Skip to main content
sharethis

ครอบครัวของพอละจี ร่วมด้วยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ยื่นฟ้องแพ่งกรมอุทยานฯ เรียกร้องค่าเสียหาย 26 ล้านบาท จากกรณีเจ้าหน้าที่ในสังกัดมีส่วนร่วมอุ้มฆ่า 'พอละจี' ศาลนัดชี้สองสถาน 10 มิ.ย.นี้

 

4 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งวันนี้ (4 เม.ย.) เวลา 9.30 น. ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ แม่และลูกของ 'บิลลี่' พอละจี รักจงเจริญ นักต่อสู้เพื่อสิทธิที่ดินทำกินชาวกะเหรี่ยงบางกลอย-ใจแผ่นดิน จ.เพชรบุรี ร่วมเป็นโจทก์ฟ้องคดีความต่อกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เป็นจำเลย กรณีเจ้าหน้าที่ภายในสังกัดของจำเลยกระทำละเมิดโดยการอุ้มฆ่า ‘พอละจี’ ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 โดยเรียกค่าสินไหมทดแทน อาทิ ค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาเรียกร้องความเป็นธรรม ค่าเสียหายต่อสิทธิ เสรีภาพและชีวิต ค่าเสียหายต่อจิตใจ ค่าขาดแรงงานในครัวเรือน และค่าขาดไร้อุปการะ รวมเป็นเงินต้นกว่า 26 ล้านบาท

เมื่อ 17 เม.ย. 2557 พอละจี รักจงเจริญ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง 'บางกลอย-ใจแผ่นดิน' ได้ถูกจับกุมและควบคุมตัวไปโดยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในขณะนั้น กับพวก หลังจากนั้น ไม่มีใครทราบชะตากรรมของพอละจี อีกเลย 

จนกระทั่ง เมื่อปี 2562 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ได้รับเป็นคดีพิเศษ และได้ทำการสำรวจพื้นที่ใต้น้ำ บริเวณใต้สะพานแขวน เชื่อนแก่งกระจาน จนพบชิ้นส่วนกระดูกในถัง และนำมาสู่การตรวจสอบ พบว่าเป็นของพอละจี

ต่อมา DSI และอัยการได้ร่วมกันติดตามสอบสวนคดีดังกล่าวจนได้พยานหลักฐานเพิ่มเติมอันเชื่อได้ว่า กลุ่มเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่จับกุมพอละจี ไปนั้นได้ร่วมกันกระทำความผิดต่อนักปกป้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง ในคดีร่วมกันฆาตรกรรมอำพรางโดยไตร่ตรองไว้ก่อน

อย่างไรก็ตาม เมื่อ 28 ก.ย. 2566 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางอ่านคำพิพากษาคดีชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร และพวกรวม 4 คน ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ และข้อหาร่วมกันฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จากกรณีการหายตัวไปของ 'บิลลี' พอละจี รักจงเจริญ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนชาวกะเหรี่ยงบางกลอย โดยศาลสั่งจำคุก 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา ข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ฐานจับกุม 'บิลลี่' พร้อมน้ำผึ้งป่า แต่ไม่นำส่งตำรวจ

ส่วนคดีร่วมกันฆ่าบิลลี่ โดยไตร่ตรอง พยานหลักฐานยังไม่อาจเชื่อได้ว่าชัยวัฒน์และพวก ร่วมกันฆ่าบิลลี่ ยกฟ้องคดีฆ่าทำลายศพ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) และ พิณนภา พฤกษาพรรณ หรือ มึนอ ภรรยาพอละจี นำยื่นและศาลแพ่ง ถ.รัชดาฯ รับคำฟ้อง เพื่อตรวจฟ้องคดีแพ่งพอละจี เลขคดี พ.1459 นัดชี้สองสถานนัดแรก วันที่ 10 มิ.ย. 2567 เบื้องต้น ศาลรับคำฟ้องเพื่อตรวจคำฟ้อง และมีนัดไต่สวนยกเว้นค่าธรรมเนียมวันนี้

'มึนอ' พิณนภา พฤกษาพรรณ

"อยากจะได้รับความยุติธรรม คนทั้งคนหายไป ต้องมีเหตุอะไรซักอย่างแน่นอน ต้องมีใครสักคนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบ" ภรรยานายพอละจี รักจงเจริญ ผู้รับมอบอำนาจและผู้แทนโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์รวม 7 คนในการฟ้องคดี แพ่งในวันนี้

ล่าสุด ทางมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุว่า เมื่อเวลา 15.30 น. ศาลแพ่งมีคำสั่งว่าพิเคราะห์จากคำร้องและพยานหลักฐานที่โจทก์ทั้งเจ็ดยื่นมาพร้อมคำร้องประกอบคำฟ้องแล้ว เห็นว่าคดีของโจทก์ทั้งเจ็ดมีเหตุผลอันสมควรที่จะฟ้องร้อง และโจทก์ทั้งเจ็ดเป็นคนไม่มีทรัพย์สินในการจะเสียค่าธรรมเนียมศาล จะได้รับความเดือดร้อนเกินสมควร เมื่อพิจารณถึงสถานะของโจทก์ทั้งเจ็ดจึงอนุญาตให้โจทก์ทั้งเจ็ดได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล

สำหรับ 'นัดชี้สองสถาน' คือศาลนัดชี้สองสถานเพื่อให้ฝ่ายโจทก์และจำเลยกำหนดประเด็นข้อพิพาทที่จะนำเข้าสืบในชั้นศาล

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net