Skip to main content
sharethis
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จฯ แปรพระราชฐานจากโรงพยาบาลศิริราช ยังพระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล ภายหลังจากการเข้ารักษาพระวรกายที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 3 ปี 10 เดือน
 
เมื่อเวลาประมาณ 16.25 น.วันนี้(1ส.ค.56) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ลงจากชั้น 16 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เพื่อเสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
 
โดยทันทีที่รถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนออกมาช้าๆ จากชั้นใต้ดินของอาคารเฉลิมพระเกียรติ เสียงถวายพระพร "ทรงพระเจริญ" ดังกึกก้องทั่วโรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรที่เฝ้าฯรับเสด็จฯหลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความปีติที่ได้เห็นทั้งสองพระองค์มีพระพักตร์แจ่มใส โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์ผ้าไหมสีส้ม และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฉลองพระองค์ผ้าไหมสีฟ้า ทรงโบกพระหัตถ์ และแย้มพระสรวลให้กับพสกนิกรที่มาเฝ้าฯรับเสด็จฯ
 
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2552 จนกระทั่งถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่จะเสด็จฯ กลับไปประทับ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะเวลาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ประมาณ 3 ปี 10 เดือน โดยมีแถลงการณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินมาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 65 ฉบับ
 
ขณะที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระชนมพรรษา 80 พรรษา ทรงเข้ารับการรักษาพระอาการประชวรที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกัน เมื่อช่วงปีที่แล้ว ซึ่งสำนักพระราชวังออกแถลงการณ์ระบุเพียงว่า สมเด็จพระราชินีทรงประชวรด้วยพระอาการที่เกี่ยวข้องกับความดันพระโลหิตและระบบการทำงานของพระหทัย และแถลงการณ์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระประชวรขณะประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช รวมทั้งหมด 14 ฉบับ
 
 
หมอแถลงในหลวงราชินีแข็งแรงเสด็จฯ พักผ่อนวังไกลกังวล
 
ศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยถึง พระอาการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ว่า ทั้งสองพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงดี จึงทรงมีพระราชประสงค์ เสด็จพระราชดำเนินไปประทับ ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการชั่วคราว เพื่อทรงเปลี่ยนพระราชอิริยาบถ ภายหลังที่ทรงประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช มาเป็นระยะเวลา 3 ปี กับ 10 เดือน
 
โดยกล่าวอีกว่า การที่ทรงประทับ ณ โรงพยาบาล เป็นเวลานานนั้น  เนื่องจากจะต้องมีการพักฟื้นพระวรกาย จากพระอาการต่างๆ ที่ได้ถวายการรักษา และบางครั้งอาจมีภาวะแทรกซ้อนบ้าง ตามธรรมชาติของผู้สูงอายุ ส่วนพระอาการใน สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ นั้น ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงเช่นกัน สามารถพระดำเนินได้ดี แต่เพื่อความปลอดภัย จึงได้ กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ทรงประทับรถไฟฟ้าพระที่นั่งไปก่อน ทั้ง 2 พระองค์
 
อย่างไรก็ตาม การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ คณะแพทย์ผู้ถวายการดูแล จะได้มีการติดตามไปถวายการดูแลอย่างใกล้ชิดด้วย โดยได้มีการเตรียมความพร้อมถวายการดูแลทุกด้าน ทั้งที่ วังไกลกังวล และโรงพยาบาลหัวหิน พร้อมทั้งได้มีการ ฝึกซ้อมการถวายการดูแลทางเฮลิคอปเตอร์ เพื่อความไม่ประมาทด้วย
 
 
เมืองหัวหินพร้อมรับเสด็จในหลวง-ราชินีแล้ว
 
สำหรับบรรยากาศ ที่บริเวณหน้าวังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการเตรียมความพร้อม สำหรับรอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ  ที่มีหมายกำหนดการจากสำนักพระราชวังว่า ทั้ง 2 พระองค์ จะเสด็จพระราชดำเนินออกจากโรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพ ในช่วงเย็นของวันนี้ เวลา 16.00 น. เสด็จฯไปประทับเปลี่ยนพระอิริยาบถ ณ วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สร้างความปลื้มปีติให้กับประชาชนชาวประจวบคีรีขันธ์ และประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่ทราบข่าวดีว่า ทั้ง 2 พระองค์ ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์แล้ว
 
ล่าสุด นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหินและคณะ ได้เดินทางมาตรวจความพร้อมในทุกด้านที่บริเวณหน้าวังไกลกังวล โดยได้ให้เจ้าหน้าที่ เร่งฉีดน้ำทำความสะอาด ถนนเพชรเกษม ที่ผ่านหน้าวังไกลกังวลทั้งหมด พร้อมทั้งตรวจความพร้อมเรื่องไฟส่องสว่างด้วย เนื่องจากคาดการณ์ว่า รถพระที่นั่งจะถึงหน้าวังไกลกังวล ราว 18.00 น. ซึ่งเป็นช่วงใกล้ค่ำ จะต้องมีการเปิดไฟส่องสว่างให้สวยงามตลอดเส้นทางเสด็จด้วย โดยขณะนี้ในภาพรวมของการเตรียมการรับเสด็จถือว่ามีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ แล้ว
 
 
 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net