ดร.ปรีชา สุวรรณทัต อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ และรองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ส.ส.กทม. 3 สมัย ได้ให้สัมภาษณ์กับ นสพ.ลานนาโพสต์ จ.ลำปาง ในโอกาสที่มาร่วมงานฉลองบัณฑิต "นิติศาสตร์"รุ่นแรกของศูนย์ลำปาง ปัจจุบัน

มุมมองสถานการณ์การเมืองไทยในปัจจุบัน

ภาพรวมของการเมืองไทยในวันนี้ด้วยความเห็นส่วนตัว และความเห็นของอีกหลายคนว่า "น่าเป็นห่วง" เนื่องจากการเอาเรื่องการเมืองมาเป็นเรื่องขัดแย้ง และที่สำคัญเอามาเป็นปรปักษ์ต่อกัน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยในประวัติระบบการเมืองไทย แม้ในสมัยเผด็จการก็ยังไม่เกิดความขัดแย้ง เป็นฝักเป็นฝ่ายเป็นปรปักษ์ต่อกัน ระหว่างสองฝ่ายเหมือนเฉกเช่นปัจจุบันนี้ นี่คือสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง หากไม่ได้รับการแก้ไข สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันจะเกิดเหตุเลวร้ายยิ่งในอนาคตอันใกล้นี้"

ดร.ปรีชา กล่าวถึงสาเหตุที่เกิดขึ้นว่า เนื่องมาจากปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่น ครอบงำประชาชน ครอบงำข้าราชการประจำ ด้วยอำนาจที่สำคัญที่สุดคือ "อำนาจเงิน" ในทางการเมืองที่มากเกินกว่าเหตุ เอาตัวเงินมาเป็นปัจจัยครอบงำในความถูกต้อง ครอบงำความเป็นธรรม สิ่งนี้อันตราย ซึ่งเงินจำเป็นต้องใช้ แต่ต้องใช้ในขอบเขตที่จำเป็น ตอนนี้มีการใช้เงินมาครอบงำทั้งหมด"

ดร.ปรีชา กล่าวว่า "ระบบการเมืองไทยคือหัวใจของการเมืองและประชาธิปไตย แต่พรรคการเมืองไทยก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเอาเงินมาเป็นปัจจัยสำคัญ การครอบงำด้วยเงินบอกด้วยอำนาจอิทธิพล ปัญหาที่ตามมาก็คือ ต้องการแสวงหาทุน หรือ กลุ่มนายทุน หากหาทุนโดยมิชอบไม่ว่าพรรคการเมืองไหนก็เอาตัวเงินมาเป็นปัจจัยสำคัญในการส่ง ส.ส. ลงเลือกตั้ง ส.ส.ระบบเขตหรือบัญชีรายชื่อหนีไม่พ้นการใช้เงิน และใช้เกินกว่าเหตุ นี่คือ อันตรายและน่าห่วงมาก

มองถึงบทบาทของนักวิชาการอิสระ และคณาจารย์มหาวิทยาลัยในการแก้ไขวิกฤติการเมืองไทยขณะนี้อย่างไรบ้าง

"การให้ความรู้แก่ประชาชน ประชาชนส่วนใหญ่ในชนบทได้รับข้อมูลข่าวสารน้อย การสื่อน้อย ทั้งในทางวิทยุโทรทัศน์ และตามหน้าหนังสือพิมพ์ก็แล้วแต่ อาจจะได้รับข่าวสารเพียงด้านเดียว คือส่วนใหญ่หรือจากฝ่ายรัฐบาลเพียงด้านเดียว นีคือข้อจำกัดของประชาชน และเป็นข้อเสียของระบบประชาธิปไตย ดังนั้นการศึกษาแก่เยาวชนคนรุ่นใหม่ และการให้ความรู้ความเข้าใจ และจิตสำนึกที่ดีในการเมืองระบบพรรคหรือระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน จึงเป็นบทบาทของทุกภาคส่วนในการสร้างกลไกการเมืองใสสะอาดสู่ประชาสังคมอย่างจริงจังต่อเนื่อง" พรรคการเมืองไทยที่ดีมีคุณภาพควรทำหน้าที่อย่างไร

