ภาพจาก : รอยเตอร์
ประชาไท - วันที่สองของการประชุมองค์การการค้าโลกระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ที่ฮ่องกง ประเทศกำลังพัฒนากลุ่มต่างๆ อาทิ G-20 (ประเทศกำลังพัฒนาที่ส่งออกสินค้าเกษตร นำโดย บราซิล, อินเดีย) G-33 (ประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการให้มีสินค้าที่ต้องการมาตรการปกป้องพิเศษเพื่อดูแลภาคเกษตรในประเทศ นำโดย ฟิลิปปินส์) และ G-90 (ประเทศพัฒนาน้อยที่สุด-LDC ในทวีปแอฟริกา แปซิฟิค และแคริบเบียน) รวมตัวกันเหนียวแน่นมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยไม่ยอมรับข้อเสนอของสหรัฐและสหภาพยุโรป
หลังจากที่มีข่าวว่า อินเดียกับบราซิล อาจถูกล็อบบี้ให้ยอมรับข้อตกลงเรื่องสินค้าที่ไม่ใช่เกษตร (NAMA) และการค้าบริการ (GATS) ตามข้อเสนอของสหรัฐและสหภาพยุโรปด้วยการแลกกับการสามารถส่งสินค้าออกไปได้มากขึ้น รัฐมนตรีการค้าของอินเดียและบราซิลได้ร่วมกันแถลงข่าวแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนและวิพากษ์วิจารณ์ข้อเสนอของสหรัฐและสหภาพยุโรปในประเด็นการลดการอุดหนุนการส่งออก ว่า เป็นการตัดส่วนที่เป็นน้ำไม่โดนเนื้อ (cut the water)
ไม่เพียงเท่านั้น ยังกดดันให้ประเทศกำลังพัฒนาลดภาษีสินค้าอุตสาหกรรมลงไปอีก 60-70% จนไม่แน่ใจว่า "สหรัฐและสหภาพยุโรปคำนวนตัวเลขเป็นหรือไม่ ทั้งๆ ที่การอุดหนุนภาคเกษตรเป็นปัจจัยที่บิดเบือนราคา ถ้าสองประเทศนี้ไม่ต้องการคุยประเด็นเกษตร นอกเหนือจากนี้ ก็ไม่ถือว่าเป็นการเจรจาการค้าเสรี" นอกจากนี้รัฐมนตรีการค้าของอินเดียยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หากการเจรจาครั้งนี้สามารถเดินได้มากกว่า 50% ก็ถือเป็นความสำเร็จแล้ว
ทั้งนี้ การเจรจา "ห้องเขียว" (green room) จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในเวลา 22.00 น.ของคืนนี้ (14 ธ.ค.) โดย G-20 จะเจรจาโดยตรงกับผู้แทนการค้าสหรัฐ ส่วนการเจรจาห้องเขียว เมื่อคืนนี้ (13) เป็นการหารือในส่วนของกระบวนการการเจรจา และจะเริ่มเจรจาในส่วนของเนื้อหานับตั้งแต่คืนนี้ อย่างไรก็ตาม เริ่มมีเสียงประท้วงจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด หรือ LDC ที่เสมือนถูกกีดกันออกจากการเจรจาด้วยกระบวนการที่ไม่เป็นทางการเช่นนี้
รายงานข่าวจากคณะเจรจาฝ่ายไทยเปิดเผยว่า ทีมเจรจาฝ่ายไทยก็ไม่ได้เข้าประชุม "ห้องเขียว" ที่มีการเจรจาสำคัญๆ ขณะเดียวกันนาย
ล่าสุดมีความพยายามของตัวแทนจากสมัชชาคนจนที่ได้รับเชิญให้มาร่วมกิจกรรมของสหพันธ์ชาวนาโลกที่จะติดต่อขอพบตัวแทนเจรจาฝ่ายไทยเพื่อรับทราบจุดยืนของประเทศไทยต่อการเจรจาครั้งนี้
