Skip to main content
sharethis

"นพดล ปัทมะ" เยือนสหรัฐฯ หวังขอเป็นตัวกลางเปิดเจรจาสันติภาพ แจงรัฐบาลไทยกล่าวหาเสื้อแดงเป็นผู้ก่อการร้าย "อภิสิทธิ์" เย้ยแค่รักษาผลประโยชน์ "ทักษิณ"

30 มิ.ย. 53 - แนวหน้ารายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ อดีต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวผ่านระบบวีดีโอลิงค์จากกรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐอเมริกา มายังประเทศไทย ระหว่างการเดินทางไปพบปะกับกลุ่มคนไทยในสรัฐอเมริกา นักวิชาการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารของประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แจงเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองภายในประเทศไทย

โดยนายนพดล กล่าวว่า ตนเดินทางมาถึงประมาณ 2-3 วันแล้ว การเดินทางมาครั้งนี้เป็นการเดินทางตามคำเชิญเพื่อเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในประเทศไทยในรอบ 1-2 เดือนที่ผ่านมา โดยตนได้พบปะกับคนไทยในสหรัฐรวมถึงภาคส่วนต่างๆในสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็นนักคิด นักวิชาการ สมาชิกฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารของสหรัฐ แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครบ้าง สื่อมวลชนคงเข้าใจทัศนคติรัฐบาลไทย

นายนพดล กล่าวว่า จุดประสงค์ของการมาสหรัฐอเมริกาเพื่อเสนอข้อมูล ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในประเทศไทยช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา ที่ทางสหรัฐอเมริกาได้ฟังจากรัฐบาลมามากพอสมควร ตอนนี้เราจะขอชี้แจงบ้าง ประกอบด้วย 1.ข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่าคนที่มาชุมนุมไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายแต่เพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรม 2. พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย และ3. ประเทศไทยต้องมีการปรองดองแท้จริง เพราะสหรัฐและไทยเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกัน หากประเทศไทยเข้มแข็งก็จะเป็นพันธมิตรที่เกื้อกูลกันได้ โดยตนได้นำเสนอการเจรจาสันติภาพ หรือ “Peace Talk” คือการเจรจาของทุกฝ่าย ขณะเดียวกันเราก็ไม่ขัดขวางเป้าหมายตามแผนสร้างความปรองดองหรือโรดแมป ของนายกรัฐมนตรี แต่ยืนยันว่าโรดแมป ของนายกรัฐมนตรีไทยไม่ใช่การปรองดองที่แท้จริง แต่เป็นวิธีการปฏิรูปสังคมระยะยาว เช่น ข้อสามบอกว่าจะปฏิรูปสื่อ แต่รัฐบาลกลับสั่งปิดเว็บไซต์ วิทยุชุมชนของฝ่ายเสื้อแดง

“ผมเข้าใจว่าในการประชุมพรุ่งนี้ รัฐสภาสหรัฐอเมริกาอาจมีการออกข้อมติใน 2 ประเด็นคือ 1.รัฐสภาสหรัฐสนับสนุนการเจรจายุติปัญหาทางการเมืองโดยการพูดคุยและ 2.สนับสนุนเป้าหมายของโรดแมป ของนายรัฐมนตรีไทย ทั้งนี้เราได้เสนอการเจรจาสันติภาพ ให้ทางสหรัฐอเมริกาได้เข้าใจว่าคนเสื้อแดงที่มีจำนวนมากในประเทศไทยนั้น พร้อมและต้องการที่จะปรองดองกับทุกคนในชาติ เพื่อให้ชาติเดินต่อไปได้ แต่เราก็ต้องยอมรับว่าถ้าใครกระทำผิด ในตลอด 2 เดือนที่ผ่านมาก็ต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งผมคิดว่าประเทศไทยสามารถปรองดองกันได้ หากรัฐบามีความจริงใจหรืออย่างน้อยก็ควรพิจารณายกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้วปล่อยตัวผู้ถูกกล่าวหาทางการเมือง หรืออย่างน้อยก็ควรแจ้งข้อกล่าวหาที่ชัดเจนโดยเร็วที่สุด ไม่ใช่การกักขังไว้โดยไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ” นายนพดล กล่าว

