Skip to main content
sharethis

วันที่ 10 มิ.ย.51   นายโชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้ถูกกล่าวหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกรณีไม่ยืนเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนต์ ได้ทำหนังสือคัดค้านคำสั่งของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทยที่ไม่รับคำร้องเรียนกรณีรายการยามเฝ้าแผ่นดินและสื่อในเครือผู้จัดการระบุข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับเขา โดยทางสภาการหนังสือพิมพ์ฯ มีจดหมายแจ้งคำสั่งไม่รับคำร้องมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา


 


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.นายโชติศักดิ์ ได้ยื่นจดหมายร้องเรียนถึงประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เนื่องจากรายการยามเฝ้าแผ่นดินและสื่อในเครือผู้จัดการได้ระบุว่าเขาเป็นผู้ประสานงานแนวร่วมประชาธิปไตยต้านเผด็จการ (นปก.) ซึ่งต้านรัฐประหารและสนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  และร่วมกิจกรรมกับ นปก.หลายครั้ง โดยเขายืนยันว่าไม่เป็นความจริง พร้อมชี้แจงว่าเขาอยู่กลุ่ม 19 กันยาต้านรัฐประหาร ซึ่งถูกเรียกว่า "สองไม่เอา"


 


ต่อมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ทางสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ทำหนังสือแจ้งคำสั่งไม่รับคำร้องเรียน ลงชื่อโดย นายเชาวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี เลขาธิการสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ระบุว่า "พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่อาจรับไว้พิจารณาตามข้อบังคับสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่าด้วยวิธีพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ พ.ศ.2541 ได้เนื่องจากขัดต่อธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2540 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่สาม พ.ศ.2548 ว่าด้วยการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ข้อ 22 จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องเรียน"


 


ล่าสุด นายโชติศักดิ์ ทำหนังสือคัดค้านคำสั่งไม่รับคำร้องเรียนดังกล่าว โดยระบุว่า ข้อร้องเรียนของเขาว่าด้วยการถูกหนังสือพิมพ์ผู้จัดการและสื่อในเครือทำให้เสียหายนั้นไม่เคยถูกนำขึ้นพิจารณาในชั้นศาลแต่อย่างใด และไม่ใช่เรื่องที่ศาลรับฟ้อง หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล หรือที่ศาลพิจารณาหรือมีคำสั่งเด็ดขาดไปแล้ว ตามบทบัญญัติข้อ 22 ของธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ฯ อีกทั้งข้อเรียกร้องของเขาก็เป็นข้อเรียกร้องครั้งแรกต่อสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการได้วินิจฉัยเป็นที่สุดไปแล้ว ตาม ข้อ 22 (2) รวมไปถึงข้อร้องเรียนนี้เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์เพียง 2-3 วัน ไม่เกิน 120 ตามบทบัญญัติข้อ 22 (3) จึงขอใช้สิทธิคัดค้านคำสั่งดังกล่าว ตามหมวด 4 ข้อ 24 ว่าด้วยการพิจารณาเรื่องร้องเรียนของธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ฯ


 


อนึ่ง ธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ พ.ศ.2540 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่สาม พ.ศ.2548 หมวด 4 ว่าด้วยการพิจารณาเรื่องร้องเรียน ข้อ 22 ระบุว่า


 


ข้อ 22  ห้ามมิให้คณะกรรมการรับเรื่องไว้พิจารณาดำเนินการในกรณีต่อไปนี้


(1)    เรื่องที่ศาลรับฟ้องในประเด็นเดียวกันและอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล หรือที่ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งเด็ดขาดไปแล้ว หรือ


(2)    เรื่องที่มีข้อกล่าวหาหรือประเด็นเดียวกับเรื่องที่คณะกรรมการได้วินิจฉัยเป็นที่สุดไปแล้วและไม่มีหลักฐานใหม่ซึ่งเป็นสาระสำคัญแหงข้อกล่าวหา หรือ


(3)    เรื่องที่ล่วงเลยมาแล้วเกินหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันที่ผู้เสียหายทราบเรื่อง หรือเกินหนึ่งปีนับแต่วันเกิดเหตุ เว้นแต่คณะกรรมการจะเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญเกี่ยวข้องต่อประโยชน์สาธารณะ หรือมีผลกระทบต่อเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพหนังสือพิมพ์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net