Skip to main content
sharethis
เสวนา"รวมพลังเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์"  'เสรี วงษ์มณฑา' แนะใช้หลักการตลาด-อัพข้อมูลโซเชี่ยลมีเดียในการต่อสู้ทักษิณ 'สมชาย แสวงการ' ชี้ 'พรรคการเมือง-กลุ่มทุน-นิติราษฎร์' ผนึกกำลังเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง

 

เมื่อวันที่วันที่ 29 เม.ย. 55 ที่ห้องประดิพัทธ์ตึกอำนวยการราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) มีการจัดเสวนา"รวมพลังเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" โดยเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน (เสื้อหลากสี)โดยมีวิทยากรร่วมเสวนา อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน เป็นต้น โดยมีผู้เข้าร่วมรับฟังประมาณ 300 คน
 
แจกสติ๊กเกอร์รูปทักษิณกินรธน.
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ผู้เข้าฟังส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และสวมเสื้อสีชมพูมารับฟังระหว่างการเสวนามีการแจกโปสเตอร์รูป พ.ต.ท.ทักษิณชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังจะกินรัฐธรรมนูญและมีข้อความว่า "รัฐธรรมนูญ รัฐไทยใหม่"และสติ๊กเกอร์ระบุข้อความว่า "แพงทั้งแผ่นดิน"ซึ่งก่อนหน้านี้นายวัชระ เพชรทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ เคยนำมาแถลงต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
 
เปิดโต๊ะล่าชื่อถอดถอนปู-399 สส.
 
นอกจากนี้ในงานเสวนามีการตั้งโต๊ะให้ผู้ร่วมรับฟังเสวนาเข้าชื่อถอดถอนคณะรัฐมนตรีทั้ง 36 คน ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯและ สส.399 คน ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายจากกรณีที่เสนอให้มีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญทำหน้าที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้จะมีการเปิดรับการล่ารายชื่อถึงวันที่ 30 เม.ย.นี้
 
พร้อมผนึกพธม.ต้านกม.ปรองดอง
 
นพ.ตุลย์ กล่าวว่า วันนี้มีการนัดมารวมตัวกันสังสรรค์ เพื่อกำหนดท่าทีว่าภาคประชาชนจะเอาประเด็นไหนที่จะไปบอกกับรัฐบาลว่า ควรทำอะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การปรองดองที่ไม่กดหัวประชาชน ซึ่งจะต้องปรองดองอย่างแท้จริงคนทำผิดต้องรับโทษ และหากมีการยื่นพ.ร.บ.ปรองดอง เข้าสภาเมื่อไหร่ ขอยืนยันว่ากลุ่มเสื้อหลากสีจะไปชุมนุมวันนั้นแน่นอนรวมถึงก่อนหน้านี้ทางกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.) นำโดย พล.ต.จำลองศรีเมือง แกนนำ พธม.ก็ออกมาประกาศจะออกมาเช่นกัน หากมีการออกพ.ร.บ.ปรองดองตรงนี้เป็นสัญญาณที่จะต้องออกมารวมพลังกันเพื่อต่อสู้อีกครั้ง
 
โหนวันแรงงานชุมนุมม็อบหลากสี
 
อย่างไรก็ตามในวันที่ 1 พ.ค.นี้ จะมีการรวมตัวของกลุ่มสมาพันธ์รัฐวิสาหกิจแห่งชาติ จัดกิจกรรมเนื่องในวันแรงงานที่หน้ารัฐสภา ซึ่งทางกลุ่มเสื้อหลากสีอยากจะเชิญชวนกลุ่มภาคประชาชนเข้ามาร่วมงานดังกล่าวโดยในกิจกรรมจะมีการเคลื่อนไหวไปเปิดการปราศรัยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และจะปิดท้ายที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ แยกคอกวัว
 
นพ.ตุลย์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่กลุ่มนิติราษฎร์ ยืนยันการแก้ไขมาตรา 112 นั้น ทางกลุ่มก็จะคัดค้านอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 และรายชื่อประชาชน25,000 คน ส่งไปที่รัฐสภาแล้ว
 
ปูพบป๋าแค่การแสดงละคร
 
ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าพบขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ นพ.ตุลย์กล่าวว่าเป็นการแสดงละครบทหนึ่ง ไม่คิดว่าพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายกฯ จริงใจกับพล.อ.เปรม เพราะดูจากเหตุการณ์ในอดีตมีการกล่าวหาว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้มีบารมีนอกรัฐธรรมนูญและไม่มีการนำรัฐมนตรีที่เคยมาประท้วงหน้าบ้าน พล.อ.เปรมเข้าไปด้วย
 
