Skip to main content
sharethis

สำนักข่าวเบอร์นามาของมาเลเซียรายงานว่า มีชาวไทยมุสลิมทางภาคใต้ของไทยจำนวน 20 คน หลบหนีเข้าไปยังพรมแดนมาเลเซียอย่างผิดกฎหมาย เพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองและขอความคุ้มครอง โดยอ้างว่าได้รับแรงกดดันจากกองทัพไทย


 


สำนักข่าวเบอร์นามาระบุว่า กลุ่มชาวมุสลิมทั้ง 20 คน ซึ่งแอบหนีเข้าไปยังมาเลเซียอย่างผิดกฎหมายเมื่อคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2549 ประกอบไปด้วยชาย 9 คน และหญิง 11 คน จาก 5 ครอบครัวใน จ.นราธิวาส มีอายุตั้งแต่วัย 2 ขวบ ถึง 55 ปี


 


ตัวแทนของกลุ่มคนหนึ่งซึ่งปฏิเสธที่จะระบุชื่อ อ้างว่า พวกเขาถูกคุกคามจากทางกองทัพไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมีทหารเข้ามาในบ้านของพวกเขาตอนกลางคืน พร้อมกับจับกุมใครก็ตามที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นกลุ่มก่อการร้าย


 


"การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการทรมานชาวบ้านซึ่งเคยมีความหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากมีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่เมื่อเร็วๆ นี้" เขาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเบอร์นามา


 


เขายังระบุด้วยว่า ชาวบ้านเคยคาดหวังว่า สถานการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงคณะรัฐบาล แต่สถานการณ์กลับย่ำแย่ลงไปไกลกว่าเดิม และว่าเป็นเวลา 1 เดือนมาแล้วที่ทางทหารเข้ามาในหมู่บ้านของพวกเขา เพื่อควานหาตัวผู้ต้องสงสัยในช่วงกลางคืนตลอดเวลา


 


"พวกเขาบุกรุกเข้ามายังบ้านของพวกเราและจับใครก็ตามที่พวกเขาสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายโดยไม่มีการตรวจสอบ พวกเขาได้นำตัวสมาชิกหลายคนในครอบครัวของผมไป และเราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน" ชายไทยมุสลิมคนหนึ่งซึ่งหลบหนีเข้ามาในมาเลเซียพร้อมกับภรรยาและลูกๆ อีก 3 คนกล่าว


 


นอกจากนี้ เขายังอ้างด้วยว่า กองทัพไทยภายใต้การนำของรัฐบาลชุดใหม่มีความก้าวร้าวมากขึ้น


 


"ตามที่ผมรับรู้ พวกเขาจับชาวบ้านที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายไป 9 คน ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงทั้งหมดเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดาที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลใดๆ เลย" เขากล่าว


 


เขายังเปิดเผยด้วยว่า 2 ใน 9 คน ได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมาขณะที่อีก 7 คน ยังคงอยู่ในการควบคุมของกองทัพ


 


สำนักข่าวเบอร์นามายังรายงานด้วยว่า ชาวมุสลิมคนดังกล่าวระบุว่า การที่เขาตัดสินใจออกจากหมู่บ้านและหลบหนีเข้ามายังมาเลเซียก็เพื่อความปลอดภัยและเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของครอบครัวเขา


 


ขณะที่หญิงวัย 47 ปี คนหนึ่งในกลุ่มผู้ลี้ภัยซึ่งรู้จักในนาม "ญะห์" เผยว่า สามีของเธอถูกกองทัพไทยจับไปประมาณเดือนที่แล้ว และเธอก็ไม่เคยได้ยินข่าวคราวเกี่ยวกับตัวเขาอีกเลย


 


"ตั้งแต่นั้นมา ครอบครัวของฉันต้องหลับภายใต้บ้านที่เต็มไปด้วยเงามืดแห่งความกลัวว่าทหารอาจจะกลับมาอีกครั้ง" เธอกล่าว


 


เธอบอกด้วยว่า เธอตัดสินใจพาลูกอีก 2 คน ออกจากบ้านเนื่องจากความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นในหมู่บ้าน


 


 


..................................................................................


คัดลอกจาก : ผู้จัดการออนไลน์ 15 ธันวาคม 2549

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net