Skip to main content
sharethis

 



 


ในการพูดจา "ภาษาดอกไม้" ตามธรรมเนียมของซีกโลกตะวันตก ดอกแดฟโฟดิล (Daffodil) ถูกจัดให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเข้มแข็ง อดทน รวมไปถึงการเกิด และการเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ


 


ที่เป็นอย่างนั้นเพราะดอกแดฟโฟดิลจะเบ่งบานขึ้นมาทันทีที่กาลเวลาหมุนเวียนมาถึงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากที่ดอกไม้ต้นไม้ทั้งหลายพากันสลัดใบทิ้งจนเหลือเพียงลำต้นสีน้ำตาลในฤดูหนาวอันแสนจะเยือกเย็น


 


แดฟโฟดิลเป็นพืชตระกูล Narcissus เช่นเดียวกับทิวลิป จึงทนต่ออากาศอันหนาวเย็นได้ดี มันจะรออย่างสงบนิ่งใต้ผิวดิน เมื่อฤดูแห่งความแห้งแล้งและเหน็บหนาวผ่านพ้นไป แดฟโฟดิลจะตื่นจากความหลับใหลและแทงยอดออกมาเพื่อผลิใบ จากนั้นดอกไม้สีสันสดใสก็จะเบ่งบานตามมาในเวลาไม่นาน


 


เมื่อพูดถึงดอกแดฟโฟดิลขึ้นมาครั้งใด สิ่งที่ชาวตะวันตกส่วนใหญ่นึกถึงก็คือการเริ่มต้นฤดูใบไม้ผลินั่นเอง และความหมายอีกนัยยะหนึ่งของฤดูใบไม้ผลิก็คือการเริ่มต้นชีวิตใหม่อันสดใสและอบอุ่น


 


ตลอดเดือนกันยายนนี้ อาสาสมัครในโครงการ The Daffodils Project ของเทศบาลนิวยอร์ก จึงตั้งใจจะปลูกแดฟโฟดิล 2 ล้านต้นตามพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะหรือสวนหน้าบ้านใครสักคน รวมไปถึงผืนดินที่รกร้างในมหานครนิวยอร์กด้วย เพื่อที่ฤดูใบไม้ผลิปีหน้าจะได้มี "ดอกไม้แห่งชีวิต" ก่อกำเนิดขึ้นมาใหม่ และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ตกอยู่ในความสิ้นหวังทั้งหลาย


 


โครงการปลูกแดฟโฟดิลเกิดขึ้นโดยอาศัยแรงบันดาลใจจากการกระทำของชายชราผู้เป็นอดีตคนสวนชื่อว่า เจ.เอ. เรย์โนลด์ ซึ่งปลูกดอกแดฟโฟดิลในสวนสาธารณะไร้ชื่อในเขต Isham ซึ่งเป็นสถานที่ที่ บรูซ เรย์โนลด์ ลูกชายของเขาเคยมาวิ่งเล่นสมัยยังเด็ก และเมื่อลูกชายของเขาเติบโตจนกลายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สวนแห่งนี้ยังคงเป็นเพื้นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจของลูกชายและครอบครัวของเขาอยู่เช่นเดิม


 


จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์วินาศกรรม 9/11 เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2544 ที่กองกำลังก่อการร้ายบุกจี้เครื่องบินและพาเครื่องพุ่งเข้าชนอาคารเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์จนล่มสลายภายในพริบตา…


 


ชาวอเมริกันจำนวนมากสูญเสียครอบครัว ญาติมิตร และคนรัก เช่นเดียวกับที่เจ.เอ.เรย์โนลด์ต้องสูญเสียลูกชายสุดที่รักอย่างบรูซไปโดยไม่มีวันกลับ


 


เจ.เอ.เริ่มต้นปลูกแดฟโฟดิลในสวนสาธารณะแห่งนั้น เพื่อระลึกถึงบรูซและเพื่อนบ้านอีก 17 ชีวิตที่จากไปพร้อมกับเหตุการณ์วินาศกรรมดังกล่าว


 


จากแดฟโฟดิลไม่กี่สิบต้น...เจ.เอ.และภรรยาต่างช่วยกันปลูกแดฟโฟดิลในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต็มสวนสาธารณะ


 


เมื่อฤดูใบไม้ผลิมาเยือนในอีกปีหนึ่งข้างหน้า เจ.เอ.และภรรยาก็จะมีสวนดอกแดฟโฟดิลไว้คอยเตือนใจให้ระลึกถึงลูกชาย


 