ดร.ปรีชา มีมุมมองว่า"พรรคการเมืองที่ดีต้องให้ความจริงกับประชาชน อย่าให้ข้อมูลที่ผิด อย่าใช้อำนาจที่ผิด อย่าใช้เงินมากจนเกินขอบเขต โดยเฉพาะนโยบาย "ประชานิยม" ซึ่งนโยบาย ประชานิยม ของพรรคการเมืองมีความจำเป็นแต่ความจำเป็นภาพรวมไม่ใช่ทำเจาะจงเฉพาะจังหวัดนั้นภาคนั้นวันนี้ เป็นการแบ่งแยกประชาชนไปในตัว วันหนึ่งข้างหน้าจะเกิดอันตราย ซึ่งความจริงในวันนี้ก็เกิดอันตรายแล้ว ประชานิยมต้องให้ประชาชนสามารถพัฒนาตนเองได้ ไม่ใช่อยู่ได้แค่ปัจจัยตอบแทนเพียงชั่วครั้งชั่วคราว หลังจากหมดแรงแล้วเขาจะไปพึ่งใคร ต้องให้เขาเลี้ยงตัวเองได้ในอนาคต"

ขอความเห็นเกี่ยวกับหลักคิดการได้นักการเมืองและผู้นำประเทศที่ดี

"นักการเมืองที่ดี ต้องมาจาก 2 ปัจจัย คือ ในพรรคการเมืองนั้นมีการคัดสรรกลั่นกรองผู้มาเป็นนักการเมืองอย่างไร ซึ่งประชาชนได้รับรู้และเข้าใจข่าวสารข้อมูลจากพรรคการเมืองตลอดเวลา และประการสำคัญ เมื่อพรรคการเมืองเสนอนักการเมืองลงไปรับใช้ประชาชน เป็นหน้าที่ของประชาชนต้องติดตามที่เราเรียกกันว่า "ประวัติสะสม" แต่ที่ผ่านมาเรามองผิวเผินเฉพาะช่วงการเลือกตั้ง เราต้องมองย้อนในอดีตทั้งผลงาน คุณภาพชีวิต เกียรติประวัติ และความดีงามที่นักการเมืองนั้นได้สร้างสมไว้ว่าเป็นอย่างไร ไม่ใช่มองที่ผลตอบแทน หรือสิ่งล่อใจหรือตามกระแสสังคม เราก็จะได้นักการเมืองที่ไม่ดี และผู้นำไม่ดีตามมา ประชาชนต้องวินิจฉัยด้วยตนเอง ต้องติดตามประวัติอย่างต่อเนื่อง อย่าหวังผลตอบแทนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ"

"เพราะการตัดสินการเลือกตั้งไม่เพียงกี่นาที เมื่อเลิกหรือจบไปแล้วไม่สามารถจะแก้ไขอะไรได้จนกว่าจะครบวาระ 4 ปี ถ้าเราตัดสินผิดไปจะเกิดผลเสียหายแก่ประเทศชาติ และประชาชนมหาศาลประมาณค่าไม่ได้" ผู้นำการเมืองและนายที่รัฐมนตรีไทยคนใหม่ควรทำ อะไรที่จะแก้ไขวิกฤติชาติ"

"นอกเหนือจากผู้นำที่มีความรู้ความสามารถแล้ว เป็นที่ยอมรับของประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศและต่างประเทศแล้ว ผู้นำคนนั้นต้องทำประโยชน์เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าพูดตามภาษาพระคือผู้นำ ไม่โลภมาก ไม่มีความโลภ ที่ท่านพุทธทาสให้ไว้คือไม่ใช่ประชาชนเป็นใหญ่ แต่ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ นี่คือระบอบประชาธิปไตยตามความหมายของหลวงพ่อพุทธทาส เป็นคติธรรมที่ดีมาก เรามักจะเข้าใจว่า อำนาจเป็นใหญ่ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด นายกที่ดีต้องเป็นดังที่กล่าวมาคือ ประชาชนเป็นใหญ่

ส่วนประเด็นที่ต้องรีบแก้ไขของสังคมไทยคือเรื่องใด

ดร.ปรีชา กล่าวว่า วินัย ความเห็นแก่ตัวต้องไม่มี เราขณะนี้ขาดวินัย และจิตสำนึก มีการยึดมั่นถือมั่น เห็นแก่ตัว วันนี้ปัญหาสำคัญคือ ความแตกแยก ไม่มีครั้งใดเลยที่ประชาชนในประเทศจะมีความแตกแยกกันเท่าปัจจุบัน เกิดความแตกต่างทางความคิด ไม่น่าเป็นอะไร แค่ขณะนี้เกิดความแตกแยกเป็นปรปักษ์ต่อกันคล้ายจะต้องห้ำหั่นฆ่าซึ่งกันและกัน อีกกลุ่มบอกว่า "นายกฯสู้ๆ" แต่อีกกลุ่ม "นายกฯ ออกไป"