"ผมคิดว่าเป็นการแสดงความไม่จริงใจอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สังคมไทยคงรู้ทัน ส่วน พล.อ.เปรม ก็ต้อนรับในฐานะผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเท่านั้น แต่คนอื่นจะจริงใจกับท่านกับบ้านเมืองหรือไม่ ตรงนี้ไม่สามารถตอบได้" นพ.ตุลย์ กล่าว
 
'เสรี'อัดแม้วใช้อำนาจย่ำยีชาติ
 
ด้านนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน กล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณใช้อำนาจย่ำยีประเทศไทย สิ่งที่ประจักษ์ชัด คือคนที่อยู่ข้างเขาได้อะไร อยู่ตรงข้ามแล้วเสียอะไรทำให้คนไทยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 1.พวกไม่เห็นด้วยแต่แสดงออก 2.พวกไม่เห็นด้วยแต่อยู่เฉยๆ 3.พวกเห็นด้วยและช่วยเหลือ4.พวกเห็นด้วยเพื่อรอผลประโยชน์ โดยพวก2 กลุ่มหลังมีเป็นจำนวนมากในประเทศไทยพร้อมพายเรือให้โจรนั่ง ซึ่งมีแกนนำเสื้อแดงบางคน ที่ได้ขึ้นเป็นรัฐมนตรีช่วย บอกว่าถึงเวลาที่ประเทศไทยต้องพ้นจากอำมาตย์จะบริหารโดยฟังเสียงส่วนใหญ่ประชาชน ถ้าจะทำได้นั้น คนของเราต้องคิดเป็นไม่เห็นแก่ตัวแต่บ้านเมืองเรามีเสียงส่วนใหญ่ที่เห็นแก่ตัว
 
เตือนสื่อมวลชนกำลังถูกครอบงำ
 
นายเสรี กล่าวต่อว่า ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าเสียดาย เนื่องจากเป็นคนเก่ง แต่ทำตัวเป็นคนตีนลอย ไร้จุดยืน กลัวเสียอำนาจ กลัวธุรกิจรับผลกระทบ จึงเลือกไปรับใช้นักโทษชาย ซึ่งเป็นอันตรายมาก โดยสถานการณ์ในขณะนี้ หากใครแสดงจุดยืนเป็นปรปักษ์กับรัฐบาล ชีวิตไม่ต้องได้อะไรแล้ว เพราะบรรดาสส.และสื่อมวลชนในประเทศไทย กำลังถูกครอบงำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และที่ผ่านมาถ้าสังเกตจากการทำงานของรัฐสภา ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีการอภิปรายให้เสียเวลาเนื่องจากมีการใช้เสียงข้างมากลากไป ไม่สนใจเสียงข้างน้อย โดยอาศัยช่องทางการโหวตเป็นการตัดสิน ตรงนี้ไม่แตกต่างอะไรกับคำว่าเผด็จการตัวจริง ที่พร้อมใช้เสียงประชาชน15 ล้านเสียงมาเป็นข้ออ้าง
 
เย้ยปูพัฒนาอย่างเดียวคือแต่งตัว
 
"นักโทษชายย่ำยีประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ออกจากประเทศ ไม่เคยทำตัวสงบเลย รวมถึงทำลายภาพลักษณ์ประเทศอย่างหนัก เพราะเขามีจิตใจที่อยากเอาชนะ โดยใช้เงินซื้อทุกสิ่งทุกอย่าง ก่อนหน้านี้มีคนเคยบอกว่า เมื่อไหร่จะก้าวข้ามทักษิณตรงนี้จะข้ามได้อย่างไร หากทักษิณยังเคลื่อนไหวทั้งการโฟนอินเวทีเสื้อแดง การให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ หรือกรณีไปประเทศกัมพูชาและลาว ตรงนี้หากอยากให้ก้าวข้ามให้พ้นทักษิณต้องสงบสักที นอกจากนี้ในฐานะพี่ชายคนโตต้องรู้ว่าน้องตัวเองไร้คุณภาพแค่ไหนไม่รู้หรือแต่อุตส่าห์จับมาเป็นหุ่นเชิดเป็นนายกฯ หากมองประเทศไทยศักดิ์สิทธิ์และมีคุณค่าย่อมไม่ทำ โดยเธอเป็นนายกฯมากว่า 7-8 เดือนพัฒนาได้อย่างเดียวคือเสื้อผ้าหน้าผมเหมือนตุ๊กตาบาร์บี้เท่านั้น" นายเสรี กล่าว
 