และในเวลาเดียวกัน เขาก็จะมีแรงบันดาลใจให้ต่อสู้และรับมือกับความสูญเสียต่อไปได้…


 


 


 


แนวคิดเรื่องแดฟโฟดิลของเจ.เอ.เป็นที่สนใจของคนในละแวกเดียวกัน จนกระทั่งเรื่องของเขาถูกเล่าแบบปากต่อปาก และในที่สุดเทศบาลนิวยอร์กซิตีก็นำเอาแนวคิดของเอ.เจ.ไปขยายอีกต่อหนึ่ง


 


โครงการปลูกดอกแดฟโฟดิลทั่วเมืองนิวยอร์ก เริ่มต้นขึ้นหลังจากที่บรูซ เรย์โนลด์เสียชีวิตไปได้ 1 ปี และเจ.เอ.ยังคงปลูกดอกแดฟโฟดิลเพิ่มในสวนใกล้บ้าน จนเทศบาลเมืองนิวยอร์กต้องตั้งชื่อสวนนั้นอย่างเป็นทางการว่า "สวนของบรูซ" เพื่อเป็นเกียรติแก่บรูซผู้ล่วงลับ และเป็นเกียรติให้กับความมุ่งมั่นของเจ.เอ.ด้วย


 


......


 


จนถึงวันนี้ เวลาผ่านไปจนจะครบรอบ 5 ปีของเหตุการณ์ 9/11 สิ่งที่เป็นเรื่องสะเทือนขวัญคนทั้งโลก แต่ความโกรธเกลียดหรือเจ็บปวดยังคงหลงเหลืออยู่ในสังคมอเมริกาอย่างเต็มเปี่ยม


 


และอาจเป็นเพราะความเหน็บหนาวในใจผู้สูญเสียในเมืองนิวยอร์กยังไม่ได้รับการเยียวยาก็เป็นได้...จึงมีอาสาสมัครจำนวนมากเข้าร่วมโครงการปลูกแดฟโฟดิลกับทางเทศบาลนิวยอร์ก


 


แต่จุดประสงค์ดั้งเดิมในการปลูกดอกไม้ของเจ.เอ. เรย์โนลด์ ไม่ได้เป็นไปเพื่อจะตำหนิหรือกล่าวโทษใคร เพราะเขาต้องการเพียงมีชีวิตต่อไป และเริ่มต้นคืนวันใหม่ๆ โดยไม่จมอยู่กับความหนาวเย็นของชีวิตที่ต้องสูญเสียลูกชายอันเป็นที่รัก


 


อันที่จริงแล้ว ชาวนิวยอร์กยังมีทางเลือกอื่นๆ ในการจดจำเหตุการณ์วินาศกรรมตึกเวิลด์เทรดอีกมาก หากสิ่งที่ชาวนิวยอร์กเลือกมาใช้เป็นเครื่องเตือนใจก็คงจะแตกต่างกันออกไปตามมุมมองของแต่ละคน


 


ใครบางคนอาจเลือกจดจำเหตุการณ์เมื่อห้าปีก่อนจากกราวด์ซีโร่ ซึ่งเป็นเพียงเศษซากปรักหักพังของต็กที่เคยเป็นสัญลักษณ์แห่งทุนนิยม และความกราดเกรี้ยวที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการทำลายสัญลักษณ์สำคัญของนิวยอร์กก็คงจะยังคุกรุ่นอยู่ในใจพวกเขาเหล่านั้นไปอีกนาน


 


ในขณะที่เจ.เอ.และอาสาสมัครอีกมากเลือกที่จะนำความสูญเสียที่ได้พบเจอกับตัวเองไปใช้ในการทบทวนรากเหง้าแห่งปัญหาที่แท้จริง เพื่อที่จะก้าวข้ามให้พ้นจากอดีตอันเจ็บปวด และเริ่มต้นชีวิตใหม่


 


สิ่งที่ประชาชนอเมริกันต้องหาทางตระหนักรู้ให้ได้จึงไม่ใช่เพียงการตามล่าหาตัวการผู้ก่อวินาศกรรมเพื่อนำมาลงโทษให้สาสมเพียงอย่างเดียว แต่ควรจะเรียนรู้จากปัญหาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า...ผืนดินชนิดไหนที่บ่มเพาะความเกลียดชังอเมริกาให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปะทุออกมาเป็นการก่อการร้ายแบบตาต่อตาอย่างที่เป็น…


 


.............................................................


ข้อมูลและภาพประกอบจาก:


http://www.ny4p.org/index.php?option=com_content&task=view&id=35&Itemid=60


http://www.itsmypark.org/daffodil_project.html

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net