Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวประชาสังคมอุบลราชธานี


 


 


 


สืบเนื่องเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2550 เวลา 09.00 . กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือและรายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี ก่อนที่จะไปยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่โรงแรมเนวาด้าแกรนด์ กรณีที่เทศบาลนครอุบลราชธานี กำลังดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลช่วงตลาดใหญ่ถึงสะพานข้ามแม่น้ำมูลท้ายหาดวัดใต้ ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร


 


กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล กล่าวว่า ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้ทำการปรับพื้นที่เพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการดังกล่าวโดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อแหล่งชุมชนบ้านพักอาศัย ซึ่งแหล่งชุมชนที่ได้รับผลกระทบเดือนร้อนมากที่สุด คือ ชุมชนวัดหลวง ชุมชนวัดกลาง และชุมชนวัดใต้ เมื่อดูจากผังโครงการแล้วประชาชนที่อยู่ในชุมชนวัดหลวงจำนวน 13 หลังเรือนต้องถูกรื้อบ้านเพื่อจะทำเป็นถนนและ อีก 59 หลังคาเรือนที่บ้านต่ำกว่าระดับถนน ซึ่งทำให้สภาพอากาศไม่มีการถ่ายเท เกิดน้ำขัง


 


จากปัญหาดังกล่าว กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล จึงได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเพื่อให้ทบทวนโครงการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ตามข้อเสนอ 6 ข้อ คือ


(1)ขอให้ระงับโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล เนื่องจากประชาชนผู้อยู่อาศัยได้รับผลกระทบจากการปรับพื้นที่ดินบริเวณสันเขื่อนเพื่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล โดยดินที่ใช้ถมได้ถมสูงกว่าระดับบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ทำให้เกิดน้ำขัง เกิดสภาวะน้ำเน่าเสีย ไม่สามารถปลูกพืชผักได้เนื่องจากพื้นที่ดินได้ถูกถมไปเป็นสันเขื่อน


 


(2) ขอทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลโครงการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล อีกทั้งขอทราบแนวทางในการแก้ไขปัญหาและความช่วยเหลือที่ชัดเจนต่อประชาชนผู้ได้รับผลกระทบเดือดร้อน(3) ขอให้ชาวบ้านมีส่วนร่วมในการวางแผนพัฒนาโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูล เพราะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร


 


(4) ขอให้มีการเปิดประชุมการแก้ไขปัญหาโดยเร่งด่วน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นประธานในการประชุม อีกทั้งให้ตัวแทนของกลุ่มประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนได้สามารถเสนอข้อคิดเห็น รวมทั้งนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีความเป็นกลาง รับทราบถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และประชาชนผู้อยู่อาศัย


 


(5) ขอให้ทางสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจสอบการประมูล รวมทั้งการใช้งบประมาณในการก่อสร้างโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูลว่ามีความโปร่งใสหรือไม่ (6)ขอให้ตรวจสอบการทำประชาพิจารณ์ผลกระทบจากโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ว่าเป็นประชาพิจารณ์ที่ถูกต้อง หรือ เป็นประชาพิจารณ์ปลอม โดยไม่มีการนำเสนอประชาพิจารณ์ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างแท้จริง


 


โดยทางศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเมืองจังหวัดอุบลราชธานี ก็ได้เข้ารับหนังสือและรายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล แทนผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากติดภารกิจราชการ เสร็จแล้ว


 


เมื่อเวลา 11.30 น. ตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อรองศาสตราจารย์ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์  รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ห้องไพริน โรงแรมเนวาด้า แกรนด์ จังหวัดอุบลราชธานี กรณีที่เทศบาลนครอุบลราชธานี กำลังดำเนินการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลซึ่งทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยหลังจากรศ.ดร.ธีรภัทร์ ได้รับฟังปัญหาของประชาชนผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการดังกล่าวแล้วได้ลงพื้นที่ที่ได้ผลกระทบจากโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูลด้วยตนเอง และสั่งให้ผู้ว่ารีบดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว


 


เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2550 เวลา 09.00 . กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล กว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือและรายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลธานี กรณี ที่ทางเทศบาลนครอุบลราชธานีนำคอนกรีตปิดฝาท่อระบายน้ำบริเวณถนนทางสัญจรของประชาชน เป็นครั้งที่ 2


