ตัวอย่างน่าสนใจเกี่ยวกับ "สิทธิผู้บริโภค" ในเยอรมนีที่จะเล่าสู่กันฟังนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อศาลปกครองเยอรมนีตัดสินให้บริษัท มอนซานโต เปิดเผยความผิดปกติของผลการทดลองข้าวโพดจีเอ็มโอตัวล่าสุด MON 863 ในหนูทดลอง ขณะที่มอนซานโตกำลังยื่นขออนุญาตให้ข้าวโพดดังกล่าวเข้าสู่ตลาดของสหภาพยุโรป (อียู)

ข้าวโพด MON863 นี้เป็นดาวรุ่งดวงใหม่ เพราะสามารถผลิตพิษเพื่อต้านทานหนอนเจาะรากข้าวโพดได้ ขณะที่ข้าวโพดบีทีอื่นๆ ซึ่งเป็นข้าวโพดจีเอ็มโอรุ่นก่อนหน้านี้ป้องกันได้เพียงหนอนเจาะลำต้น

เรื่องราวความไม่ชอบมาพากลถูกเปิดเผยโดยหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสฉบับหนึ่งเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ปีที่แล้ว ว่า องค์กรผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินความปลอดภัยในพืชจีเอ็มโอ (CGB/Commission du Genie Biomoleculaire) ตั้งข้อสงสัยในความปลอดภัยของข้าวโพดตัวใหม่ที่มอนซานโต้ส่งให้ทาง
อียูพิจารณา โดยผลการวิจัยเบื้องต้นนั้นสรุปว่ามีความเบี่ยงเบนที่สำคัญในหนูทดลอง

สิ่งที่พบคือ จำนวนเซลล์เม็ดเลือดขาวในหนูทดลองเพศผู้เพิ่มขึ้นกว่าปกติ แต่เซลล์เม็ดเลือดแดงในหนูเพศเมียกลับลดลง น้ำตาลในเลือดหนูเพศเมียก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งยังมีความผิดปกติที่ไตของหนูเพศผู้ พบการติดเชื้อและน้ำหนักลดลง

แม้ว่ากฎหมายของอียูจะกำหนดให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างเต็มที่ แต่มอนซานโตยังคงยืนกรานว่า เอกสารเกี่ยวกับการทดลองนั้นควรจัดอยู่ในเอกสารลับ เดือดร้อนให้กรีนพีซเยอรมนีต้องทำหนังสือร้องเรียนไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรของเยอรมนีซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับรายงานประเมินความเสี่ยง เพื่อให้มอนซานโต้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เมื่อวันนี้ 5 พ.ค.47

ต่อมาวันที่ 4 ส.ค.47 รัฐมนตรีให้คำตอบว่า มอนซานโต้ปฏิเสธที่จะให้มีการตีพิมพ์เอกสารเรื่องนี้ โดยอ้างว่าจัดอยู่ในเอกสารลับทางธุรกิจ (Confidential Business Information) อันเป็นข้ออ้างที่ทำให้ภาครัฐแตะต้องไม่ได้ แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนี้ของเยอรมนีก็ยังตัดสินใจฟ้องต่อศาลปกครอง

21 เม.ย. 48 มอนซานโต้อุทธรณ์การตัดสินใจรัฐบาลเยอรมนี และเมื่อ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ศาลก็ตัดสินไม่รับอุทธรณ์ เพราะเห็นว่าเป็นสิทธิของสังคมที่จะได้ข้อมูลอย่างโปร่งใส

ผู้บริโภคไทยอ่านแล้ว คงได้แต่อิจฉา !!!!