นายนพดล กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้เป็นการมาเพื่อเชื้อเชิญให้สหรัฐฯ แทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย แต่เป็นการมาชี้แจงเหตุการณ์ในประเทศไทยให้ทุกคนเข้าใจถึงจุดยืนสิ่งที่คนเสื้อแดงได้เรียกร้อง รวมไปถึงจุดยืนและท่าทีของ พ.ต.ท.ทักษิณ และสถานการณ์ล่าสุดในประเทศไทย เกี่ยวกับการคง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการละเมิดสิทธิของประชาชน ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์อาจจะกล่าวหาว่าเรามาเพื่อชักศึกเข้าบ้าน แต่ยืนยันได้ว่าเป็นการมาสร้างความมั่นใจให้กับชาวต่างประเทศ ซึ่งก็มีกระแสตอบรับกลับมาชัดเจนว่าหลายคนเข้าใจสถานการณ์ในประเทศไทยมาก และรับทราบเกี่ยวกับตัวละครต่างๆดีพอๆกับคนไทยที่อยู่ในประเทศไทย แม้จะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนบ้างก็ได้ชี้แจงไป

“โดยภาพรวมคือทางสหรัฐอเมริกาอยากเห็นความปรองดองของแต่ละฝ่าย โดยควรจะหาทางเจรจากันด้วยการที่ทุกฝ่ายโอนอ่อนผ่อนปรนบางเรื่อง และอย่าถือว่าอีกฝ่ายคือผู้ก่อการร้ายและตั้งป้อมว่าจะไม่มีการเจรจาพูดคุยกับผู้ก่อการร้าย โดยยังไม่มีการพิสูจน์ความผิด และพี่น้องคนไทยไม่ใช่ศัตรูของชาติ แต่เป็นคนที่พร้อมจะคุยและพัฒนาบ้านเมืองร่วมกัน ที่สำคัญคือทุกฝ่ายสามารถเดินหาเสียงได้ในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศได้โดยไม่มีปัญหา” นายนพดล กล่าว

ทั้งนี้สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ว่า นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า เขาหวังว่ารัฐบาลสหรัฐจะเข้ามาเกี่ยวพันกับสถานการณ์ในเมืองไทยมากกว่านั้ โดยสหรัฐสามารถใช้ช่องทางกระตุ้นให้รัฐบาลไทยพิจารณาถึงข้อเสนอของเราได้ การกระทำเช่นนี้ไม่การแทรกแซงการเมืองไทย แต่เป็นการให้คำแนะนำแก่มิตรของสหรัฐ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา และว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับไทยเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าหากเพื่อน(ประเทศไทย)อ่อนแอ หรือแตกแยก เพื่อนของสหรัฐก็จะไม่สามารถบรรลุศักยภาพที่มีอยู่ได้

นอกจากนี้ นายนพดล ยังได้กล่าวหารัฐบาลไทยว่า นำเสนอภาพกลุ่มเสื้อแดงอย่างผิด ๆ ต่อสหรัฐว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย ทั้งที่จริงคนเหล่านี้เป็นเพียงเกษตรกรชาวไร่ชาวนาที่รักประชาธิปไตย และไม่ชอบการเมืองแบบสองมาตรฐาน อย่างไรก็ตาม นายนพดลปฎิเสธว่า เขามีแผนจะพบกับนักการเมืองรายใดของสหรัฐ แต่นักการทูตระบุว่า เขาจะพบปะกับสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐ

รายงานระบุว่า การเยือนของนายนพดลมีขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ได้ส่งตัวแทนพิเศษของไทย ไปยังกรุงวอชิงตัน เพื่ออธิบายถึงแผนปรองดองแห่งชาติของสหรัฐ แก่ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ ซึ่งตัวแทนดังกล่าวชี้ว่า แผนปรองดองดังกล่าวไม่น่าจะขจัดความตึงเครียด และสถานการณ์อาจยุ่งยากได้ในอนาคต

"นายกฯ" เย้ย "นพดล" แจงมะกันแค่รักษาผลประโยชน์นายปัดปรองดองซื้อเวลาแม้ยากก็ต้องทำ ไม่เสียกำลังใจที่ "เติ้ง" หยัน
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 30 มิ.ย.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางไปให้ข้อมูลด้านการเมืองไทยกับทางการสหรัฐซึ่งจะเป็นข้อมูลที่ตรงข้ามกับฝ่ายรัฐบาลจะเป็นปัญหาหรือไม่ว่า คงไม่เป็นปัญหา เพราะความจริงคือความจริง และผ่านมาทางสหรัฐฯมีความเข้าอกเข้าใจดี สมาชิกสภาของสหรัฐฯมีความใกล้ชิดติดตามสนใจเรื่องราวของประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนประเทศไทยอย่างเต็มที่

