Skip to main content
sharethis

หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ พลเมืองเหนือ


 


 


 


การรัฐประหาร 19 กันยายน 2550 ที่ส่งผลให้จนถึงบัดนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่สามารถเดินทางกลับเข้าประเทศไทยได้ ก่อเกิดความเคลื่อนไหวที่ต้องจับตาเป็นระยะ


 


ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายฝ่ายพูดตรงกันว่าการเมืองเขม็งเกลียวด้วยมีคำสั่งเข้มงวดในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบประชาชนที่จะเดินทางผ่านมาเข้ายังกรุงเทพมหานคร และถึงกับมีคำสั่งโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ซึ่งบางกระแสตั้งข้อสังเกตว่าเป็นขั้วอำนาจเก่าออกจากพื้นที่ และที่ร้อนแรงคือข่าวคราวความเคลื่อนไหวของตระกูลชินวัตร ที่เริ่มเคลื่อนอย่างโจ่งแจ้งมีนัยยะ


 


24 เม.ย.พ.ศ.2550 http://hi-thaksin.net ได้เผยแพร่ข่าวและภาพถ่ายการเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไปเข้าร่วมประชุมโดฮาฟอรัมที่ประเทศกาตาร์ว่า"กาตาร์ต้อนรับทักษิณสมเกียรติ" โดยในการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 - 25 เม.ย.ที่กรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ มีการพบปะอดีตผู้นำของหลายประเทศ และบรรดานักธุรกิจในหลายๆ แขนง เพื่อแลกเปลี่ยนทรรศนะด้านต่างๆ โดยการเดินทางเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้นายกรัฐมนตรีกาตาร์ได้เชิญให้เข้าร่วมการประชุมเช่นเดียวกับที่เชิญผู้นำ และอดีตผู้นำจากหลายประเทศเข้าร่วม


 


เนื้อหาบางส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้กล่าวนั้นได้ระบุถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจโลกที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และความสำคัญของประชาธิปไตยต่อการพัฒนาด้านการการค้า เศรษฐกิจ พร้อมระบุว่า การพัฒนาที่ยั่งยืนจะต้องเกิดจากรัฐบาลที่มาจากประชาชน และประชาชนยอมรับ


 


ที่ประเทศไทย มีความคืบหน้าการดำเนินคดีกรณีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาฯ ของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยาอดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำอันก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) สรุปสำนวนของ คตส.ที่จะส่งให้อัยการสูงสุด โดยจะเสนอความเห็นให้สั่งฟ้อง คุณหญิงพจมาน ในกรณีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านถนนรัชดาฯ ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง


 


ถึงแม้ว่าบุคคลรายดังกล่าวจะไม่ใช่นักการเมือง แต่เป็นภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองที่ตามกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 100(1) ห้ามไม่ให้คู่สมรสเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ และคุญหญิงพจมาน เป็นผู้สนับสนุนให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้กระทำความผิด และเป็นคู่สมรสกัน ซึ่งในทางกฎหมายจึงถือว่าเป็นคนๆ เดียวกัน และการกระทำความผิดโดยใช้อำนาจทางการเมือง จึงต้องส่งฟ้องคุณหญิงพจมานต่อศาลฎีกาด้วย


 


ขยับมาที่คนเครือญาติที่มีข่าวล่าสุดว่า "นายพายัพ ชินวัตร" น้องชายที่สนิทแนบแน่ประกาศอย่างร้อนแรงว่าจะเอาคืนจากพวกมัน ญาติพี่น้องของมัน ผู้ที่จะถูกเอาคืนเป็นใครนั้น ไม่จำเป็นต้องเอ่ยนามก็เป็นที่รู้กันอย่างดี


 


ด้าน "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" น้องสาวคนสุดท้อง ก็ได้ถูกคณะอนุกรรมการตรวจสอบคดีการซื้อขายหุ้นชินคอร์ป เรียกเข้าชี้แจงกว่า 8 ชั่วโมง เกี่ยวกับกรณีการซื้อขายหุ้น บริษัทชินคอร์เปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)
แต่ที่คึกคักมากที่สุดเห็นจะเป็น "เยาวภา วงศ์สวัสดิ์" หรือเจ๊แดง อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ที่ขึ้นเหนือถึง 2 รอบ รายงานข่าวว่าเตรียมเดินทางไปสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการดูดวง และทำพิธีด้านโชคลาภ ทำให้มีสื่อมวลชนไปดักรอเพื่อสังเกตการณ์ที่ท่าอากาศยานเชียงราย แต่ท้ายที่สุดกำหนดการเดินทางตามที่กล่าวมากลับต้องล้มเลิก และเปลี่ยนแผนกะทันหัน โดยนางเยาวภาจะส่งรถมารับไปทำพิธีที่จังหวัดเชียงใหม่แทน


 


