ประชาไท -- 25 พ.ค. 48 "ตอนนี้เป็นห่วงกระบวนการสังคม เพราะชุมชนเราเป็นสังคมที่เปิดกว้างมีความเอื้อเฟื้อ และยังไม่รับรู้ปัญหาเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ซึ่งเรายังไม่เคยตระหนักกันในเรื่องนี้" นางเตือนใจ ดีเทศน์ สมาชิกวุฒิสภา กล่าวในตอนท้ายของการสัมมนาเรื่อง "การคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมพื้นบ้านในสถานการณ์สากล" ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ

นางเตือนใจแสดงความเห็นว่า ควรเชื่อมส่วนต่างๆ ในชุมชน เช่น โรงเรียน วัด เพื่อให้ร่วมมือกันทำงาน สู่การวางแผนนโยบายการพัฒนา เนื่องจากทุกวันนี้การพัฒนาต่างๆ กำลังก่อปัญหาส่งผลให้ภูมิปัญญาหายไป เช่นโครงการใหญ่ๆ อย่างการสร้างเขื่อนสาละวิน ได้ละเลยชนกลุ่มน้อยและวิถีคนท้องถิ่น กรณีเขตเศรษฐกิจพิเศษเชียงแสน/เชียงของ, กรณีโครงการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงที่เชียงของ ซึ่งนางเตือนใจระบุว่าเป็นการพัฒนาที่ไม่เคยเข้าใจธรรมชาติ และรัฐไม่มีความคิดที่จะหวงแหนเอาไว้

ทั้งนี้ การต่อสู้ทางสังคมต้องทำให้ชุมชนท้องถิ่นตระหนักร่วมกัน แต่การพัฒนากระแสหลักกลับทำให้คนในท้องถิ่นไม่มีส่วนร่วมในการคิดหาทางออก ซึ่งแนวทางการพัฒนาที่เหมาะสมจำเป็นต้องเข้าใจธรรมชาติ

นางเตือนใจ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ตัวอย่างการที่รัฐออกพระราชบัญญัติเขตเศรษฐกิจพิเศษ เท่ากับว่ารัฐกำลังใช้พื้นที่ในการคุ้มครองภูมิปัญญาท้องถิ่นเสียเอง ซึ่งแท้จริงแล้วภูมิปัญญาท้องถิ่นควรได้รับการคุ้มครองในเชิงการเคารพเป็นอย่างมาก

ธิติกมล สุขเย็น