แฉแผนแยบยลทำลายสถาบัน
 
นายเสรี กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้เรื่องการถวายฎีกาเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้ทำตามกระบวนการแต่เป็นการวางแผนอย่างแยบผลและสัปดนที่สุด โดยการล่ารายชื่อประชาชน ที่สร้างความเข้าใจผิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านไม่ได้เพราะไม่มีพระกรุณาฯ รวมถึงมีความพยายามเชื่อมโยงการกระทำในลักษณะนี้ ถึงวันสำคัญต่างๆ ที่จะมีขึ้นต่อไป อย่างในวันที่ 12 ส.ค.ตรงนี้เป็นการทำลายสถาบันอย่างรุนแรงทั้งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศไทยวันนี้ก็กลับได้ แต่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่อยากเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย เนื่องจากกลัวติดคุก แต่กลับยังย่ำยีประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่องโดยพยายามที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เหลืออำนาจเพียง 2 ขา คือ ให้เหลือฝ่ายบริหารกับนิติบัญญัติ โดยตัดตุลาการออก เพื่อจะได้กลับบ้านอย่างเท่ๆ อย่างที่ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่บำรุง รองนายกฯ เคยบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับบ้านแบบไร้มลทิน ไม่ต้องติดคุก
 
ปลุกระดมก่อม็อบออนไลน์สู้แม้ว
 
"ส่วนในเรื่องความปรองดองที่รัฐบาลพยายามทำในขณะนี้ เปรียบเสมือนกับเสื้อคลุมเท่านั้น เพราะเมื่อถอดเสื้อคลุมปรองดองออกก็จะพบเนื้อแท้เรื่องการนิรโทษกรรม ที่สอดใส่อยู่ข้างในอย่างแยบยล" นายเสรี กล่าวพร้อมกับฝากให้ทุกคนกลับบ้านไปคุยกับคนอื่นๆอย่างน้อย 1 ต่อ 10 คน และบอกต่อกันไปเรื่อยใช้หลักการตลาด อัพข้อมูลเฟซบุ๊คส่งต่อ โดยใช้โซเชี่ยลมีเดียในการต่อสู้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
 
ปูดขบวนการแปลี่ยนแปลงการปกครอง
 
ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สว.สรรหา กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่ามีกลุ่มหนึ่งที่ทำงานอยู่บนชั้น 26 บริเวณถนนวิภาวดีใกล้กับห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าวพยายามวางแผนต่างๆ ก่อนหน้านี้เคยวางแผนเรื่องการขออภัยโทษ แต่กลับไม่สำเร็จ หลังจากนั้นจึงมีการเตรียมการเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญการออก พ.ร.บ.ปรองดอง รวมถึงความพยายามที่จะดึงคนเสื้อแดงให้สู้เพื่อพวกเขาอีกครั้ง โดยการจ่ายเงินเยียวยาจำนวน 7.5 ล้านบาท พร้อมกับการเคลื่อนไหวแบบคู่ขนานทั้งจากฝ่ายพรรคการเมือง กลุ่มทุน รวมถึงกลุ่มนิติราษฎร์ ผนึกกำลังกันเพื่อจะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง
 
จับตา'ดามาพงศ์'ต่อคิวนั่งนายกฯ
 
นายสมชายกล่าวต่อว่า ขณะนี้คนไทยมีนายกฯ ที่มีนามสกุลร่วมเครือญาติกัน 3 ราย คือ 1.ทักษิณ ชินวัตร 2.สมชายว งศ์สวัสดิ์ 3.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคนที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนต่อไป เป็นตำรวจนามสกุลดามาพงศ์ ที่ทาง พ.ต.ท.ทักษิณได้เตรียมการไว้แล้ว เพื่อใช้เครือญาติกินรวบประเทศไทย และอีกไม่นานจะมีเรื่องที่น่าหวั่นกลัว คือ ดร.วีรพงษ์ รามางกูร จะเป็นผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย จากนั้นจะมีการขึ้นภาษี (vat) 8.3 เปอร์เซ็นต์ มีการใช้เงินภาษีประชาชนไปจ่ายเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบ
 
ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันนี้จะเป็นการเขียนแบบพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน จากที่รัฐธรรมนูญมีอำนาจ 3 ฝ่าย ก็สามารถเขียนให้เหลือเพียงอำนาจนิติบัญญัติและอำนาจบริหารได้และอาจจะลามถึงการเขียนเปลี่ยนแปลงลงในหมวดที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ก็เป็นได้
 
ที่มาข่าว: หนังสือพิมพ์แนวหน้า
          

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net