อมธ.เตรียมออกแถลงการณ์ให้สมัครแจง 6 ตค

สยามรัฐ - วันศุกร์ที่ 22 ก.พ.51 เวลา 14.00 น.องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะมีการออกแถลงการณ์ เรื่อง นายกรัฐมนตรีกับข้อเท็จจริงเหตุการณ์ 6 ต.ค.19  นอกจากนั้น อศมธ.ยังมีประเด็นในการแถลงข่าวประกอบด้วย 1.แถลงข้อเท็จจริงกรณี 6 ต.ค.19  2. เรียกร้องให้ นายสมัคร สุนทรเวช ทบทวนประเด็นในการให้สัมภาษณ์ ทอล์ค เอเซียโดยผู้สื่อข่าวCNN 3. เสนอให้มีการชำระประวัติศาสตร์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ 6 ต.ค ซึ่งการแถลงข่าววันดังกล่าว อมธ.ได้เชิญผู้สื่อข่าวทั้งวิทยุ ทีวี หนังสือพิมพ์ได้ร่วมแถลงด้วย

เพ็ญปล่อยฟรีเว็บถล่มป๋าเปรม

ผู้จัดการรายวัน - นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชาชนที่มีสาเหตุมาจากการแต่งตั้งเลขา และที่ปรึกษารัฐมนตรี ว่า ตนไม่ทราบ ส่วนเรื่องเว็บไซต์ ไฮ-ทักษิณ ที่ก่อนหน้านั้น มีการลงบทความจาบจ้วง พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ และล่าสุดมีการโจมตี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทยนั้น ตามที่ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ก็ได้บอกแล้วว่า เป็นสิทธิเสรีภาพเช่นเดียวกับเว็บไซต์ทั้งหลาย จริงๆ เรื่องเว็บไซต์ และสื่อภาคประชาชน รัฐบาลไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีมาก่อน และสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นในช่วงที่มีปัญหาการเมืองก็ตาม เราต้องการให้มีความหลากหลายของสื่อให้มากที่สุด

นายจักรภพ กล่าวด้วยว่า นอกจากจะมีสื่อวิทยุ โทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงสื่อคอมพิวเตอร์ เราจะต้องส่งเสริมสิทธิเสรีภาพการแสดงออกของสื่อทั้งหลาย ที่ได้แสดงจุดยืนทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เราไม่มีนโยบายจะเข้าไปเกี่ยวข้องมากกว่านี้

ส่วนจะต้องเข้าไปดูเนื้อหาที่มีส่วนพาดพิงบุคคลสำคัญของประเทศ หรือสถาบัน ถ้าหากมีการพาดพิงถึงสถาบันระดับสูง รัฐบาลจะดำเนินการ แต่ขอให้มีเหตุเกิดขึ้นก่อน เราก็พร้อมหาทางป้องกัน แต่ถ้าเป็นการพาดพิง หรือสร้างความเสื่อมเสียให้กับบุคคลธรรมดา ประชาชนทั่วไป แนวนโยบายของรัฐคือ ผู้เสียหายต้องร้องเรียน แล้วใช้กระบวนการยุติธรรมสร้างความชอบธรรมเอาเอง

เมื่อถามว่าหากมีการจาบจ้วงประธานองคมนตรี จะเข้าไปจัดการดูแลอย่างไร นายจักรภพ กล่าวว่า คำว่า สถาบัน ย่อมหมายความตามกฎหมาย หมายถึง พระบรมวงศานุวงศ์ เท่านั้น คือความหมายที่สำคัญของสถาบันระดับสูง เมื่อถามย้ำว่าถ้าเป็นประธานองคมนตรี นายจักรภพ กล่าวว่า รัฐบาลต้องทำทุกอย่างตามกฎหมาย ได้เคยมีความพยามของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ที่มีความพยามออกกฎหมายเพื่อจะเพิ่มโทษที่เกี่ยวข้องกับประธานองคมนตรี องคมนตรี และรัชทายาท แต่ว่าสมาชิกสนช.ในขณะนั้นถอนเรื่องออกไป จึงไม่มีกฎหมายที่ครอบคลุมเรื่องนั้น

"อย่างที่เรียนแล้วว่า รัฐบาลมีหน้าที่ตามกฎหมายก็จริง แต่ต้องดูว่า มีความเสียหายแก่บุคคลหรือไม่ ถ้าหากเป็นพระบรมวงศานุวงศ์ รัฐบาลจะเป็นโจทย์ ยื่นฟ้องร้องในการดำเนินการ แต่ถ้าเป็นบุคคลอื่นขอให้บุคคลนั้นๆใช้สิทธิ เสรีภาพในฐานะที่เป็นประชาชนไทย ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกันดำเนินการเอาเอง" นายจักรภพ กล่าว

เมือถามว่าจะไม่มีการเลือกปฏิบัติหรือไม่ นายจักรภพ กล่าวว่า ใช่ครับ เฉพาะสถาบันระดับสูง และพระบรมวงศานุวงศ์เท่านั้น ที่รัฐบาลจะต้องมีปฏิบัติการพิเศษ ส่วนบุคคลอื่นก็ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อตนเอง

