวอยู่ที่ 512.90 บาท เพิ่มขึ้นจากการสำรวจรอบที่ 1 ซึ่งมีค่าเฉลี่ยต่อหัวเท่ากับ 344.37 บาท อย่างไรก็ตามผลการสำรวจพบว่า ในบางเขตเลือกตั้งมีค่าเฉลี่ยในการซื้อเสียงต่อหัวอยู่ระหว่าง 800-2,000 บาท

ผลการสำรวจของเอแบคโพลล์ในครั้งนี้ยังพบว่า ผลประมาณการวงเงินซื้อเสียงในการสำรวจรอบที่ 2 นี้ เพิ่มขึ้นจากการสำรวจในรอบแรกกว่าเท่าตัว โดยในการสำรวจรอบแรกพบว่า ผลประมาณการวงเงินในการซื้อเสียงอยู่ที่ 4.594,พันล้านบาท ในขณะที่ผลการสำรวจในรอบที่ 2 นี้พบว่าผลประมาณการวงเงินซื้อเสียงเพิ่มขึ้นเป็น 9.755 พันล้านบาท

ศ.ดร. ศรีศักดิ์ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของตัวอย่างต่อความบริสุทธิ์ยุติธรรมในการเลือกตั้ง ซึ่งผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่าง 65.7 %ระบุว่า มั่นใจ ในขณะที่ ไม่มั่นใจ 30.4% และไม่ระบุความคิดเห็น 3.9%

นอกจากนี้ 36.3% เห็นว่า ปัญหาที่ยังคงน่าเป็นห่วงในการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ได้แก่ ปัญหาในการซื้อสิทธิขายเสียง 14.4 % เห็นว่า ปัญหาความไม่เข้าใจของประชาชนในวิธีการเลือกตั้ง และ 11.5% ระบุปัญหาความขัดแย้งระหว่างผู้สมัครและหัวคะแนนของแต่ละฝ่าย

ส่วนโครงการวิจัยเพื่อประมาณการวงเงินเล่นทายพนันผลเลือกตั้ง ส.ส.2548 : กรณีศึกษาตัวอย่าง
ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจาก 25 จังหวัดทั่วประเทศ โดยคณะผู้วิจัยได้ประมาณการวงเงินสูงสุดที่เตรียมไว้เล่นทายพนันผลการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ พบว่า มีผลประมาณการวงเงินสูงสุดทั่วประเทศสูงถึง 7.10 พันล้านบาท โดยตัวอย่างระบุว่าบุคคลที่อาจจะเล่นทายพนันด้วย คือ 56.9% ระบุจะเล่นทายพนันกับเพื่อนของตน 41.7 %ระบุเล่นกับคนรู้จัก และ 28.6% ระบุเล่นกับญาติพี่น้อง

สำหรับโต๊ะพนันที่ตัวอย่างระบุ คาดว่า จะมีการเล่นทายพนันผลการเลือกตั้ง ส.ส. ในครั้งนี้ ได้แก่ กลุ่มเพื่อน คิดเป็น 46.8% รองลงมาได้แก่ โต๊ะบอล 30.4 % และ กลุ่มญาติสนิท 15.5% ทั้งนี้ตัวอย่างได้ระบุลักษณะของการเล่นทายพนันผลการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเล่นดังนี้ 52.8% ระบุเล่นทายว่า "ใครจะได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.เขต" รองลงมาคือ 46.1% เล่นทายว่า "พรรคไทยรักไทยจะได้เกิน 300 ที่นั่ง หรือไม่"

นอกจากนั้น 27.6% ระบุ "พรรคใดบ้างที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาล (เป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือมากกว่า 1 พรรค)" และ 17.1% ระบุ "พรรคประชาธิปัตย์จะได้เกิน 200 ที่นั่งหรือไม่

ประชาไทรายงาน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net