"คนไทยสมัยเผด็จการ เราก็สู้กับเผด็จการ แต่ประชาชนไม่มีการแบ่งแยกกันเหมือนเท่าปัจจุบัน ไม่ใช่แตกต่างทางความคิดนะ ระบอบประชาธิปไตยจำเป็นต้องมีพัฒนาด้วยซ้ำไป แต่สถานการณ์การเมืองไทยวันนี้เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน อาจถึงจุดแตกหักนองเลือดกันวันนี้ได้ในอนาคตนี่คือ อันตรายและน่าห่วงใยมากๆ"

ทิศทางแก้ไขวิกฤติ "การเมืองและเศรษฐกิจไทย" "คงไม่มีพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยแก้ไขโรคเรื้อรังนี้ได้ เป็นเรื่องของทุกฝ่ายทุกภาคส่วน ที่ต้องเขามาร่วมด้วยช่วยกัน พวกเราต้องมายอมรับความจริงว่า ปัญหาและสาเหตุที่แท้จริงมาจากเรื่องใด หากเรายอมรับความจริงได้ เราก็มาลดในสิ่งที่ทำให้เกิดความขัดแย้งนี้ลบหายไป ความสมานฉันท์ ก็จะเกิดขึ้นได้ แต่หากมีการปะทะห่ำหั่นกันเหมือนดังปัจจุบัน สิ่งนี้น่ากลัว แม้จะมีการเลือกต้งจะเมื่อไรก็แล้วแต่ 15 ตุลาคม หรือหลังเดือนตุลาคม 2549 แต่ปัญหานี้หากไม่ได้รับการสะสาง สถานการณ์การเมืองไทยสงบสุขก็อยู่ได้ไม่นานและจะมีความขัดแย้ง เกิดขึ้นอีกอาจหนักกว่าเดิมเสียอีก"

มองจุดอ่อนจุดแข็งนโยบายทักษิณอย่างไร?

"มีทั้งจุดอ่อนและจุดแข็ง จุดแข็งคือ ทันอกทันใจ การตัดสินใจได้รวดเร็ว แต่ในหลายๆ เรื่องก็เป็นอันตราย ที่ยืนยันได้คือการใช้ทรัพยากรของประเทศในทางที่ผิด คือ เรื่องเงินแผ่นดิน เงินภาษีอากรของประชาชน ไปทำโครงการประชานิยมหลายอย่างซึ่งเป็นการกระทบกับทรัพย์สินของแผ่นดิน การใช้เงินนอกงบประมาณเงินจากกองสลาก เงินจากรัฐวิสาหกิจ ที่นอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายปกติ กระทบฐานะการคลังของประเทศ ทั้งนี้ประชาชนอาจจะไม่ทราบ มองแล้วมันเป็นสิ่งที่ได้มาแต่เป็นอันตรายต่อฐานะในภาพรวม อันตรายต่อไปในอนาคต รัฐบาลใหม่จะได้รับผลกระทบต้องมาสะสางปัญหานี้ จะยกเลิกก็ไม่ได้แน่นอน ประชาชนต้องได้รับผลกระทบ สะสางต่อก็หนักใจและนี่คืออันตราย

ดร.ปรีชา กล่าวทิ้งท้ายว่า ในการเลือกตั้ง ส.ส.และรัฐบาลเร็วๆ นี้ ขอฝากให้ประชาชนได้ศึกษาติดตาม ประวัติสะสม ของทุกพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนในเขตเลือกตั้ง ที่อาสาตัวมาลง ส.ส.เขต ต้องคัดเลือกบุคคลที่เป็นคนดีและเราไว้ใจได้จริงๆ อย่าไปมองเพียงนโยบายเพียงผิวเผินไม่ว่าพรรคอะไร เราก็จะได้ ส.ส.คนดี และ นายกฯ ทั้งเก่งกล้าและมีความชอบธรรมถูกต้องจากกระบวนการจัดการเลือกตั้ง บริสุทธิ์และเที่ยงธรรม

"วันนี้อนาคตสังคมไทย คนไทยต้องการ "การเมืองไทยใสสะอาด"

ที่มา : นสพ.ลานนาโพสต์