เมื่อถามว่าไม่คิดว่าจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเป็นการเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของไทยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "เขาต้องพยายามนำเสนอสิ่งที่เป็นประโยชน์ของนายเขาอยู่แล้ว ผมมีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของประเทศ ส่วนคุณนพดลจะรักษาผลประโยชน์ของนายเขาก็เป็นหน้าที่ของเขา ผมก็อยากให้เขามารักษาผลประโยชน์ของประเทศมากกว่า แต่เป็นเรื่องที่เขาเลือกเอง"

เมื่อถามว่า กลไกของรัฐที่จะดำเนินการรับมือเรื่องนี้เพียงพอหรือไม่ และจำเป็นต้องจ้างบริษัทประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เวลานี้กลไกลที่มีทำงานเต็มที่แต่จริงๆแล้วประชาชนทุกคนสามารถช่วยได้ ปัจจุบันตนเห็นประชาชนที่ต้องการเห็นภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ความเข้าใจที่ถูกต้องเผยแพร่ออกไปเขาก็แสดงออกได้หลายรูปแบบ ขณะนี้รัฐบาลวางกลไกแต่ละด้านอยู่โดยกระทรวงการต่างประเทศเป็นหลัก

ปัดปรองดองซื้อเวลาแม้ยากก็ต้องทำ
นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่ากระบวนการปรองดองแห่งชาติจะไม่มีวันสำเร็จได้ทั้งในชาตินี้และชาติหน้า ว่า ตนคิดว่ามันเป็นงานยากไม่มีใครปฏิเสธความยากของงาน มันยากแต่จำเป็นต้องทำ ตนมีหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯเสียกำลังใจกับคำพูดของนายบรรหารหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ไม่หรอก จริงๆแล้วภาระของเรื่องนี้มันไม่ได้ตกอยู่กับรัฐบาลฝ่ายเดียว ขณะนี้มีหลายฝ่ายเข้ามาร่วมกันทำ มันเป็นภาระของทุกคนและถ้าไม่สำเร็จคนที่เดือดร้อนคือคนไทยทุกคน เป็นเรื่องที่เราต้องสร้างความตื่นตัวให้ทุกคนเข้าใจ ถ้าไปคิดว่าเป็นเรื่องยากแล้วไม่ต้องทำหรือปล่อยให้คนอื่นทำมันยิ่งไม่สำเร็จ เวลามันไม่สำเร็จไม่ต้องเป็นห่วงเพราะรัฐบาลสามารถทำงานไปตามปกติได้ แต่สิ่งที่จะเดือดร้อนคือประชาชน หากงานปฏิรูปงานปรองดองไม่สำเร็จจะกระทบงานทุกงาน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชน ประชาชนเองจะเดือดร้อนขึ้น

เมื่อถามว่าปัญหาคือแม้แต่ผู้ใหญ่ในพรรคร่วมรัฐบาลอย่างนายบรรหารยังไม่เข้าใจ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่ไม่เข้าใจ คิดว่าจากประสบการณ์ของท่านคงเป็นเรื่องยากมาก แต่เรามีหน้าที่ที่ต้องทำให้ได้ ตนคิดว่าในช่วง 4-5 เดือนข้างหน้าจะมีความชัดเจนในกระบวนการปฏิรูปปรองดองเพราะกลไกเริ่มเดินแล้ว แต่ขึ้นอยู่กับบรรยากาศความร่วมมือความเอาจริงเอาจังเอาใจใส่ของผู้ที่เกี่ยวข้อง นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการปฏิรูปมีความพร้อมเต็มที่

เมื่อถามว่านายบรรหารบอกว่าจะปรองดองจะเกิดขึ้นได้ต้องยอมทุกอย่างในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่หรอก นั่นไม่ใช่แนวคิดของเราในเรื่องการไปยอม ตนย้ำไปแล้วเรื่องปรองดองไม่ใช่เป็นเรื่องไปปรองดองกับใคร เป็นเรื่องการปรองดองที่จะทำให้เกิดขึ้นกับสังคมในภาพรวม

