โดยศูนย์ข่าวประชาสังคม จ.อุบลราชธานี
3 ก.พ. 2549 คณะผู้บริหารสถานีวิทยุชุมชนในหน่วยงานราชการกว่า 5 แห่ง ในจ. อุบลราชธานี โต้คณะกรรมาธิการการสื่อสารโทรคมนาคมสั่งปิดสถานีวิทยุชุมชนแบบไร้เหตุผล โดยอ้างว่าไม่มีใบอนุญาตพร้อมตั้งข้อหามีหรือครอบครองเครื่องมือเทคโนโลยีทางการสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาต
สืบเนื่องจากคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎรได้มีการประชุมเพื่อพิจารณากรณีหน่วยงานราชการได้ดำเนินการจัดตั้งสถานีวิทยุโดยไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากยังไม่มีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2548 นั้น คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วมีมติให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานไปยังหัวหน้าสถานีวิทยุชุมชนทั้ง 174 แห่งที่ตั้งอยู่ในสถานที่ราชการทั่วประเทศให้หยุดการออกอากาศไปก่อนจนกว่าจะมีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์แห่งชาติ (กสช.) และให้มีการตรวจสอบดำเนินคดีกับสถานีวิทยุชุมชนที่กระทำผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายใต้กรอบที่มีอยู่เกี่ยวกับวิทยุชุมชน วานนี้ (1 กุมภาพันธ์ 2549) วิทยุชุมชนในสถานที่ราชการจำนวน 5 แห่ง จึงได้เชิญทางสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 และ สภอ.เมืองอุบลราชธานีร่วมหารือต่อกรณีดังกล่าว ที่ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี
พ.ต.อ. เกษมศักดิ์ หะชะนี ผกก .สภ.อ .เมือง อุบลราชธานี กล่าวว่า ทาง สภ.อ.เมือง ได้รับหนังสือแจ้งจากคณะกรรมาธิการการสื่อสารและโทรคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร ถึงกรณีการสั่งให้ยุติการออกอากาศของสถานีวิทยุชุมชนที่ตั้งอยู่ในหน่วยงานราชการที่ไม่มีใบอนุญาต โดยทาง สภ.อ. เมือง ได้แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังประชาสัมพันธ์จังหวัดเพื่อให้มีการตรวจสอบ ซึ่งสถานีวิทยุชุมชนที่ตั้งอยู่ในหน่วยงานราชการและอยู่ในความรับผิดชอบของทาง สภ.อ. เมือง นั้นมีการออกอากาศในหน่วยงานราชการทั้งหมด 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ โรงเรียนกีฬาจังหวัดอุบลราชธานี สำนักงานสรรพสามิตอุบลฯ และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ซึ่งสถานีวิทยุดังกล่าวถือว่ายังไม่มีใบอนุญาตให้มีการออกอากาศอย่างถูกต้อง แต่หากผู้ดำเนินการสถานียื่นเรื่องเพื่อขอออกอากาศถือว่าอยู่ในกรอบของกฎหมาย
" ณ วันนี้ ผมคิดว่าหากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ดำเนินการสถานีวิทยุชุมชนที่ออกอากาศ ณ หน่วยงานราชการที่ยังมีการฝ่าฝืนหลังได้รับคำสั่งให้ยุติการออกอากาศแล้วนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถทำได้ตามคำสั่ง แต่หากมองในแง่ข้อกฎหมายแล้วยังไม่มีกฎหมายใดที่ชัดเจน และจะเอาผิดกับผู้ดำเนินการสถานีวิทยุชุมชนไม่ได้ หากมีการจัดระเบียบสถานวิทยุชุมชนจริงต้องไม่เลือกปฏิบัติ สถานีวิทยุชุมชนที่เป็นภาคเอกชนต้องถูกตรวจสอบด้วย ไม่ใช่มุ่งไปยังฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และหากสถานีวิทยุชุมชนใดมีการรายงานถึงการจัดตั้งสถานีไปยังต้นสังกัดแล้วแต่ทางต้นสังกัดไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ ถือว่าสถานีวิทยุชุมชนดังกล่าวไม่ได้มีความผิดอะไร อีกทั้งสถานีวิทยุชุมชนในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ต่างจัดตั้งขึ้นมาเพื่อให้ความรู้ข่าวสาร ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อสังคมส่วนรวมและยังมองไม่ออกว่าสถานีวิทยุชุมชนมีข้อเสียตรงใหน และกฎหมายไม่ได้ระบุชัดเจน"
