Skip to main content
sharethis

18 มี.ค.2558 ตัวแทนองค์กรสิทธิมนุษยชนจากประเทศไทย กล่าวแสดงความห่วงใยต่อปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนภายในประเทศ ในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (Human Rights Council) ครั้งที่ 28 ที่กรุงเจนีวา ระหว่างวันที่ 16-18 มีนาคม 2558

แฟนเพจเฟซบุ๊กบีบีซีไทย รายงานโดยอ้างคำกล่าวของพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ จากฟอรั่มเอเชีย โดยระบุว่าเป็นคำกล่าวในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยแสดงความกังวลต่อสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในบางประเทศ เช่น มาเลเซีย มัลดีฟ และไทย โดยกล่าวถึงกรณีของประเทศไทยว่า มีผู้ถูกจับกุมและส่งตัวดำเนินคดีในศาลทหารมากกว่า 200 ราย  โดยหลายคนถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินจำคุกเพียงเพราะแสดงออกทางการเมืองและชุมนุมอย่างสันติ เช่น กรณีนายอานนท์ นำภา ทนายความสิทธิมนุษยชน และนักกิจกรรมอีก 3 คน ที่ถูกจับกุมด้วยข้อหาชุมนุมทางการเมืองเกินห้าคน เมื่อ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา และถูกส่งตัวดำเนินคดีในศาลทหาร

บีบีซีไทย รายงานโดยอ้างคำกล่าวของพรเพ็ญว่า ได้กล่าวถึงกรณีที่ศาลตัดสินจำคุก 2 นักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการแสดงละครเจ้าสาวหมาป่าว่า ทั้ง 2 คนถูกตัดสินจำคุกสองปีครึ่งด้วยข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งภายหลังการรัฐประหาร มีผู้ถูกศาลทหารตัดสินจำคุกด้วยข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์แล้วไม่ต่ำกว่า 20 ราย บีบีซีไทยรายงานว่า พรเพ็ญกล่าวถึงความกังวลต่อร่างกฎหมายที่กำลังเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติด้วย โดยเฉพาะกฎหมายการชุมนุม และกฎหมายอาชญากรรมไซเบอร์ ซึ่งจะกระทบต่อเสรีภาพในการแสดงออกของคนในประเทศมากยิ่งขึ้น

บีบีซีไทยรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า มีแถลงการณ์จากฮิวแมนไรท์วอทช์ เรียกร้องให้ไทยยกเลิกการดำเนินคดีกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับทั้ง 4 คน และเรียกร้องให้หยุดนำพลเรือนขึ้นดำเนินคดีในศาลทหาร แบรด อาดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าวว่า ประเทศไทยควรยกเลิกการจับกุมผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างสันติ เนื่องจากจะทำให้ประเทศไทยถอยหลังเข้าสู่ระบบเผด็จการที่ลึกลงไปทุกที และในฐานะที่ประเทศไทยรับรองกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางการเมืองและสิทธิพลเมือง  ไทยจึงมีหน้าที่ต้องดูแลสิทธิมนุษยชนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และไม่สามารถให้ศาลทหารพิจารณาคดีของพลเรือนได้ในภาวะที่ศาลปกติยังทำงานได้อยู่

นอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่แถลงการณ์ของมูลนิธิผสานวัฒนธรรมและศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เรียกร้องให้รัฐบาลไทย และ คสช.ยกเลิกการพิจารณาคดีพลเรือนในศาลทหาร และยกเลิกประกาศ คสช.ที่ 37/2557 และ 38 /2557 ซึ่งให้ศาลทหารมีอำนาจพิจารณาคดีพลเรือนในข้อหาความผิดบางประเภท รวมทั้งให้ยกเลิกประกาศที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบทั้งหมด โดยเชื่อว่าศาลพลเรือนปกติในสถานการณ์ปัจจุบันสามารถพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมได้มากกว่าการพิจารณาคดีในศาลทหาร

 

 

 

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net