สำนักข่าวเกียวโดรายงานวันนี้(28 ก.ย.) โดยอ้างคำแถลงของ นาย
"เราเชื่อว่าการแถลงใดๆต่อสาธารณะเกี่ยวกับกรณีนี้จะทำให้สถานการณ์ยุ่งยากยิ่งขึ้นไปอีก" นาย เรด
มอนด์ ระบุ
ทั้งนี้ นายเรดมอนด์กล่าวว่า UNHCR กำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศ เพื่อคลี่ คลายสถานการณ์
"เรามั่นใจว่าทั้งรัฐบาลไทยและมาเลเซียจะร่วมมือกันเพื่อผลประโยชน์ที่ดีที่สุดสำหรับชาวไทยมุสลิมทั้ง 131 คน และการที่ทางการมาเลเซียให้ที่พักชั่วคราวตามหลักมนุษยธรรมอยู่แล้ว เราจึงไม่เห็นว่าจำเป็นจะต้องมีการคุ้มกันใดๆในเวลานี้"โฆษก UNHCR กล่าวสรุป
"แม้ว่ายูเอ็นเอชซีอาร์จะมีข้อมูลอยู่บ้าง แต่การที่ยังไม่ประกาศถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะไทยและมาเลเซียต้องการให้การแก้ปัญหาเป็นไปอย่างดีที่สุดและให้คนเหล่านั้นปลอดภัยที่สุด โดยเฉพาะผู้บริสุทธิ์จะให้การดูแลอย่างเต็มที่" นายกันตธีร์ ศุภมงคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงท่าทีของUNHCR และว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ไทยและมาเลเซียจะช่วยกันแก้ปัญหา อย่างเร็วที่สุดและให้เกิดความรอบคอบที่สุด
นาย
ทั้งนี้การนำบัตรประจำตัวอเนกประสงค์ (สมาร์ทการ์ด) มาใช้กับประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะสามารถช่วยเรื่องข้อมูลได้ เพราะจะสามารถตรวจสอบกับกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงมหาด ไทย เหมือนกับการใช้หนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-passport) และทางการไทยได้ประสานกับทางการมาเลเซียแล้ว ทั้งในระดับกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานความมั่นคง
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)