Skip to main content
sharethis

เปิดใจเหยื่อเมื่อถูกเผาสถานประกอบการ ในช่วงปลายรอมฎอน ทั้งชีวิตที่ทุ่มสุดตัว วันนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว ขอบคุณรัฐที่ช่วยเหลือเต็มร้อย มองหนทางสันติภาพไม่อาจแก้ปัญหาได้ในเร็ววัน หวังคนรุ่นใหม่นำความคิดใหม่ๆ มาดับไฟใต้ ยอมรับเป็นปัญหาที่แก้ยากจริงๆ หวังอยากเห็นสันติสุขจึงสนับสนุนการพูดคุยสันติภาพ


ถูกวางเพลิง - ครอบครัวจันทร์รัตน์ ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงร้านเฟอร์นิเจอร์ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา ไปถึง 2 สาขา เสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท

 


เหตุลอบวางเพลิงเผาสถานการณ์ประกอบการณ์หลายแห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 2 อำเภอในจังหวัดสงขลาเมื่อกลางดึกของวันที่ 1 ต่อเนื่องจนถึงวันที่ 2 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายหลายร้อยล้านบาท แต่ก็เป็นความเสียหายที่รัฐบาลพร้อมให้ความช่วยเหลือเยียวยาเต็ม 100%

เหตุลอบวางเพลิงดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฏอน เกิดขึ้นพร้อมเหตุลอบวางระเบิดวันเดียว 16 จุด เป็นเหตุที่เกิดขึ้นในอ.เมือง จ.ยะลา 6 จุด โดยเฉพาะเหตุเผาโรงงาน 5 แห่ง ได้แก่ โรงงานไม้ยาง สาย 15 ยะลาไพบูลย์กิจ เลขที่ 93 ถนนเฉลิมชัย ต.สะเตง โรงงานยางไทยปักษ์ใต้ ต.ท่าสาป โรงงานยูเนี่ยนพลาสติก หมู่ที่ 6 ต.ลำใหม่ โรงงานผลิตท่อปูนซีเมนต์ หมู่ที่ 2 ต.ลิดล และโรงงานไม้แปรรูปยะลาธารทอง หมู่ที่ 7 ต.บุดี

ส่วนที่จ.ปัตตานี มีเหตุลอบวางเพลิงร้านค้า 3 แห่งใน อ.โคกโพธิ์ โดยเฉพาะเหตุวางเพลิงบริษัทพิธานพานิชย์ จำกัด สาขานาเกตุ ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหาย 64 คัน และเหตุวางเพลิงอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นติดกัน 11 คูหา ทำให้ร้านค้าหลายหลังถูกเผาเสียหายอย่างหนัก ขณะที่ จ.สงขลา มี 3 จุด โดยเฉพาะร้านเฟอร์นิเจอร์บริเวณสี่แยกลำไพล อ.เทพา ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

หลังจากนั้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2556 พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายประชา ประสพดี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยและคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยมอบเงินเยียวยาให้บางส่วน พร้อมกับระบุว่านายกรัฐมนตรีสั่งการให้ช่วยเหลือเต็ม 100% ของมูลค่าความเสียหาย

ระหว่างที่ พล.ต.อ.ประชา เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของนางบุญทิม จันทร์รัตน์ เจ้าของร้านนิคมเทพาเฟอร์นิเจอร์ เลขที่ 219/29 หมู่ที่ 3 ต.ท่าม่วง อ.เทพา จ.สงขลา ได้มอบเงินช่วยเหลือไปก่อน 500,000 บาท จากทั้งหมด 8,500,000 บาท และมอบเงินช่วยเหลือให้นางสุภาวดี จันทรัตน์ บุตรสาว ซึ่งเป็นเจ้าของร้านนิคมเทพาเฟอร์นิเจอร์สาขา 3 เลขที่ 304 หมู่ 1 ต.ลำไพล อ.เทพา ไปก่อน 1,500,000 บาท จากทั้งหมด 22,000,000 บาท และมอบให้นายชาย พุทธิพรเดชา ซึ่งร้านค้าถูกไฟไหม้อีก 500,000 บาท

พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า รัฐบาลโดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยต่อประชาชนในพื้นที่ สั่งกำชับเร่งเยียวยาโดยเร็วที่สุด อย่างน้อยเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้สามารถดำเนินชีวิตประจำวันเบื้องต้นได้อย่างปกติก่อน และจะเร่งรัดเงินช่วยเหลือที่เหลือให้อย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้ประกอบอาชีพต่อไป

จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับผลกระทบจุดอื่นๆในพื้นที่และเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไม่สงบที่โรงพยาบาลปัตตานี ก่อนจะเข้าร่วมประชุมเพื่อรับฟังสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้

นางสุภาวดี จันทร์รัตน์ เจ้าของร้านนิคมเทพาเฟอร์นิเจอร์ อ.เทพา จ.สงขลา หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์เพลิงไหม้ กล่าวด้วยน้ำตานองหน้าว่า ความรู้สึกวินาทีที่ทราบข่าว เหมือนสิ้นสลายไปทุกอย่าง สิ่งที่เราลงทุนไป พังลงไปในพริบตาเดียว ทรัพย์สินเสียหายทั้งหมดประมาณ 22-25 ล้านบาท เวลากว่า 30 ปีที่พ่อสร้างมาให้ ตนไม่เหลืออะไรเลย โชคดีในวันที่เกิดเหตุ ตนไม่ได้อาศัยอยู่ในบ้าน ซึ่งปกติตนจะพักบ้านหลังที่เกิดเหตุ ขณะที่ย้ายสาขาจาก 3 สาขาได้ไม่ถึง 6 เดือน