ก่อนหน้านี้นางเยาวภาพร้อมสามีและคณะติดตามประมาณ 5-6 คนได้เดินทางไปที่เชียงรายและในงานทำบุญครบรอบ 100 วันครูจูหลิง ปงกันมูล ที่กิ่ง อ.ดอยหลวง จากนั้นก็ไปร่วมงานอุปสมบทนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักไทย ซึ่งคุมฐานเสียงในเขต อ.พาน จ.เชียงราย ให้พรรคไทยรักไทย รายงานข่าวว่าได้เดินทางข้ามพรมแดนที่ด่าน อ.เชียงของ ไปยังเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ประเทศ ส.ปป.ลาว ที่คาดว่าจะมีนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่เพื่อหารือกัน


 


มีรายงานในช่วงนี้ หลายกระแสว่าผู้รับผิดชอบหลักในการระดมม็อบทั่วภาคเหนือสนับสนุนขั้วอำนาจเก่าเคลื่อนไหวติดต่อกับเครือข่ายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วภาคเหนือ โดยตั้งเป้าชักจูงประชาชนในจังหวัดเชียงรายจำนวน 4,000 คน และทั่วภาคเหนือ 10,000 คน เพื่อไปร่วมสมทบกับกลุ่มม็อบ PTV ในวันที่ 27 เม.ย.50 ที่ท้องสนามหลวง โดยว่าจ้างชาวบ้านหัวละ 500 บาทต่อวัน พร้อมกับจะจัดรถยนต์ปิกอัพขนคนเป็นชุดๆ เลี่ยงการใช้รถบัสไม่ให้ถูกเจ้าหน้าที่สกัดระหว่างทาง


 


ในประเด็นนี้ฝ่ายความมั่นคงได้จับตาดูความเคลื่อนไหวของแกนนำม็อบรายนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งสั่งการสกัดกลุ่มม็อบหอมแดงจากอำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ไม่ให้เคลื่อนไหวไปชุมนุมด้วย


ในขณะเดียวกัน พ.ต.อ.ประทักษ์ เจริญศิลป์ ผกก.สภ.อ.เมืองเชียงราย ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดสกัดบนถนนทุกสายที่จะลงไปทางภาคกลาง หากพบรถที่มีพระภิกษุเดินทางไปชุมนุมที่ กทม.ให้ตรวจสอบและบันทึกไว้ด้วยหลังพบความเคลื่อนไหวลง กทม. แต่ก็มีกระแสข่าวตามมาภายหลังว่าแกนนำรายนี้ไม่สามารถรวมคนได้ทัน จึงให้แกนนำอีกรายหนึ่งจัดหาคน และเปลี่ยนแปลงการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นวันที่ 6 พ.ค. 50


 


แหล่งข่าวรายหนึ่งระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของเครือญาติและกลุ่มขั้วอำนาจเก่าของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า ครอบครัวชินวัตร รวมทั้งพ.ต.ท.ทักษิณจะมีกำหนดการรวมญาติกันในวันทำบุญครบ 10 ปีของการเสียชีวิตของนายเลิศ ชินวัตร ที่วัดโรงธรรมสามัคคี หมู่ 7 ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงปลายเดือนเมษายนนี้


 


ด้านขั้วอำนาจเก่า หากมีการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ คาดว่าจะเดินทางในช่วงเย็นของวันที่ 26 เม.ย.นี้ โดยจะไม่มีการรวมเป็นกลุ่มใหญ่ แต่จะแยกกันเป็นกลุ่มย่อยเดินทาง พร้อมกับนัดรวมกันที่วัดพระธรรมกาย ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี หากพร้อมเมื่อใดก็จะเคลื่อนตัวสู่รัฐสภา โดยกลุ่มขั้วอำนาจเก่าในจังหวัดเชียงใหม่ มีอำเภอดอยสะเก็ด สันกำแพง สันทราย และสารภีจะร่วมเคลื่อนตัวไปตามจุดนัดหมายดังกล่าวด้วย


 


ประเด็นสำคัญของการเหตุการณ์นี้ ก็คือ เหตุใดคนที่เป็นขั้วอำนาจเก่าจึงต้องเคลื่อนไหวพร้อมกันในช่วงเวลาใกล้เคียงกับวันครบ 10 ปีของการเสียชีวิตของนายเลิศ ชินวัตร ที่จะมีการรวมตระกูลชินวัตรเพื่อทำบุญ? ขั้วอำนาจเก่ากำลังเตรียมการณ์ต้อนรับการกลับมาของอดีตผู้นำอยู่หรือไม่? หรืออดีตผู้ยิ่งใหญ่ผู้ประกาศไม่ยอมผูกคอตายนอกประเทศกำลังจะเดินเกมอย่างไร? นัยสำคัญของการเคลื่อนไหวคืออะไร?….ไม่มีใครรู้….แต่อีกไม่กี่วัน...ก็จะรู้

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net