โชคชัย สุทธาเวศ นักวิชาการแรงงาน กล่าวว่า ประชาธิปไตยของไทยยังไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด แต่เป็นไปตามระบบทุนนิยมเสรี โดยขาดอุดมการณ์ทางการเมืองที่แท้จริง การกำหนดนโยบายเอื้อให้กลุ่มนายทุนเจ้าของกิจการโรงงานที่สนับสนุน

ทั้งนี้ ผู้ใช้แรงงานถือเป็นฐานเสียงที่สำคัญ เพราะมีถึง 30 ล้านคนทั่วประเทศ จำเป็นต้องสร้างพรรคแรงงานให้เป็นพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง เพื่อเป็นพรรคทางเลือกที่สามให้กับสังคม โดยระดมความเห็นจากทุกผู้นำองค์กรแรงงานทั่วประเทศ หากสามารถร่วมกลุ่มกันได้อย่างเข้มแข็ง ก็อาจจะได้เห็นพรรคแรงงานลงแข่งขันเลือกตั้งในปีหน้าหลังการปฏิรูปรัฐธรรมนูญแล้ว

ศิริชัย ไม้งาม เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ แสดงความเห็นว่า กระบวนการแรงงานอยู่กับการเมืองมาตลอด ไม่ว่าจะในเหตุกาณ์ 14 ตุลา 6 ตุลา หรือในพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดังนั้น การมีพรรคการเมืองน่าจะเป็นตัวแทนของกลุ่มได้

ันธมิตรประชานชงคำถามวาร เปัจจุบันคนที่จะสมัครสมาชิกพรรคไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิก ไม่เหมือนกับพรรคที่มีฐานมาจากสหภาพ อย่างในเกาหลี ทุกคนต้องจ่ายค่าสมาชิก ซึ่งทำให้มีความเป็นเจ้าของ มีสิทธิกำหนดนโยบาย จัดสรร เรียกร้อง ออกมาตรการควบคุม ถ้าสมาชิกมีมติจะเคลื่อนไหวอย่างไร ส.ส.ในพรรคก็ต้องมาร่วม จึงเสนอว่า ถ้าจะตั้งพรรคก็ควรจัดตั้งขึ้นภายใต้ฐานของสหภาพเพื่อให้สมาชิกเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง

"เสนอว่า ถ้าตั้งพรรคแรงงานเพียวๆ คนคงไม่ยอมรับ ดังนั้น ต้องร่วมกับองค์กรพัฒนาเอกชน เกษตรกรด้วย โดยเสนอนโยบายรัฐสวัสดิการ ที่มุ่งให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น"

วิทยากร เชียงกูล คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า แม้ดูเหมือนว่าทุนนิยมชนะแล้วในกระแสโลกทุกวันนี้ แต่จะเห็นว่ามีปัญหาอยู่เยอะ ลองดูละตินอเมริกาเป็นตัวอย่าง ทำไมพรรคฝ่ายซ้ายถึงกลับมาชนะได้ในการเลือกตั้ง นั่นเพราะทุนนิยมสร้างความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้น ดังนั้น ความเป็นไปได้ในการตั้งพรรคจึงมีอยู่ แล้วแต่ว่าใครจะสันทัดด้านไหน ในไทยเองจะเห็นว่า เขตเมืองคนโนโหวตกันมากขึ้น และไม่ได้เลือกพรรคที่มีอยู่ ถ้ามีพรรคใหม่ก็อาจจะเลือก