Skip to main content
sharethis

 


7 แกนนำพันธมิตรเข้ามอบตัวแล้ว


10 ต.ค.51  เมื่อเวลา 09.30 น. นายสุวัตร  อภัยภักดิ์  ทนายความของพันธมิตร เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนที่แกนนำพันธมิตรอีก 6 คนจะเดินทางเข้ามามอบตัวกับพนักงานสอบสวนในข้อหา 116 กับ 215


 


นายสุวัตร กล่าวต่อว่า จริงๆ แล้วทางเรามีความมั่นใจว่าเราไม่ได้กระทำผิดและไม่มีการมั่วสุมแต่อย่างใด มาชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่เข้ามาโดยไม่ชอบด้วยกกหมายและปกป้องชาติ พระมหากษัตริย์  จึงไม่ต้องหนักใจอะไรส่วน นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์  ยืนยันว่าจะไม่ขอการคุ้มครองจากรัฐสภา หลังจากนั้นนายสุวัตร  ได้เดินทางเข้าไปพบพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ต. อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1และ พ.ต.อ. วิบูลยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.นางเลิ้งมาร่วมสอบปากคำ


 


 เวลา 09.45 น. ทางกลุ่มแกนนำก็ได้เดินทางเข้ามาที่ สน.นางเลิ้ง ประกอบด้วย 1.นาย สนธิ ลิ้มทองกุล 2.นาย สมศักดิ์ โกศัยสุข 3.นาย พิภพ ธงชัย 4.นาย สุริยะใส กตะศิลา 5.นาย เทิดภูมิ ใจดี 6.นาย อมร อมรรัตนานนท์ โดยในระหว่างที่กลุ่มแกนนำเดินทางมาถึงสน.กองทัพนักข่าวต่างพากันเข้ามารุมทำข่าวถ่ายภาพ จนกระทั่งมีการกระทบกระทั่งกันระหว่างนักข่าวและการ์ดพันธมิตร ในระหว่างที่แกนนำจะเดินเข้าไปพบพนักงานสอบสวน การ์ดพันธมิตรก็ไม่ยอมให้นักข่าวเดินผ่านประตูทางเข้าห้องรับแจ้งความจนทำให้ประตูเกิดความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เอาเชือกมาผูกไว้



ต่อมาเวลา 10.20 น. นาย สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ได้เดินทางมามอบตัวที่ สน.นางเลิ้ง พร้อมกับกล่าวว่า มามอบตัวด้วยตัวเอง จะไม่ใช้เอกสิทธิ์จากรัฐสภา จะไม่ใช้มือที่สกปรกในรัฐสภาเด็ดขาด ไม่เหมือน ส.ส.บางคนที่ตาขาว ทำผิดแล้วใช้เอกสิทธิ์เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม


 


นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรฯ เปิดเผยภายหลังได้รับการประกันตัว เมื่อเวลา 12.40 น. ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อนุญาตให้แกนนำทั้ง 6 คนให้ประกันตัวได้ โดยไม่มีเงื่อนไข โดยมีใช้ตำแหน่ง ส.ว. ประกัน 3 คน คือนายคำนูญ สิทธิสมาน, นายสาย กังกเวคิน และนายไพบูลย์ นิติตะวัน ในวงเงินหลักทรัพย์ค้ำประกันคนละ 1 แสนบาท แต่ในส่วนของนายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เป็นส.ส. มีเอกสิทธิ์คุ้มครองตัวเองอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม พันธมิตรฯยังคงจะเดินหน้าทวงถามความชอบธรรมกับการสลายการชุมนุมของตำรวจเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ต่อไป ซึ่งล่าสุดได้รับรายงานมีผู้สูญหายกับเหตุการณ์กว่า 10 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบรายละเอียด
      


นายสุริยะใส กล่าวต่อไปว่า จะดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมทั้งในและต่างประเทศ ตามช่องทางรัฐธรรมนูญ ทั้งป.ป.ช. และศาลปกครอง เพื่อหาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ส่วนที่เหลืออีก 2 ข้อหาที่พันธมิตรฯ ถูกระบุมีการมั่วสุมนั้น พันธมิตรฯ ยืนยันมาตลอดว่าเราชุมนุมอย่างสงบ สันติ ปราศจากอาวุธ ซึ่งภายหลังจากนี้แกนนำจะหารือวางยุทธศาสตร์ เคลื่อนไหวต่อไป 
      


เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการตรวสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น นายสุริยะใส กล่าวว่า หากเป็นคณะกรรมการที่น่าเชื่อถือ และมีอำนาจเต็ม พันธมิตรฯ รับได้ แต่ยอมรับทุกเงื่อนไขที่ให้ความสำคัญกับการใช้กลไกของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และศาลยุติธรรมมากกว่า เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ


 


10 สว.ร้องยูเอ็นเหตุ ตร.สลายม็อบ


สมาวุฒิสภา (ส.ว.) จำนวน 10 คน อาทิ นายสมชาย แสวงการ นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายมณเฑียร บุญตัน เข้ายื่นหนังสือถึงองค์กรสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม เพื่อให้รับทราบข้อมูลกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ นายมณเฑียร บุญตัน ส.ว.สรรหา ผู้พิการทางสายตา กล่าวว่า การมายื่นหนังสือครั้งนี้ เพื่อเป็นการแจ้งให้ประชาคมโลกทราบ ผ่านทางหน่วยงานในสังกัดองค์การสหประชาชาติ ได้รับทราบถึงวิธีการในการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ซึ่งวิธีการปฏิบัติที่ทำต่อประชาชนในการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการใช้กำลังและข้ามขั้นตอนไม่เป็นไปตามหลักสากล


 


สภาทนายความตั้งทีมช่วยเหยื่อสลายม็อบ


นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทายความ ออกแถลงการณ์ เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ถึงเหตุการณ์ การสลายการชุมนุมที่รัฐสภาในวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมาจนมีประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตว่า จากการกระทำดังกล่าวนั้น ทางสภาทนายความได้จัดตั้งคณะทำงานเตรียมพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา ให้กับผู้ที่ต้องประสบเคราะห์กรรม เพราะการกระทำของเจ้าหน้ที่ตำรวจและรัฐบาล



โดยขอให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย ติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย สภาทนายความถนนราชดำเนิน หรือโทรไปสอบถามที่หมายเลข 02-6291430 ต่อ 112-113 หรืออีเมล์ ได้ตลอดเวลา โดยทางสภาทนายความพร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นธรรม
 


 


 


 


 


 


 


เรียบเรียงจาก เว็บไซต์มติชน สยามรัฐ คมชัดลึก


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net