สำหรับบรรยากาศนอกศูนย์ประชุมและนิทรรศการฮ่องกงวันนี้ เป็นการชุมนุมและเดินรณรงค์เพื่อคัดค้านข้อตกลงว่าด้วยการค้าบริการ (GATS) ซึ่งเปิดโอกาสให้บรรษัทข้ามชาติเข้ามาแย่งชิงทรัพยากรของประเทศต่างๆ ผ่านการแปรรูปบริการสาธารณะ เช่น น้ำ ไฟฟ้า พลังงาน การศึกษา การสาธารณสุข โดยผุ้ชุมนุมหลายร้อยคนได้เดินขบวนไปยื่นหนังสือตามสถานกงศุลต่างๆ อาทิ สหภาพยุโรป สหรัฐ ญี่ปุ่น อินเดีย บราซิล ฟิลิปปินส์ ฯลฯ เรียกร้องให้ตัดการค้าบริการออกจากการเจรจา WTO
วิคเตอร์ มินอติ จาก International Forum on Globalization กล่าวว่า แม้จะมีแนวโน้มว่า การเจรจาจะไม่คืบหน้า แต่ภาคประชาชนก็ควรพึงระวังในประเด็นการค้าบริการ เพราะก่อนการประชุมที่ฮ่องกง บรรษัทข้ามชาติจากประเทศพัฒนาแล้วได้รวมตัวกันเพื่อต้องการกดดันให้ประเทศต่างๆ เปิดเสรีการค้าบริการ ไม่ว่าประเทศนั้นๆ จะมีความพร้อมหรือไม่ก็ตาม มีชื่อกลุ่มเพราะๆ อาทิ Friends of Energy, Friends of Telecom, Friends of Finance โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐฯและบรรษัทขนาดใหญ่ที่หนุนหลังรัฐบาลของประธานาธิบดีบุช มุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะบีบบังคับให้แต่ละประเทศเปิดให้บรรษัทของสหรัฐฯเข้าไปครอบครองด้านพลังงาน ในนาม Friends of Energy ทั้งในส่วนของก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน โดยอ้างว่าเป็นยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งกระบวนการที่บรรษัทต่างชาติจะเข้ามาครอบครองพลังงานของประเทศต่างๆ นั้น จะผ่านการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เพราะส่วนใหญ่พลังงานจะอยู่ในความดูแลของรัฐ ดังนั้นโลกควรหาทางหยุดขบวนการเหล่านี้
นอกจากนี้ ประเด็นการเจรจาระดับทวิภาคีของประเทศต่างๆ ก็เป็นที่จับตาไม่แพ้การเจรจาพหุภาคีในองค์การการค้าโลก ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า หากการเจรจาใน WTO ไม่คืบหน้าจะยิ่งเร่งการเจรจาในเอฟทีเอซึ่งเนื้อหาข้อตกลงจะยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่า เพราะประเทศขนาดเล็กกว่ามักไม่มีอำนาจต่อรอง และสหรัฐยังใช้การเจรจาเอฟทีเอเพื่อผลักดันประเด็นที่ไม่สามารถเจรจาใน WTO ได้
ดร.
ทางด้าน ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ จากกลุ่มศึกษาปัญหายา ได้กล่าวในการสัมมนาเรื่อง FTA ส่วนเพิ่มของ WTO กล่าวว่า FTA และ WTO ไม่ต่างกัน คือ แย่ทั้งคู่ FTA แย่กว่า แต่ไม่ได้หมายความว่า โลกควรต้องยอมรับ WTO เพราะจริงๆ แล้ว ทุกประเทศและสังคมต่างมีทางเลือกการพัฒนา สำหรับสังคมไทย พระมหากษัตริย์ของไทยได้ทรงเน้นย้ำถึงแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งนั่นน่าจะเป็นทางออกของการพัฒนาที่ไม่ได้เน้นการค้าที่ไปทำลายทั้งผู้บริโภคและผู้ผลิตของประเทศอื่นๆ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)