17 เม.ย. 2559 นายเกรียงไกร ชีช่วง พร้อมเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรพร้อมพวก ต่อพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ข้อหา กระทำการหรือร่วมกันกระทำการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 และมาตรา 310 ในกรณีการหายตัวไปของนายพอละจี บิลลี่
บ้านมึนอ ม.6 ต.ป่าเด็ง
อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี 76170
วันที่ 17 เมษายน 2559
เรื่อง การกล่าวโทษนายนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร อดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กับพวก
เรียน พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
สิ่งที่แนบมาด้วย 1. สำเนาข่าวสดออนไลน์ ลงวันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2558
2. สำเนาข่าวเพชรบุรี โดยเพชรบุรีเคเบิ้ลทีวี ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558
3. สำเนาหนังสือพิมพ์ข่าวสด ฉบับลงวันที่ 9 เมษายน 2559
ข้าพเจ้าเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี ขอเรียนร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2557 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งเป็นอดีตหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ในขณะนั้นกับผู้ใต้บังคับบัญชา ได้บังอาจกระทำการหรือร่วมกันกระทำการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรกับพวกได้ควบคุมตัวนายพอละจีหรือบิลลี่ รักจงเจริญ ไว้ในวันเกิดเหตุ และได้ยอมรับว่าเป็นผู้กระทำการควบคุมตัวนายพอละจีหรือบิลลี่ไว้จริง ซึ่งปัจจุบันไม่มีผู้ใดพบเห็นหรือทราบว่านายบิลลี่อยู่ที่ไหน ตั้งแต่วันเกิดเหตุ 17 เมษายน 2557
ซึ่งสอดคล้องกับคณะทำงานของตำรวจสืบสวนสอบสวนคดีการหายตัวไปของนายพอละจีหรือบิลลี่ โดย พ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย รองผบก.สส.ภ.7 หัวหน้าทีมสืบสวนสอบสวนระบุว่า นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษรกับพวก ยังไม่ได้ปล่อยตัวนายพอละจีหรือบิลลี่ ตามเอกสารสิ่งที่แนบมาด้วย 1-3 เนื่องจากการหายตัวไปของนายพอละจีหรือบิลลี่ รักจงเจริญ โดยนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวก เป็นการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 โดยการข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น และเป็นการกระทำความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ที่หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย นอกจากนี้การทำให้นายพอละจีหรือบิลลี่ กลายเป็นผู้ที่ซึ่งถูกบังคับให้สูญหายยังเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้จากการกระทำของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ถือเป็นการกระทำความผิดที่ขัดต่อหลักกฎหมายและขัดต่อความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดีของประชาชน และในเรื่องนี้ยังเป็นที่ติดตามและให้ความสนใจของประชาชนด้วยจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
จึงขอเรียนต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการสอบสวนและดำเนินการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 309 และมาตรา 310 ต่อผู้กระทำความผิด ตามที่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษไว้ในหนังสือฉบับนี้
ขอแสดงความนับถือ
มาตรา 309 ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการ ใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 310ทวิ ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วย ประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และให้ผู้อื่นนั้นกระทำ การใดให้แก่ผู้กระทำหรือบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี และปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)