เมื่อถามว่ามีการมองว่าการตั้งกรรมการปฏิรูปปรองดองต่างๆขึ้นมาเป็นการซื้อเวลาของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ได้ซื้อเวลา ตั้งหรือไม่ตั้งอายุรัฐบาลก็เท่าเดิม การทำงานต่างๆก็เหมือนเดิมเพียงแต่เรากำลังบอกกับสังคมว่าปัญหาในช่วง 2-3 เดือนหรือ 2-3 ปีที่ผ่านมาถ้าไม่คิดจริงจังถึงงานในโครงสร้าง หรืองานที่มันเกินอายุรัฐบาลหรือนายกฯคนนั้นคนนี้ เราจะอยู่ในวังวนอย่างนี้ไปเรื่อยซึ่งคิดว่าคนไทยไม่ควรยอมอย่างนั้น ตนคิดว่าคนไทยอยากให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนเดินไปข้างหน้าพ้นจากวงจรนี้ไปสักที ดังนั้นก็ต้องทำ มันไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับรัฐบาลว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ ซื้อเวลาหรือไม่ซื้อเวลา รัฐบาลจะอยู่จะไปคณะกรรมการปฏิรูปฯก็ทำงานได้อยู่แล้วไม่เกี่ยวกันเลย

บัวแก้วจับตาความเคลื่อนไหว "นพดล" ในวอชิงตัน
นายธานี ทองภักดี รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. รายงานมายังกระทรวงการต่างประเทศ ถึงการเดินทางเยือนของนายนพดล ซึ่งเชื่อว่าการเดินทางของนายนพดลเพื่อพบปะกับกลุ่มต่างๆ ในสหรัฐ ไม่มีผลต่อการทำความเข้าใจกับสหรัฐถึงสถานการณ์การเมืองของไทย เนื่องจากสหรัฐมีความเข้าใจดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นในไทย ทั้งในส่วนที่กระทรวงการต่างประเทศชี้แจง และสหรัฐติดตามสถานการณ์ในไทยด้วยตัวเอง จึงเชื่อว่าสหรัฐเข้าใจว่าอะไรดี จึงไม่มีเรื่องใดที่ควรห่วงกังวล

ประธานผู้แทนการค้าไทยมึน “นพดล” พูดเป็นนัย ไม่เจรจา“แม้ว” ปัญหาไม่จบ
นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ภายหลังทราบข่าวว่า นายนพดล ปัทมะ แถลงข่าวข้ามประเทศ โดยมีการคาดการณ์ว่า รัฐสภาสหรัฐอเมริกาจะนำเรื่องความขัดแย้งในประเทศไทยเข้าพิจารณาเพื่อหนุนแนวทางเจรจาภายในประเทศ เพื่อยุติความขัดแย้ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายเกียรติกล่าวว่า ยังไม่ทราบข่าว แต่ไม่น่าเป็นไปได้ขนาดนั้น อย่างมากน่าจะเป็นในระดับกรรมาธิการ ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกามีความชัดเจน รวมถึงวุฒิสภาและ ส.ส. ประชุมและมีท่าทีชัดเจนแล้วเช่นกัน ว่าหนุนแนวทางปรองดองของนายกรัฐมนตรี ซึ่งตนเองแปลกใจว่า การออกมาพูดเรื่องการเจรจาของนายนพดลมีนัยแอบแฝงหรือไม่ เนื่องจากการเปิดประเด็นเรื่องการเจรจาขึ้นมาอีก หมายความว่า หากไม่มีการพูดคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ปัญหาจะไม่จบหรืออย่างไร ซึ่งกรณีนี้ตนเองมองว่า การเคลื่อนไหวของนายนพดลเสมือนหนึ่งว่ามี พ.ต.ท.ทักษิณ อยู่เบื้องหลังแม้ว่าจะปฏิเสธมาตลอดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายเกียรติ เดินทางไปพูดคุยกับ ส.ส., ส.ว. ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา กลุ่มนักคิด นักวิชาการ และคนไทยในสหรัฐอเมริกา รวมถึงกลุ่มนักธุรกิจ เพื่ออธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศไทยไปแล้ว รวมถึงแจงวิธีการดำเนินการในแต่ละช่วง และความพยายามในการเจรจากับทางแกนนำผู้ชุมนุม จนกระทั่งเหตุการณ์การเข้ากระชับพื้นที่ ซึ่งสหรัฐอเมริกายืนยันว่า เข้าใจดีในสิ่งที่รัฐบาลทำ

ที่มาข่าวเรียบเรียงจาก: แนวหน้า, คมชัดลึก, มติชน
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net