Skip to main content
sharethis
สบท.เตือน พกมือถือเที่ยวเมืองนอก-เมืองชายแดนช่วงปีใหม่ ระวังการใช้บริการโรมมิ่ง มิเช่นนั้นอาจต้องจ่ายเงินอาน แนะควรเลือกเปิดบริการเท่าที่จำเป็น รู้เท่าทันเครื่องที่ใช้ ศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน

 
สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) เผยแพร่ข้อมูล เตือนคนไทยที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หรือบริเวณจังหวัดชายแดนต่างๆ หากเคยสมัครใช้บริการโรมมิ่งโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือการเชื่อมต่อโครงข่ายระหว่างประเทศไว้ ควรสอบถามและตรวจสอบกับเครือข่ายที่ใช้บริการก่อนว่า บริการโรมมิ่งที่เปิดไว้ครอบคลุมด้านใดบ้าง เช่น การโรมมิ่งเสียง โรมมิ่งดาต้า โรมมิ่งเอสเอ็มเอส และควรกำหนดการใช้ตามความจำเป็น โดยสามารถเลือกปิดบริการที่ไม่จำเป็น เช่น ขอโรมมิ่งเฉพาะเสียง แต่ปิดเอสเอ็มเอสและดาต้าหรือการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
 
ข้อมูลของ สบท.ระบุด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา สบท.ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีการถูกเรียกเก็บค่าบริการการใช้บริการโรมมิ่งในอัตราที่สูงมาก ทั้งที่ไม่มีการใช้งาน หรือใช้งานเพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะในส่วนของการโรมมิ่งดาต้า หรือการเปิดบริการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ซึ่งผู้ให้บริการจะเปิดให้เลย ขณะที่โทรศัพท์รุ่นใหม่จะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอัตโนมัติ และบางกรณีเลือกเชื่อมสัญญาณที่ดีที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ใช่เครือข่ายที่มีการทำข้อตกลงกับเครือข่ายผู้ให้บริการทางเมืองไทย 
 
“ใครที่เปิดโรมมิ่งเที่ยวต่างประเทศ ให้ระบุว่าจะเปิดบริการ GPRS ด้วยหรือไม่ ส่วนใครที่ต้องการใช้โรมมิ่งจริงๆ ให้เลือกแพ็คเกจราคาพิเศษ ทั้งการโทรและการต่อเน็ต เพราะหากไม่เลือกแพ็คเกจพิเศษ ค่าบริการจะแพงมาก และให้ตรวจสอบการจำกัดวงเงินการใช้งานด้วย เพราะบางเครือข่ายจำกัดวงเงินการใช้ในต่างประเทศได้ บางเครือข่ายจำกัดไม่ได้ ทำให้บางรายโดนเรียกเก็บค่าใช้อินเตอร์เน็ตในต่างประเทศนับแสนบาท” นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา ผู้อำนวยการ สบท.กล่าว
 
ทั้งนี้ เมื่อเร็วๆ นี้ สบท.เพิ่งได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศและได้สมัครใช้บริการโรมมิ่งในแพคเก็จการใช้งานแบบไม่จำกัด แต่ปัญหาก็เกิดขึ้นเมื่อกลับมาและได้รับบิลเรียกชำระค่าบริการเป็นเงินมากกว่า 300,000 บาท นอกจากนี้ยังมีกรณีที่ผู้ใช้บริการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น และได้รับเอสเอ็มเอสรบกวน ซึ่งถูกเรียกเก็บค่ารับเอสเอ็มเอสในภายหลังด้วย
 
ปัญหาการโรมมิ่งยังเกิดขึ้นในกรณีของผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวหรือทำธุระบริเวณชายแดนภายในประเทศ หากมีการสมัครบริการโรมมิ่งไว้ก่อนและตัวเครื่องตั้งระบบเชื่อมต่อสัญญาณอัตโนมัติ ทำให้เครื่องโทรศัพท์จับสัญญาณของประเทศเพื่อนบ้าน กลายเป็นต้องเสียค่าโทรในอัตราต่างประเทศโดยไม่รู้ตัว
 
ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาต่างๆ เหล่านี้ สบท. จึงแนะนำว่า หากไม่จำเป็นต้องใช้บริการใดในระหว่างการเดินทางไปต่างประเทศ ก็ควรแจ้งระงับกับเครือข่ายผู้ให้บริการก่อนออกเดินทาง และที่สำคัญต้องเข้าใจระบบการทำงานของเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ตัวเองใช้อยู่ รวมถึงต้องตรวจสอบเกี่ยวกับบริการโรมมิ่งของเครือข่ายที่ใช้บริการ เพราะในปัจจุบัน สำหรับเครือข่ายดีแทคจะคิดค่าบริการทันทีเมื่อมีสายเรียกเข้า แม้จะไม่มีการรับสายก็ตาม หรือหากมีการโทรออกแม้จะไม่มีผู้รับสาย ผู้ใช้บริการก็ต้องเสียค่าโทรศัพท์ขั้นต่ำ 1 นาที แต่สำหรับเครือข่ายอื่น เช่น เอไอเอสและทรูมูฟ จะไม่คิดค่าบริการหากไม่มีการรับสาย ยกเว้นถูกตัดสัญญาณเข้าบริการรับฝากข้อความ ดังนั้นผู้ใช้บริการเอไอเอสและทรูมูฟจึงควรยกเลิกการใช้บริการรับฝากข้อความก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เป็นต้น
 
ส่วนผู้เดินทางไปใกล้ชายแดน ให้ตรวจสอบด้วยว่า สัญญาณโทรที่ใช้อยู่ตอนนั้นเป็นสัญญาณของประเทศเพื่อนบ้านหรือไม่ หรืออาจป้องกันปัญหาด้วยการปิดระบบการเชื่อมต่ออัตโนมัติ เลือกตั้งเป็นระบบการเลือกเครือข่ายด้วยตัวเอง หรือโทรไประงับบริการโรมมิ่งในขณะที่ไม่ได้เดินทางไปต่างประเทศ
 
“ขณะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลของการพักผ่อนวันหยุดและการเดินทาง จึงอยากให้ผู้ใช้บริการมือถือระมัดระวังในการใช้บริการโรมมิ่งและการใช้โทรศัพท์มือถือ เพราะอาจทำให้เราหมดสนุก เมื่อกลับมาแล้วพบว่า ถูกคิดค่าโทรแพงมากแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว” ผอ.สบท.กล่าว

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net