นายเกษม บุญรมย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัตอุบลราชธานี ในฐานะผู้ดำเนินการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนในมหาวิทยาลัย กล่าว่า ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีได้รับหนังสือ 2 ฉบับ เกี่ยวกับการสั่งยุติการออกอากาศ ซึ่งสร้างความไม่เข้าใจให้กับทางมหาวิทยาลัยมาก อีกทั้งวิทยุชุมชนในสถานศึกษาถือเป็นการเสริมสร้างศักยภาพทางการศึกษา อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายให้สถานศึกษาเป็นหน่วยงานแห่งสังคมการเรียนรู้ ซึ่งปัจจุบันถึอว่าสถานศึกษาได้ทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ ขณะเดียวกันภาครัฐเองได้สั่งยุติเพื่อไม่ให้มีการออกอากาศซึ่งเป็นการสั่งการที่ขัดต่อนโยบายที่จัดตั้งสถานีวิทยุชุมชน รวมทั้งสถานีวิทยุชุมชนเป็นสถานีที่ไม่ได้แสวงหาผลกำไรทางธุรกิจ ไม่มีการโฆษณา และไม่มีรายได้ ทำหน้าที่ในการเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์สาระต่อสังคม หากมีการยุติการออกอากาศจริงสถานีวิทยุจะถูกครอบงำจากภาคเอกชนในการแสวงหาผลกำไรทางธุรกิจมากกว่าที่จะให้ข่าวสารสาระที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ซึ่งในส่วนของมหาวิทยาลัยมีการเปิดโอกาสให้แก่นักศึกษาและหน่วยงานต่าง ๆ ในการมาใช้สื่อวิทยุเป็นช่องทางนำข่าวสารออกสู่สังคมมาโดยตลอด และยืนยันว่าจะยังดำเนินการเปิดสถานีวิทยุชุมชนในมหาวิทยาลัยต่อไป
นายพงศักดิ์ อินทรทัต ผู้อำนวยการส่วนข่าวและรายการภูมิภาค สำนักงานประชาสัมพันธ์เขต 2 อุบลราชธานี กล่าวว่า ผู้ดำเนินการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนในหน่วยงานราชการต้องได้รับใบอนุญาตเพื่อดำเนินการออกอากาศ หากไม่มีใบอนุญาตถือว่าเป็นสถานีวิทยุเถื่อน โดยทางกฎหมายถือว่ามีการครอบครองเครื่องมือเทคโนโลยีสื่อสารโดยไม่ได้รับอนุญาตและขอให้ยุติการออกอากาศ จนกว่าจะมีคำสั่งจากอย่างเป็นทางการจาก กสช. ที่ผ่านมาทางสำนักประชาสัมพันธ์เองได้รับเรื่องราวการร้องเรียนเกี่ยวกันสถานีวิทยุชุมชนอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งการจัดตั้งเป็นสถานีวิทยุชุมชนเพื่อแสวงหากำไรทางธุรกิจ และการจัดตั้งสถานีวิทยุชุมชนโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งทางสำนักประชาสัมพันธ์กำลังทำการตรวจสอบ ขอแนะนำให้สถานที่ราชการที่ต้องการใช้คลื่นไปใช้วิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย หากยังฝืนที่จะดำเนินการต่อ อยากให้ไปใช้สถานที่ที่เป็นของภาคเอกชนแทนเพื่อไม่ให้มีปัญหา ภาคราชการควรทำอะไรให้ถูกต้องเป็นตัวอย่างของผู้อื่น ยืนยันว่าการจัดตั้งวิทยุชุมชนในสถานที่ราชการไม่สามารถทำได้ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์มีอำนาจสั่งปิดวิทยุเพราะเป็นหน้าที่โดยตรง
การประชุมในครั้งนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนโดยทางสถานีวิทยุชุมชนที่เข้าร่วมทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ วิทยุชุมชน ม.อุบลฯ, วิทยุชุมชน สนง.สรรพสานมิตร, จุดปฏิบัติการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ม.ราชภัฏอุบลราชธานี, จุดปฏิบัติการเรียนรู้วิทยุประชาสังคมจังหวัดอุบลราชธานี,และวิทยุชุมชนโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ยืนยันที่จะดำเนินการออกอากาศต่อไป ตามมติครม.ที่ 16 สิงหาคม 2548 และกรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)