Skip to main content
sharethis

เมื่อวานนี้ (4 ส.ค.52) เวลา 17.00 น. ณ.ศาลากลางหมู่บ้านคำสร้างไชย ต.ท่าช้าง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี นายสมหมาย สมทรัพย์ ประธานกรรมการบริษัทบัวสมหมายไบโอแมส จำกัด ได้เดินทางจากจังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อมาพบชาวบ้านในช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนที่จะมีการศึกษาผลกระทบและเปิดเวทีประชาพิจารณ์

สืบเนื่องจากชาวบ้านคำสร้างไชยและบ้านใกล้เคียง ได้เสนอให้ทางจังหวัดอุบลราชธานี ตั้งคณะทำงานศึกษาผลกระทบก่อนการตัดสินใจว่าจะสร้างหรือไม่สร้างโรงไฟฟ้ากลางชุมชน และรองผู้ว่าราชการนายชาตรี ดิเรกศรี ประธานคณะทำงานฯ ดังกล่าว ได้มีคำสั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดอุบลฯดำเนินการให้มีการเปิดประชุมหารือกระบวนการการศึกษาผลกระทบก่อนเปิดเวทีชี้แจงข้อมูลและการประชาพิจารณ์ ซึ่งทางบริษัทบัวสมหมายฯ มองเห็นความยุ่งยากในกระบวนการสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัท นายสมหมาย สมทรัพย์ เจ้าของบริษัทฯ จึงลงมาพูดคุยกับชาวบ้านด้วยตนเอง ณ ศาลากลางหมู่บ้านคำสร้างไชย โดยมีชาวบ้านบ้านใกล้เคียงที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบมาร่วมประชุมจำนวนกว่า 50 คน

นายสมหมาย สมทรัพย์ กล่าวกับชาวบ้านว่า ผมมาวันนี้ต้องการมาคุยอย่างเปิดอกกับชาวบ้าน ต้องการทราบความต้องการที่แท้จริงต่อการสร้างโรงไฟฟ้าของบริษัท ชาวบ้านมีความกังวลเรื่องใด ตนยินดีที่จะแก้ปัญหาและหาแนวทางที่จะลดความกังวลของชาวบ้าน และมาเพื่อให้ความมั่นใจโดยจะทำสัญญากับชาวบ้านว่าหากมีการสร้างโรงไฟฟ้าฯ และเกิดผลกระทบจริง บริษัทยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายและจะปิดโรงงานทันที ผมมีข้อเสนอต่อชาวบ้านดังนี้ 1.หากชาวบ้านกังวลเรื่องฝุ่น ผมขอการันตรีให้ได้ ทางผมพร้อมที่จะทำสัญญารับผิดชอบค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทุกคน 2.ในหมู่บ้านผมจะติดไฟฟ้าให้มีแสงสว่างทั่วหมู่บ้าน และชาวบ้านจะได้ใช้ไฟฟ้าราคาถูก 3.หากมีมูลนิธิสุขภาพในชุมชนผมจะมอบเงินให้ 4.หมู่บ้านจะได้เงิน 1% เข้ากองทุนพัฒนาหมู่บ้าน และหากมีโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นความเจริญในหมู่บ้านก็จะตามมา

นายสมหมาย กล่าวต่อว่า ผมอยากให้ชาวบ้านได้คิดให้ดีถึงผลดีผลเสีย หากชาวบ้านบอกว่าโรงไฟฟ้าฯมีผลเสีย ทุกอย่างก็จบ ผมจะย้ายไปที่อื่น แต่ถ้าหากว่าต้องการอยากลองหรือเห็นด้วยกับข้อเสนอของผม ก็ลองคุยกันต่อ ผมเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ขอยืนยันว่า ผมจะไม่ข่มเหงน้ำใจชาวบ้านแน่นอน หากชาวบ้านไม่ต้องการให้มีการสร้างโรงไฟฟ้าในหมู่บ้าน ผมก็จะไปสร้างที่อื่น ซึ่งผมสามารถทำได้เพราะยังมีอีกหลายแห่งที่ต้องการโรงไฟฟ้าฯ

นางอุทัย คำแพง ชาวบ้านคำนกเปล้า กล่าวว่า การลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า เป็นทุนขนาดใหญ่นับ พันล้าน ไม่ใช่แสนสองแสนบาท เมื่อสร้างแล้วใช่ว่าจะยกเลิกกันได้ง่ายๆ ชาวบ้านไม่เชื่อมั่น ซึ่งโรงไฟฟ้าจะดีหรือไม่ดีชาวบ้านไม่กล้าเสี่ยงและไม่อยากเสี่ยง ชีวิตที่เป็นอยู่ขณะนี้ก็ดีอยู่แล้ว ชีวิตไม่ต้องเสี่ยง ในครอบครัวหนึ่งไม่ใช่มีชีวิตเดียว ยังมีปู่ย่าตายายลูกหลาน ชาวบ้านไม่อยากย้ายไปอยู่ที่อื่นเพราะที่นี่เป็นผืนดินที่เป็นมรดกของพ่อแม่แบ่งปันให้ ชาวบ้านอยากมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่รู้สึกเสียดายความเจริญที่ทางโรงไฟฟ้าจะมอบให้เลย และถึงแม้ว่าทางบริษัทฯ จะมีการทำสัญญาขึ้น ตนก็ไม่มีความมั่นใจ และไม่อยากไปขึ้นโรงขึ้นศาล ให้ชีวิตยุ่งยาก ชาวบ้านขอเสนอให้บริษัทย้ายไปสร้างที่ใหม่

นายสมหมาย กล่าวทิ้งท้ายว่า ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนของตนหากจะไปซื้อที่ดินที่อื่นต้องให้ชาวบ้านพร้อมใจกันยินยอมให้มีการสร้างโรงไฟฟ้า สำหรับที่คำสร้างไชย ผมถูกทาง อบต.และผู้ใหญ่บ้านต้ม ผมต้องเสียค่าซื้อที่ดิน 10 ล้าน เพราะ อบต.และผู้ใหญ่บ้าน ให้ความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างโรงไฟฟ้าได้ ซึ่งมีลายเซ็นให้ผมด้วย หากผมจะเอาเรื่องให้เป็นตัวอย่างผมจะฟ้องศาลปกครองเพื่อเรียกร้องค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อทาง อบต.และผู้ใหญ่บ้าน

ด้าน น.ส.สดใส สร่างโศรก และนายบุญชู สายธนู ตัวแทนชาวบ้านคำสร้างไชยกล่าวว่า หากทางบริษัทบัวสมหมาย จะยกเลิกการยื่นขอรับใบอนุญาตการประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าเชื้อเพลิงชีวมวล (แกลบ) ต่อทางกรมโรงงานอุตสาหกรรมจริง คณะทำงานชี้แจงข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนฯ ก็เป็นอันยกเลิกหรือหมดวาระลงโดยปริยาย ซึ่งบริษัทบัวสมหมายฯ ต้องประกาศการยุติการขอสร้างไฟฟ้าในคำสร้างไชยอย่างเป็นทางการต่อที่ประชุมของคณะทำงานฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 สิงหาคม นี้

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net