เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 14 ก.ย. ที่ผ่านมา นายลายอร์ค ซาลูม เลขาธิการของกองทัพประชาธิปไตยแนวใหม่คะฉิ่น หรือ NDAK [New Democratic Army Kachin] พร้อมด้วยผู้ช่วยอีกสองคนคือ นายมังกี  คองลูมและนายลายอร์ค ซอคอง ได้ร่วมกันนำทหารจำนวนหนึ่งบุกเข้าจับกุมภริยาและบุตรของนายสะคง ติงริง ผู้นำสูงสุดของ NDAK รวมทั้งจับปลดอาวุธทหารอารักขาไว้ทั้งหมด หลังจากนั้นได้นำตัวภริยาและบุตรของนายสะคง ติงริงไปกักขังไว้ในโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองปางหว้า  โชคดีในช่วงที่เกิดเหตุนายสะคง ติงริง อันเป็นผู้นำสูงสุด อยู่ระหว่างเดินทางเยือนกรุงย่างกุ้งจึงรอดพ้นจากการถูกจับกุม อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาทราบข่าวได้รีบเดินทางกลับเมืองมิจจินา อันเป็นเมืองหลวงของรัฐคะฉิ่นทันที

ส่วนสาเหตุของการก่อรัฐประหารยึดอำนาจภายในกลุ่มหยุดยิง NDAK ในครั้งนี้ ได้มีการคาดกันไว้สองประเด็นคือ อาจเป็นการขัดแย้งผลประโยชน์ภายในกลุ่มผู้นำระดับสูงหรือไม่ก็ถูกทหารพม่ายุแหย่ ซึ่งขณะนี้ทหารพม่าได้จัดกำลังสองกองพลเฝ้าจับตาอยู่อย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองในพม่าต่างวิตกถึงเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้อยู่เช่นเดียวกัน เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นลักษณะการยึดอำนาจของกลุ่มหยุดยิงป้องกันเมืองโก MDA [Mongkoe Defense Army] เมื่อปี 2543 ที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นกลุ่ม MDA ได้แตกแยกกันออกเป็นสองกลุ่มและต่างฝ่ายต่างร้องขอความช่วยเหลือจากกองทัพพม่าโดยอ้างว่าตนเป็นฝ่ายจงรักภักดีต่อกองทัพพม่า ซึ่งทางฝ่ายพม่าก็ได้สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายเปิดศึกเข้าใส่กันอย่างหนักจนอ่อนแรงไปตามๆ กัน สุดท้ายถูกทหารพม่าเข้าโอบล้อมจับปลดอาวุธไว้ทั้งหมด

ทั้งนี้ ในรัฐคะฉิ่นมีกลุ่มติดอาวุธซึ่งได้ทำสัญญาหยุดยิงกับกองทัพพม่าด้วยกันสองกลุ่มได้แก่ กองทัพอิสระคะฉิ่น KIA[Kachin Independence Army] นำโดยนายดูไจ่ และกองทัพประชาธิปไตยแนวใหม่คะฉิ่น NDAK ส่วนการก่อรัฐประหารของกลุ่ม NDAK ในครั้งนี้นับได้ว่าเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ในขณะที่กลุ่ม KIA เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งนับตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา

ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm. ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org