Skip to main content
sharethis


วันนี้ (8 เม.ย.) กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 150 คน ในนามคณะกรรมการประชาชนเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 (คปพร.) นำโดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย และนพ.เหวง โตจิราการ เดินทางเข้ายื่นจดหมายเปิดผนึกที่พรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเรียกร้องให้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และนำรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับมาใช้เป็นตัวตั้ง โดยให้มีการแก้ไขในบางมาตรา


เมื่อเวลาประมาณ 15.30น. ที่พรรคพลังประชาชน นายจรัล ดิษฐาอภิชัย ในฐานะประธาน คปพร.ได้อ่านข้อความในจดหมายเปิดผนึก โดยกล่าวอ้างถึงนโยบายและการหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด (23ธ.ค.50) ซึ่งมีการประกาศจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 นอกจากนั้นยังกล่าวว่าตัวรัฐธรรมนูญ 2550 มีปัญหาหลายประการ อีกทั้งไม่ได้สนับสนุนและไม่สามารถพัฒนาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขให้มั่นคงในประเทศไทยได้ แต่กลับสนับสนุนและส่งเสริมระบอบอำมาตยาธิปไตยให้แข็งแกร่งขึ้นในสังคม ดังนั้นจึงเสนอให้ดำเนินการยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550 และนำรัฐธรรมนูญฉบับ 2540 กลับมาใช้


ด้านนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคออกมารับจดหมายกล่าวกับประชาชนที่หน้าบริเวณที่ทำการพรรคว่า ที่ประชุมพรรคพลังประชาชนมีมติเอกฉันท์ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ทั้งฉบับ แต่คงหมวด 1 บททั่วไปและหมวด 2 ที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ไว้  โดยนำฉบับ 2540 มาเป็นต้นแบบในการยกร่าง ทั้งนี้แนวทางแก้ไขจะผ่านทางระบบรัฐสภา เพื่อสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง


แต่ในส่วนของกรอบเวลานั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่ายังคงต้องมีการพูดคุยกันต่อไป เพราะยังไม่มีแนวคิดที่ชัดเจนว่าจะเดินหน้าในรูปแบบใด แต่รับปากจะนำเรื่องนี้เข้าพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งคาดว่าแต่ละพรรคคงได้มีการพูดคุยกันภายใน และจะได้มติรวมของพรรครวมรัฐบาลภายในหนึ่งสัปดาห์ ส่วนการที่พรรคประชาธิปัตย์จะมาเข้าร่วมในการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยนั้นถือว่าเป็นสิ่งดี และเชิญชวนทุกภาคส่วนทั้งข้าราชการ ประชาชน และนักวิชาการ ให้เข้ามามีส่วนร่วมเพื่อสร้างความเป็นประชาธิปไตยที่กว้างขวางและยั่งยืน


จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้เดินทางต่อไปยังที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงหัวหน้าพรรค กรรมการบริหาร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ ทวงสัญญารับก่อนแก้ทีหลังที่เคยให้ไว้กับประชาชน โดยมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ และประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เป็นผู้รับมอบจดหมาย ซึ่งนายสาทิตย์ กล่าวว่า จะนำเสนอต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ต่อไป


นพ.เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การมายื่นจดหมายให้แก่พรรคพลังประชาชน และพรรคประชาธิปัตย์ ถือเป็นการทวงคำมั่นสัญญาที่ทั้งสองพรรคเคยให้ไว้กับประชาชนก่อนหน้านี้ในการที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายสาทิตย์ ตัวแทนของพรรคประชาธิปัตย์เองก็กล่าวว่ายินดีที่จะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และได้ข้อเสนอให้ตั้งคณะกรรมการในการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งตนเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็กลัวว่าจะมีการตีรวนและยื้อเวลาทำให้การแก้รัฐธรรมนูญจนเกิดความล่าช้า


อย่างไรก็ตามภารกิจหลักที่ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญยังอยู่ที่พรรครัฐบาลเพราะมีเสียงกว่าสามร้อยเสียงในรัฐสภา และตอนนี้พรรคร่วมรัฐบาลก็ถูกกดดันและจับตามองโดยประชาชนที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่การเลือกแก้ไขเฉพาะบางมาตราจะทำให้เกิดความเสียหายแก่พรรคเอง


"รัฐธรรมนูญ 50 เหมือนไซยาไนต์ของเผด็จการที่อยู่ในปากเรา ที่เราต้องคายมันทิ้งออกไปให้เร็วที่สุด ก่อนที่ไซยาไนต์นี้จะโปรยพิษไปทั่วประเทศไทย และเราต้องเช็ดถู กวาดล้างมันออกไปให้หมดสิ้นจึงจะสามารถสร้างประชาธิปไตยขึ้นมาได้" นพ.เหวงกล่าว


ทั้งนี้ เนื้อความในจดหมายที่มอบให้แก่ 2 พรรค ระบุเหตุผลของการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2550 ไว้ 4 ข้อ คือ 1.รัฐธรรมนูญ 2550 เป็นรัฐธรรมนูญที่มาจากกระบวนการของคณะรัฐประหารที่เป็นเผด็จการ ซึ่งต่างกันโดยสิ้นเชิงกับรัฐธรรมนูญ 2540 ที่มาจากกระบวนการประชาธิปไตยซึ่งประชาชนมีส่วนร่วมโดยตรงตั้งแต่ต้น 2.รัฐธรรมนูญ 2550 มีบทบัญญัติที่กำหนดให้การทำรัฐประหารเป็นสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งเท่ากับเป็นการขัดกับระบอบประชาธิปไตยโดยสิ้นเชิง


3.อำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยถูกทำลายโดยนำไปมอบให้แก่ อภิสิทธิชนจำนวน 7 คน ในกรณีการคัดเลือก ส.ว. หรือการเลือก ส.ส.และ ส.ว. ที่ประชาชนมีสิทธิทางการเมืองไม่เท่ากัน รวมไปถึงการกำหนดให้เลือก ส.ว.จังหวัดละ 1 คน เท่ากับทำให้ประเทศไทยเปลี่ยนโฉมหน้าเป็นสมาพันธรัฐ สหพันธรัฐ สหรัฐ ฯลฯ ไปโดยปริยาย


4.การทำประชามติเห็นชอบรัฐธรรมนูญ 2550 เป็นการทำประชามติที่อยู่ภายใต้การกดดันบงการโดยตรงของอำนาจเผด็จการ รวมทั้งกฎอัยการศึก และคนจำนวนไม่น้อยกว่า 4 ล้านคน (จากผลเอ็กซิทโพล) ให้ความเห็นชอบเพียงเพราะต้องการให้ผ่านก่อนเพื่อมาแก้ไขในอนาคต หรือต้องการให้เผด็จการและรัฐบาลเผด็จการหมดวาระโดยเร็วเพื่อจะได้มีการเลือกตั้ง ส.ส.และมีรัฐบาลของประชาชนเพื่อมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจโดยเร็ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net