นางสุภาวดี กล่าวว่า ขอขอบคุณทางภาครัฐที่ช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็ว เพราะถ้าช้ากว่านี้ ไม่รู้ว่าตนกับลูกจะอยู่อย่างไร เพราะตัวคนเดียว สามีเสียชีวิต ต้องเลี้ยงลูกชายตามลำพัง มีหลายคนบอกให้ย้ายไปอาศัยที่อื่น แต่ตนเองไม่ยอมย้ายไปไหนอย่างเด็ดขาด เพราะบ้านเกิดอยู่ที่นี้และยืนหยัดว่าจะสู้ต่อไป จะต้องดำเนินชีวิตอยู่และดูแลกิจการของครอบครัวให้ดีที่สุด

ปัญหาที่แก้ยากกับการพูดคุยสันติภาพ
ด้านนายอุทิศ จันทร์รัตน์ บิดาของนางสุภาวดี ในฐานะผู้ก่อตั้งร้านนิคมเทพาเฟอร์นิเจอร์ กล่าวว่า ตอนนี้สภาพจิตใจแย่มาก หลับตายังเห็นภาพลูกไฟที่ลุกโพลงอยู่เลย คิดอยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ก็คงไม่ได้ย้าย หลังเกิดเหตุมีเพื่อนๆ หลายคน และหน่วยงานต่างก็มาช่วย ทำให้มีกำลังใจดีขึ้นบ้าง

นายอุทิศ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดกับตนเอง เพราะที่ผ่านมาเราก็ทำดีกับคนอื่นตลอด มีเพื่อนๆ ที่เป็นมุสลิมก็เยอะ มัสยิดที่ไหนต้องการความช่วยเหลือเราก็ช่วยไปตามสมควร เพราะผมย้ายมาจาก อ.สทิงพระ จ.สงขลา มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2497

นายอุทิศ เล่าด้วยว่า นับตั้งแต่เปิดร้านมา 30 ปีแล้ว ยังไม่เคยมีปัญหากับใคร ร้านก็ไม่ถูกงัดแงะลักขโมย รถส่งของตามหมู่บ้านก็ไม่เคยประสบเหตุร้าย แม้แต่กล้องวงจรปิดในร้านก็ไม่ได้ติดตั้ง เพราะฉะนั้นเหตุที่เกิดขึ้นมาจากปัญหาความไม่สงบแน่นอนและชัดเจน เพราะเราไม่เคยมีปัญหาอื่นๆ และในช่วงที่ผ่านมาในพื้นที่เคยมีเหตุรุนแรงหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยร้ายแรงเท่าครั้งนี้

“ที่ผ่านมา ผมได้ติดตามสถานการณ์ปัญหาในพื้นที่มาตลอด มีเพื่อนๆ ที่เป็นมุสลิมมาพูดคุยอยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเราก็จะไม่ประมาท อยู่ในความระมัดระวังตัวตลอด แต่สุดท้ายก็ประสบเหตุกับตัวเองจนได้” นายอุทิศ กล่าว

นายอุทิศ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องการพูดคุยเพื่อสันติภาพระหว่างตัวแทนรัฐบาลไทยกับขบวนการบีอาร์เอ็นนั้น ติดตามอยู่ตลอด เห็นว่าน่าจะได้ผลน้อย เพราะมีกลุ่มก่อเหตุหลายกลุ่ม จึงทำให้การพูดคุยสันติภาพไม่ได้ผลเท่าที่ควร แต่ก็เข้าใจอยู่ว่า ปัญหาที่เกิดเป็นปัญหาที่แก้ยากและเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน

นายอุทิศ กล่าวว่า สำหรับทางแก้ปัญหานั้น โดยส่วนตัวก็มืดมนเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเสนอให้แก้ปัญหากันอย่างไร เพราะที่ผ่านมาจะว่ารัฐไม่แก้ปัญหาเลยก็ไม่ได้ รัฐพยายามแก้ปัญหาดีที่สุดแล้ว แต่เพราะเป็นปัญหาที่แก้ยากจริงๆ ก็เลยยังแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ก็ต้องพยายามแก้ปัญหากันต่อไป แม้จะต้องใช้เวลามากก็ตาม

“พยายามแก้ไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปก็จะมีคนใหม่เข้ามาช่วยแก้ปัญหา ซึ่งก็ต้องหวังว่าคนรุ่นใหม่ๆ จะมีความคิดใหม่ๆ มาแก้ปัญหาได้ในที่สุด” นายอุทิศ กล่าว

ส่วนเจ้าของร้านค้าที่ได้รับความเสียหายที่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี คนหนึ่ง กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ที่ให้ความช่วยเหลือ เช่นเดียวกับหน่วยงานอื่นๆ ทำให้มีกำลังใจที่จะสู้ต่อและยืนหยัดในพื้นที่บ้านเกิด

“สิ่งที่อยากเห็นที่สุดคือ ความสันติสุข ทุกวันนี้ทุกภาคส่วนพยายามที่จะทำให้เหตุการณ์ในพื้นที่สงบ ผมขอสนับสนุนการเจรจาพูดคุยกับกลุ่มขบวนการ หรือมาตรการใดๆก็แล้วแต่ หากมันจะทำให้บ้านเมืองสงบผมก็คิดว่ามันเป็นสิ่งที่ดี” เจ้าของร้านรายนี้ กล่าว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net