"เอ๋" ลาออกแล้วผช.เลขาฯมท.1เคลียร์ตัวเองที่สังคมสงสัยก่อน

คมชัดลึก - นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม หรือ "เอ๋"  อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสมุทรปราการ ลูกชายนายวัฒนา อัศวเหม ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  แจ้งขอสละสิทธิ์เข้ารับตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยแล้ว  โดยให้เหตุผลว่า ต้องการเคลียร์ตัวเองตามที่สังคมสงสัย ก่อนจะเข้ารับตำแหน่งใดๆ ทางการเมือง

ขณะที่นายวัน อยู่บำรุง บุตรชายของ "ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการของ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  มีรายงานว่า จะเดินทางเข้ามาทำงานที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นวันแรก วันพรุ่งนี้ (22 ก.พ.) เวลาประมาณ 09.00 น.

หมอเลี๊ยบเตือนดื่มเหล้าเข้าวัดระวังติดคุก

สยามรัฐ - วัดสวนแก้วร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการเสริมสุขภาพ  ( สสส.) และเครือข่ายองค์กรงดเหล้า ได้ร่วมกันจัดโครงการ " วัดปลอดเหล้าทั่วไทย ถวายเป็นพุทธบูชา" โดยมีนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธาน สสส. พร้อมด้วยนายเชิดวิทย์ ฤทธิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีเดินทางมาร่วมเปิดงาน

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวว่า  มาตรการที่สำคัญในการลดปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็คือมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ด้วยการกำหนดเขตห้ามดื่มและห้ามจำหน่ายสุรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในวัด ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่สำคัญทางศาสนาที่สมควรเป็นสถานที่ปลอดเหล้าอย่างยิ่ง ตามเจตนารมณ์ของ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีบทกำหนดลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนในมาตราที่ 27 และ 31 คือ จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ในโอกาสวันมาฆบูชา ถือเป็นโอกาสที่ดีในการประกาศนโยบายวัดปลอดเหล้าทั่วไทย จึงขอเชิญชวนให้ประชาชนร่วมมือกันงดเว้นการนำสุราเข้าไปดื่มหรือขายในวัดเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา  ซึ่งในอนาคตต่อไปจะอาศัยอำนาจของกฎหมายกำหนดมาตรการเพิ่มเติมในมาตรา 28 กำหนดให้วันสำคัญทางพุทธศาสนาซึ่งเป็นวันหยุดนั้นเป็นวันงดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่อไป

หนุน "ท่องเที่ยว" แทน "ส่งออก" กูรูแนะรัฐบาลหมักกู้วิกฤตศก.

ผู้จัดการรายสัปดาห์ - รศ.ดร.มนตรี โสคติยานุรักษ์ รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะรัฐประศาสนศาสตร์ (GSPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) กล่าวถึง แนวทางนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลว่าสิ่งแรกที่รัฐบาลควรระวังก็คือปัญหาซับไพร์มในสหรัฐอเมริกาและปัญหาราคาน้ำมัน ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ

รัฐบาลควรเร่งนโยบายเพื่อดึงความมั่นใจของนักลงทุนให้กลับคืนมาโดยเร็ว รวมถึงเดินหน้าผลักดันนโยบายด้านการท่องเที่ยวแทนการเน้นเฉพาะภาคการส่งออกแทน เนื่องจากคาดการณ์ว่า ภาคการส่งออกจะประสบปัญหาชะลอตัว ทั้งนี้รายได้จากการท่องเที่ยวมีมูลค่ามหาศาลถึงปีละ 5 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 8 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP)

ขณะที่ โครงการเมกะโปรเจกต์ "รศ.ดร.มนตรี" แนะว่า การพัฒนาโครงการพื้นฐานนั้นถือว่าเป็นการวางรากฐานที่ดี และสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ในระยะยาว แต่รัฐบาลควรที่จะใช้วิธีการร่วมลงทุนกับเอกชนแทนการลงทุนเองทั้งหมด

"อาจารย์ใหญ่"ขาดแคลน แพทย์จุฬาฯชวนบริจาคด่วน

แนวหน้า - รศ.นพ.ธันวา ตันสถิตย์ หัวหน้าภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงสถานการณ์การรับบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ หรือการอุทิศร่างเป็น"อาจารย์ใหญ่" ให้กับโรงพยาบาลจุฬาฯ ว่า แม้ปัจจุบันโรงพยาบาลจุฬาฯจะยังคงมี"อาจารย์ใหญ่" ให้กับนิสิตคณะแพทยศาสตร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับร่างกายมนุษย์อย่างพอเพียง แต่ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นในทุกวันนี้ ทำให้ต้องมีการใช้ร่างของ"อาจารย์ใหญ่"เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยในแต่ละปี คณะแพทยศาสตร์จุฬาฯ จำเป็นต้องใช้  "อาจารย์ใหญ่" มากถึงกว่า 200 ท่านและอาจทำให้ร่างของ"อาจารย์ใหญ่" ที่มีขณะนี้ ไม่เพียงพอในอนาคต เพราะผู้ที่บริจาคในวันนี้อาจต้องใช้เวลาอีก 50-60ปี กว่าที่จะเสียชีวิตดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ผู้สนใจร่วมบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์ โดยร่างของผู้ที่บริจาคจะได้รับการทำพีธีทางศาสนา หลังผ่านการเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยมีพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติ"