 


กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล กล่าวว่า หลังจากการยื่นหนังสือเอกสารของความเป็นธรรมในโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ต่อ ดร.ธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี เพียง 1 วัน ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้นำคอนกรีตปิดฝาท่อระบายน้ำบริเวณทางสัญจรของประชาชนบริเวณโดยรอบ เพื่อทำการปรับพื้นดินให้อยู่ในระดับเดียวกันกับพื้นดินที่เป็นโครงการการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ทำให้บ้านเรือนประชาชนอยู่ในแอ่งกระทะ เวลาเกิดฝนตก ทำให้น้ำฝนไหลท่วมบ้านเรือนประชาชน ซึ่งไม่สามารถระบายน้ำออกได้ ไม่สามารถนำรถเข้าออกบ้านเรือนได้ รวมทั้งการสัญจรทางเท้า จะต้องเดินขึ้นคันดินที่ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี นำมาถมในระดับเดียวกับโครงการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล นอกจากนี้ยังได้รับความไม่ปลอดภัยจากการปรับพื้นดินดังกล่าว โดยมีทั้งเด็กเล็ก ที่จะต้องเดินทางไปโรงเรียน คนชราที่จะต้องเดินทางไปจับจ่ายใช้สอยที่ตลาดใหญ่ จึงได้รวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน ประชาชนที่มายื่นหนังสือก็ไม่พอใจกับที่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ร่วมมือในการยื่นหนังสือ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดในครั้งนี้


 


ด้านศูนย์ดำรงธรรม อำเภอเมืองอุบลราชธานี ก็ได้เข้ารับหนังสือและรายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลและกรณีเทศบาลนครอุบลราชธานีนำคอนกรีตปิดฝาท่อระบายน้ำบริเวณถนนทางสัญจรของประชาชน แทนผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากติดการประชุม


 


ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล ได้เข้าไปยื่นหนังสือ ต่อเทศบาลนครอุบลราชธานี โดยมีนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองนายกเทศมนตรีนครอุบลราชธานี เข้ารับหนังสือและรายชื่อผู้ที่ได้รับความเดือนร้อนจากโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูล


 


ด้านนายเกรียง กัลป์ตินันท์ ได้กล่าวกับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากโครงดังกล่าว ว่าสำหรับโครงการถนนเลียบแม่น้ำมูลนี้ เป็นโครงการตั้งแต่ปี 2539 ทางเทศบาลไม่อำนาจที่จะงับโครงการนี้ได้ แต่ตอนนี้ทางเทศบาลนครอุบลราชธานี ได้นำดินมากองไว้ในบริเวณก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลก็เพื่อเตรียมปรับถนนและพื้นที่บ้านเรือนประชาชน แล้วจะยกบ้านเรือนของประชาชนขึ้นใหม่เพื่อไม่ให้เกิดน้ำขัง แต่ตอนนี้ กำลังทำโครงการพระราชดำริบ้านเทิดไท้องค์ราชชัน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดจากโครงการดังกล่าว โดยทางเทศบาลจะยกพื้นบ้านให้ประชาชนฟรีให้เท่ากับถนนเลียบแม่น้ำมูล ซึ่งทางเทศบาลกำลังนำดินกองไว้ ก่อนที่จะถึงฤดูฝน เพราะจะทำให้รถนำดินมาไม่ได้ในช่วงฤดูฝนและ เมื่อโครงการดังกล่าวอนุมัติแล้ว ทางเทศบาลก็จะเรียกผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาโครงการก่อสร้างถนนเลียบแม่น้ำมูลเข้ามาประชุม และทำสัญญาในการช่วยเหลือต่อไป


           


ในขณะที่กลุ่มผู้ได้ความเดือดร้อนจากโครงการดังกล่าว กล่าวว่า หลังจากที่ประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ยื่นหนังสือต่อเทศบาลแล้ว ก็ได้ประชุมหารือ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันและไม่มั่นใจกับทางเทศบาลว่าจะแก้ไขปัญหาได้จริง เนื่องจากโครงการที่ทางเทศบาลกำลังจะดำเนินการอยู่นั้น จะเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถบอกให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนได้ชัดเจน และไม่มีเอกสารใดๆ ทำ


                                                                       

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net