ผู้ที่จะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่เกือบ 100เปอร์เซ็นต์ สามารถนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่ได้ ไม่ว่าจะมีอายุเท่าไหร่ หรือแม้แต่เจ็บป่วยออดๆ แอดๆ ก็สามารถบริจาคได้ ไม่เหมือนการบริจาคอวัยวะ ที่ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากภาวะสมองตายเท่านั้น จึงจะสามารถนำอวัยวะบางส่วนมาใช้ประโยชน์ ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนให้ร่วมกันบริจาคร่างกาย เพราะถือเป็นการทำบุญใหญ่ครั้งสุดท้ายในชีวิต" รศ.นพ.ธันวา กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อที่แผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาฯ หมายเลขโทรศัพท์ 02-256-4628 ในเวลาราชการ หรือดาวน์โหลดแบบฟอร์มการบริจาคร่างกายจากwww.chula.ac.th/th/cadaver/index.htm แล้วกรอกข้อความส่งมาที่แผนกอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ศาลาทินฑัต โรงพยาบาลจุฬาฯ สภากาชาดไทย เขตปทุมวัน กทม.10330 ได้ทุกวัน

เซอร์เบียนับแสนชุมนุมเอกราชโคโซโว

สยามรัฐ - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประชาชนชาวเซอร์เบียหลายแสนคน พากันมารวมตัวที่บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาของยูโกสลาเวียเก่าซึ่งตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเบลเกรด  เพื่อประท้วงต่อการประกาศเอกราชของโคโซโวที่มีขึ้นเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว

รายงานข่าวแจ้งว่า  ประชาชนชาวเซอร์เบียที่มาชุมนุมจำนวนนับแสนคนนี้  มีนายอีเมียร์ คุสตุริกา ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดังชาวเซอร์เบียรวมอยู่ด้วย โดยกลุ่มผู้ชุมนุมพาถือป้ายและตะโกนว่า โคโซโวคือเซอร์เบีย

ขณะเดียวกัน ทางด้านนายบอริส ทาดิซ ประธานาธิบดีเซอร์เบีย และนายโวจิสลาฟ โคสทูนิกา นายกรัฐมนตรีของเซอร์เบีย   ต่างออกมาเรียกร้องให้ประชาชนที่มาร่วมชุมนุมอยู่บริเวณด้านหน้าของอาคารรัฐสภาของยูโกสลาเวียเดิมนั้นว่า ขอให้อยู่ในความสงบ

พร้อมกันนี้  ประธานาธิบดีทาดิซ ยังเปิดเผยด้วยว่า ตนมีกำหนดการที่จะเดินทางไปพบปะกับประธานาธิบดีไทรอัน บาเซสคู  แห่งโรมาเนีย และนายโบกดาน โอลเทียนู ประธานสภาผู้แทนราษฎรของโรมาเนียด้วย เพื่อหารือถึงเรื่องการประกาศเอกราชของเซอร์เบีย  ทั้งนี้ บรรดาผู้นำของโรมาเนียรวมทั้งประธานาธิบดีบาเซสคู ได้ออกมาคัดค้านต่อการประกาศเอกราชของโคโซโว

ขณะที่  นายพลซาเวียร์ บูต์ เดอ มาร์นฮัก ผบ.กองกำลังรักษาสันติภาพของนาโตออกมาตำหนิบรรดาผู้นำของเซอร์เบีย   ต่อกรณีเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อวันก่อน โดยระบุว่า แกนนำเซอร์เบียบางคนต้องรับผิดชอบต่อเหตุเดินขบวนประท้วงการประกาศเอกราชของโคโซโว

"ไทมส์"อ้อนศาลอิเหนากลับคำตัดสินหมิ่นซูฮาร์โต

สยามรัฐ - "ไทมส์"  ซึ่งเป็นนิตยสารชื่อดังระดับโลก  ได้ออกมาเรียกร้องให้ศาลฎีกาของอินโดนีเซียกลับคำพิพากษาในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งจะส่งผลทำให้นิตยสารไทมส์ต้องเสียเงินเพื่อจ่ายเป็นค่าเสียหายให้แก่อดีตประธานาธิบดีซูฮาร์โตของอินโดนีเซีย ผู้ล่วงลับไปแล้วคิดเป็นจำนวนเงินถึง  109 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 3,500  ล้านบาท พร้อมกับให้ตีพิมพ์ข้อความขอโทษต่ออดีตผู้นำอินโดนีเซียรายนี้